ถึงฤกษ์งามยามดีที่ต้องถอยรถป้ายแดงเพื่อเสริมความสะดวกสบายในการเดินทาง เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถต่อยอดทั้งการทำงาน, การดำเนินธุรกิจและเติมเต็มความฝันให้เป็นจริงได้ รับรองได้เลยว่าใครที่มีรถคนแรกต้องรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ที่สามารถมีรถใหม่มาใช้งานได้ แต่การจะออกรถเราจะต้องรู้ข้อมูลสำคัญอย่างการต้องเช็ครถ แต่จะเช็กอะไรบ้างไปดูกันเลย
แม้ถอยรถป้ายแดงก็ต้องเช็ครถว่ามีสภาพอย่างไร ไม่ควรละเลยเด็ดขาดเริ่มต้นด้วยการเดินสำรวจรอบคันว่ามีรอยหรือไม่, เปิดปิดประตูทุกบานเพื่อตรวจความผิดปกติ, การเช็กขอบยางดูว่ามีรอยยุบหรือมีอาการบวมหรือไม่ นอกจากนี้ยางปัดน้ำฝนก็จะต้องแนบสนิทไปกับกระจก, ไฟท้ายไฟเลี้ยวต้องไม่มีริ้วรอยพร้อมทั้งตรวจสภาพยางล้อรถว่าอยู่ในสภาพใหม่พร้อมใช้งานหรือไม่ เป็นต้น
หลังจากตรวจเช็กรถป้ายแดงรอบนอกแล้ว การตรวจเช็ครถภายในก็เป็นสิ่งสำคัญ อาทิ เช็กคุณภาพเครื่องปรับอากาศ, เช็กไฟทุกดวง, เช็กคุณภาพระบบเสียง, ดูว่าเบาะที่นั่งมีรอยคราบเปื้อนหรือไม่ตลอดจนลองเสียบกุญแจรถเพื่อลองสตาร์ทรถ เช็กระบบเบรกมือและระบบล็อก ว่าสามารถล็อกรถและปลดล็อกรถได้ปกติไหม เป็นต้น
สำหรับการตรวจเช็กเอกสารก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เอกสารในการออกรถยนต์ใหม่ประกอบไปด้วย การเช็กเล่มสมุดทะเบียนรถดูเลขของตัวถังรถ, เช็กเอกสารการโอนรถซึ่งต้องมีประกันรถยนต์ประกอบอยู่ในเล่มด้วย, เช็กใบเสร็จเงินยอดตรงหรือไม่, เช็กป้ายรถป้ายแดงว่ามีตรา ขส. (ขนส่ง) หรือไม่และภายในรถจะต้องมีสมุดคู่มือรถ เป็นต้น
วันรับรถป้ายแดงต้องเตรียมเงินให้พร้อม ประมาณ 3-5 พันบาท บาท เพราะจะมีค่าจดทะเบียนและอาจต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย ส่วนใหญ่รถป้ายแดงจะเป็นประกันภัยชั้น 1 จะมีค่าใช้จ่ายประมาณหลักหมื่น อย่างไรก็ตามแล้วเมื่อได้รถมา 1 คัน ก็จะมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมันรถ, ค่าเช็กสภาพรถหรือค่าภาษีรถ เป็นต้น ใครที่ต้องการออกรถใหม่ควรเตรียมตัวกับทุกค่าใช้จ่ายเอาไว้ด้วยเสมอ จะทำให้มีรถคู่ใจใช้งานได้แบบไม่มีปัญหาในภายหลัง
เพื่อให้การออกรถป้ายแดงได้รถที่ดีที่สุด จึงจำเป็นต้องรู้ข้อมูลว่าควรตรวจเช็ครถตรงไหนบ้าง เมื่อได้รับรถแล้วต่อมาเราก็ต้องมองหาประกันรถยนต์คุณภาพ มาเสริมความปลอดภัยให้กับรถ สามารถเลือกซื้อประกันกับ insurverse ได้เลย ให้บริการรวดเร็วทันใจ ซื้อง่ายผ่านออนไลน์ได้เลย คลิกเช็คประกันรถยนต์ insurverse ออนไลน์ได้ที่นี่ ให้บริการหลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถคู่ใจได้ตามความต้องการไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+ หรือประกันชั้น 3+ ก็สุดคุ้มกับความคุ้มครองที่ได้รับ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง