ก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสองสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการเช็กเลขไมค์รถมือสอง ซึ่งจะช่วยให้รู้ว่ารถผ่านการขับขี่มาด้วยระยะทางไกลแค่ไหน และควรตัดสินใจซื้อหรือเปล่าเพื่อเทียบราคาว่ารถคันนี้ควรอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ รวมถึงเป็นข้อมูลสำหรับเปรียบเทียบประกันรถชั้น 2+ ราคา ว่า เหมาะกับรถยนต์มือ 2 คันที่ต้องการซื้อหรือเปล่า
ปัจจุบันรถมือสองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนซื้อรถ และประกันชั้น 2+ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนใช้รถเช่นกัน ที่ดูแลคุ้มครองไม่ต่างกับชั้น 1 ซึ่งจุดต่างจากชั้น 1 คือการเคลมประกันจะต้องมีคู่กรณี ส่วนราคาประกันจะถูกกว่าชั้น 1 เกือบเท่าตัว ส่วนความคุ้มครองที่ Inserverse กำลังพูดถึงมีดังนี้
ส่วนวิธีการเช็ก Inserverse แนะนำวิธีง่าย ๆ ดังนี้
การดูเลขไมค์รถมือสองว่าผ่านการขับขี่แบบสมบุกสมบันมากแค่ไหนคือจะต้องเช็กสภาพภายนอกและภายในรถว่า เลขไมค์รถมือสองกับสภาพรถควรสอดคล้องกัน เพราะหากดูจากสภาพรถและเลขไมค์ที่ปรากฏล่าสุดแล้วไม่สอดคล้องกัน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผ่านการกรอไมค์มาเรียบร้อยแล้ว
ต่อเนื่องกันด้วยเรื่องของปีการจดทะเบียนรถว่าจดในปีไหน จากนั้นลองมาคำนวณว่าใช้ประกันรถชั้น 2+ ราคาถูกไปบ่อยแค่ไหน อีกทั้งเช็กดูว่าเจ้าของเดิมมีการเปลี่ยนอะไหล่รถตามเวลาหรือตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงไปส่วนไหนบ้าง
ลองนำข้อมูลที่ปรากฏในเล่มทะเบียนรถยนต์มือสอง ที่จะซื้อไปเช็กดูประวัติการเช็กระยะตามศูนย์บริการทั่วประเทศ ซึ่งปกติทั่วไปหากเป็นรถเกรดดี หรือเจ้าของเป็นคนขายเองจะยินยอมให้ตรวจสอบประวัติด้วยดี แต่หากมียึกยัก Inserverse ให้สันนิษฐานก่อนว่ามีการกรอไมค์มาก่อน
ถึงแม้ว่ารถมือสองหลายคันภายนอกดูดีแค่ไหน แต่หากซื้อโดยไม่ตรวจสอบภายในและช่วงล่างให้ดี อาจจะเจอปัญหากมายตามมาแบบฟูลออปชันง่าย ๆ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการซื้อรถยูสคาร์มาใช้และลดปัญหาการต่อประกันชั้น 2+ หรือประกันรถชั้น 2 ราคาเบากระเป๋า ด่านแรกของการเช็กรถคือเลขไมค์ โดยสามารถทำตามคำแนะนำของ Inserverse ได้ทุกข้อ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง