ไฟสูงใช้ตอนไหน? คำถามสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะวิธีใช้ไฟสูงนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในหลายๆ สถานการณ์เวลาสัญจรไปไหนมาไหน สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าเปิดไฟสูงยังไง? ควรใช้ตอนไหนถึงจะทำให้การขับขี่ปลอดภัยที่สุด! วันนี้เราจะมาปลดล็อกข้อสงสัยนี้กัน เพื่อให้ทุกคนใช้ไฟสูงรถยนต์ได้แบบมือโปรและถูกที่ ถูกเวลา ถูกสถานการณ์มากขึ้น ควบคู่ไปกับการทำประกันรถยนต์ที่จะช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนในทุกๆ การเดินทางเป็นไปด้วยความอุ่นใจปลอดภัยมากที่สุด
มาดูกันดีกว่าว่า 5 วิธีใช้ไฟสูงที่ถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ทุกคนขับรถได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากมีอะไรบ้าง? จะได้รู้ไว้แล้วลองนำไปใช้จริงกัน เพราะการขับขี่รถยนต์ในช่วงที่แสงสว่างไม่เพียงพอหรือช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดี ถ้ารู้วิธีใช้ไฟสูงอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้การขับรถง่ายขึ้น เป็นการส่องสว่างให้เห็นทางชัดและเพื่อเป็นให้สัญญาณเตือนรถรอบข้าง นอกจากนี้ผู้ขับขี่จำเป็นต้องมีประกันรถยนต์ติดเอาไว้เพื่อความอุ่นใจในการเดินทางด้วย จะได้ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น ถ้าทำประกันเรียบร้อย ก็ตามไปดูวิธีใช้การใช้ไฟสูงกันเลย
การขับรถในที่มืดหรือที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ อาทิเช่น ถนนแถบชนบทหรือพื้นที่ห่างไกล, ในซอยเปลี่ยวที่ไม่มีไฟถนนส่องสว่างเลย ทำให้ถนนที่ใช้เดินทางมืดไปหมด การใช้ไฟสูงจะช่วยทำให้คุณมองเห็นเส้นทางและสิ่งกีดขวางล่วงหน้าได้ชัดเจนมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ดี
ไฟสูงใช้ตอนไหน ถ้ามีรถสวนทางใช้ยังไง? ใครที่เปิดไฟสูงเอาไว้ แล้วพบว่ามีรถสวนทางผ่านมา ควรปิดไฟสูงแล้วตบไฟต่ำทันที! เพื่อแสดงความมีน้ำใจในการขับขี่ ป้องกันไม่ให้แสงไฟรบกวนสายตาผู้ขับขี่ของรถคันที่กำลังสวนมา ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นได้
ในส่วนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นและเป็นถนนที่มีแสงสว่างเพียงพอ การใช้ไฟสูงถือว่าไม่จำเป็น เพราะการเปิดไฟสูงในที่ที่การจราจรติดขัด อาจจะกวนสายตาผู้ขับขี่รถที่สัญจรไปมาได้
อีกหนึ่งกรณีที่ไม่ควรเปิดไฟสูงก็คือ การที่รถยนต์ของคุณกำลังขับตามรถคันข้างหน้า ควรปิดไฟสูงทันที เพราะการเปิดไฟสูงสาดใส่รถคันหน้าอาจจะทำให้ผู้ขับขี่คันข้างหน้ามองไม่เห็นทางและขับรถได้ลำบากกว่าเดิม ในสถานการณ์แบบนี้คุณควรใช้ไฟต่ำเท่านั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตัวเองและผู้อื่นมากที่สุด
วิธีกะพริบไฟสูงที่ควรทำก็คือ เมื่อต้องการสื่อสารกับผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ เช่น กะพริบไฟสูงเพื่อเตือนให้รถยนต์คันอื่นรู้ ว่าข้างหน้ามีอันตรายหรือสื่อสารให้รถคันอื่นๆ ทราบ เกี่ยวกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถคันนั้น เช่น ฝาน้ำมันยังไม่ได้ปิดและมีของอยู่ด้านบนตัวรถ ฯลฯ แต่การใช้ไฟสูงเพื่อสื่อสารต้องทำอย่างรอบคอบและเหมาะสม เพราะอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิด ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ด้วย
วิธีใช้ไฟสูงที่เหมาะสมก็คือ ใช้เพื่อส่องสว่างให้เห็นทางโดยที่ไม่รบกวนรถยนต์สัญจรคันอื่นและใช้เพื่อเป็นสัญญาณเตือนในกรณีที่อาจจะเกิดอันตราย รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมเปิดไฟสูงกันให้ถูกที่และถูกเวลากันด้วยนะ ที่สำคัญใครที่รู้ตัวว่าต้องขับรถกลางค่ำกลางคืนบ่อย แล้วไม่อยากมีความเสี่ยงอันตรายระหว่างทาง ควรทำประกันรถยนต์เอาไว้ด้วย เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันจะมาถึงตัวเมื่อไหร่ ประกันรถยนต์ออนไลน์ insurverse จะช่วยทำให้คุณอุ่นใจในทุกๆ การเดินทาง ไม่ว่าจะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดในรูปแบบใด รถยนต์และตัวคุณก็จะได้รับความคุ้มครอง 100% ด้วยเบี้ยประกันรถราคาน่ารัก เป็นมิตรกับสะตุ้งสตางค์ในกระเป๋า บอกเลยซื้อเอาไว้แล้วดี ทุกๆ การเดินทางของคุณจะปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้นแน่นอน!
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง