ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขายรถยนต์ ล้วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ เพราะหนังสือสัญญาซื้อขายรถยนต์มีความสำคัญมาก หากไม่ทำความเข้าใจให้ดีอาจทำให้เกิดความผิดพลาดหรือหากมีรายละเอียดที่ไม่ครอบคลุมจะส่งผลให้คุณเสียเปรียบในการซื้อขายได้ง่ายๆ เพื่อให้การซื้อขายรถเป็นไปอย่างราบรื่นปลอดภัย คุณควรรู้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนว่าสัญญาซื้อขายรถที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทกับบุคคลนั้นเป็นเพียงการทำสัญญาตกลงกันตามเอกสารว่ายังเป็นเพียงผู้จะซื้อและผู้จะขายตามข้อตกลงในสัญญาเท่านั้น จะไม่เหมือนกันกับการไปดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ที่กรมขนส่ง ถ้ามาดำเนินการที่กรมขนส่งเมื่อไหร่? นั่นถึงจะเป็นขั้นตอนการเปลี่ยนเจ้าของรถที่สมบูรณ์ รถจะกลายเป็นของผู้ซื้อตามกฎหมายทันที insurverse จึงอยากจะขออธิบายรายละเอียดสำคัญต่างๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายรถที่ถูกต้องตามกฎหมายให้คุณได้ศึกษาเป็นแนวทาง ก่อนจะไปดำเนินการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการซื้อหรือขายรถเพิ่มเติม ไปดูข้อมูลกันต่อเลยค่ะ ว่าควรระมัดระวังในเรื่องไหน? ต้องรู้อะไรอีกบ้าง?
สัญญาซื้อขายรถยนต์ คือ เอกสารสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหาหรือข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยรายละเอียดในหนังสือสัญญาซื้อขายรถยนต์ควรระบุเงื่อนไขหรือข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้ครบถ้วน ซึ่งรายละเอียดที่ควรมีในเอกสาร ต้องบอกถึงลักษณะรถยนต์ที่จะทำธุรกรรมเอาไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นประเภทรถยนต์, สีรถยนต์, หมายเลขตัวถัง, ยี่ห้อ, รุ่นและสภาพจริงของรถยนต์ที่ทำสัญญา เป็นต้น เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ เป็นสิ่งที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ได้อย่างถูกต้องและเป็นข้อมูลประกอบการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งทางบกอีกด้วยค่ะ
การทำสัญญาซื้อขายรถที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องระบุรายละเอียดสำคัญ ได้แก่ ข้อมูลของคู่สัญญา, รายละเอียดของรถยนต์และรายละเอียดการซื้อขาย เป็นต้น รวมถึงผู้ซื้อ, ผู้ขายและพยานอย่างน้อย 2 คน ลงนามในสัญญาซื้อขายรถยนต์ให้เรียบร้อย
สัญญาซื้อขายรถยนต์แบ่งได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
สัญญาซื้อขายประเภทนี้สามารถทำได้ทั้งการซื้อรถใหม่ป้ายแดงและรถยนต์มือสอง โดยผู้ซื้อจะชำระค่ารถยนต์เต็มจำนวนและผู้ขายจะต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อทันทีเมื่อได้รับการชำระเงินแล้ว การซื้อขายแบบนี้สามารถทำได้ทั้งแบบการทำสัญญาซื้อขายแบบโอนตรงหรือสัญญาซื้อขายรถโอนลอยก็ได้ค่ะ
สัญญาซื้อขายรถโอนลอยมักจะพบเห็นได้ในการซื้อรถยนต์มือสองหรือเต็นท์รถ โดยผู้ขายรถได้ลงนามในเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปโอนเป็นชื่อของตัวเองหรือให้ทางเต็นท์รถนำไปขายต่อ แม้ว่าการทําสัญญาซื้อขายรถกันเองในลักษณะนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการทำธุรกรรมของผู้ขาย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงหากผู้ซื้อไม่ดำเนินการส่งเอกสารโอนรถให้เรียบร้อย จะทำให้ที่ผู้ขายอาจจะได้รับผิดชอบการกระทำต่างๆ ในฐานะเจ้าของรถแทน หากเกิดปัญหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์คันดังกล่าว
แม้ว่ารายละเอียดทั่วไปในสัญญาซื้อขายรถยนต์มือสองจะมีความคล้ายกับสัญญาซื้อขายรถแบบปกติ แต่ในสัญญาซื้อขายรถยนต์จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการตกลงเรื่องการซ่อมแซมก่อนส่งมอบและประวัติรถเพิ่มเข้ามา
การทำเช่าซื้อรถยนต์เป็นการทำสัญญาผ่อนชำระกับไฟแนนซ์ โดยผู้ซื้อจะต้องชำระค่างวดให้ครบตามมูลค่ารถยนต์ที่ระบุเอาไว้ในสัญญาก่อนจึงจะโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้กับผู้ซื้อได้ นอกจากนี้ผู้ขายสามารถคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะระบุรายละเอียดเอาไว้ในสัญญาซื้อขายรถยนต์ตามที่ได้ตกลงกันค่ะ
ผู้ซื้อหรือผู้ขายสามารถร่างสัญญาซื้อขายรถยนต์ขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองได้ แต่ต้องคำนึงถึงรายละเอียดที่ระบุเอาไว้ในสัญญาจะต้องมีความรัดกุม ดังนี้
ทั้งนี้ หากคุณมีความกังวลว่าทําสัญญาซื้อขายรถกันเองจะไม่ครบถ้วน คุณสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มสัญญาซื้อขายรถยนต์ word จากเว็บไซต์กรมขนส่งทางบก https://www.dlt.go.th/th/e-form/, เว็บไซต์สำนักงานขนส่งจังหวัดที่คุณอยู่หรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่น่าเชื่อถือได้ด้วยตัวเองได้ค่ะ
ก่อนทำสัญญาซื้อขายรถยนต์แนะนำหาตัวอย่างหนังสือสัญญาซื้อขายรถยนต์ที่ถูกต้องมาใช้ เพื่อให้เอกสารรัดกุม มีข้อมูลและรายละเอียดที่สำคัญครบถ้วน สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มสัญญาซื้อขายรถยนต์ ได้ที่หน้าเว็บไซต์กรมขนส่งทางบก https://www.dlt.go.th/th/e-form ตรงหมวดทะเบียนรถยนต์ ได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ควรให้ความสำคัญกับการระบุเงื่อนไขการชำระค่างวดรถยนต์และการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ หากเจ้าของเดิมทำประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับเอาไว้ในสัญญา ควรเปลี่ยนชื่อผู้ได้รับความคุ้มครองในประกันรถยนต์ที่ทำเอาไว้ด้วยและสิ่งสำคัญที่ห้ามลืมจะต้องมีพื้นที่ในเอกสารสัญญาให้ทั้งสองฝ่ายลงนามในสัญญาต้นฉบับและคู่สัญญาด้วยค่ะ
สำหรับข้อควรระวังในการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ มีดังนี้
โดยปกติแล้วหากผู้ซื้อชำระค่ารถครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายรถยนต์และผู้ขายดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้เรียบร้อยแล้ว จะถือได้ว่ากระบวนการซื้อขายเสร็จสิ้น แต่หากผู้ซื้อไม่ชำระค่างวดรถตามที่ตกลงไว้หรือผู้ขายไม่โอนกรรมสิทธิ์ให้ถูกต้องสัญญาซื้อขาย จะมีอายุความ 10 ปี ที่สามารถนำไปฟ้องร้องดำเนินคดีกันต่อศาลได้
การทำสัญญาซื้อขายรถยนต์เป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองจึงควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในสัญญา, การลงนามในสัญญาและความถูกต้องของเอกสารแนบท้ายสัญญาตามกฎหมายให้ดีค่ะ ถ้าซื้อรถเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ารถที่ซื้อมายังไม่มีประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าหรือในสัญญาซื้อขายรถยนต์มือสองและป้ายแดงที่ทำมา รถเดิมไม่มีประกันในแบบที่คุณถูกใจ สามารถเข้ามาเช็คเบี้ยประกัน insurverse เพื่อดูราคาและความคุ้มครองที่ตรงใจได้เลยค่ะ จะได้จัดการประกันรถยนต์ด้วยตัวเองผ่านออนไลน์ได้เลย เลือกรับความคุ้มครองที่ครอบคลุมเพื่อเป็นตัวช่วยในการเดินทาง ให้ทุกการขับขี่ของคุณมีแต่ความปลอดภัย จะเดินทางไปที่ไหนก็มีแต่ความมั่นใจยิ่งกว่าเดิมค่ะ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รู้ความหมายของป้ายจราจรทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ป้ายจราจรทั้งหมดพร้อมความหมาย ช่วยลดอันตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
รู้สึกเหมือนรถโดนดึงเวลาขับอาจเป็นเพราะไฟเบรคค้างอย่าปล่อยไว้นาน พบสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาก่อนใครในบทความนี้