สำหรับใครที่ประกันรถยนต์กำลังจะหมดอายุหรือกำลังที่จะทำประกันรถยนต์ใหม่ให้กับรถมือสอง หรือกำลังมองหาประกันแผนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประกันรถยนต์ชั้น 1 หลายคนคงสนใจจะทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ เพราะมีความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 มากที่สุด และมีราคาที่ถูกกว่าประกันชั้น 1 เรามาดูกันว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ แตกต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างไรบ้างทั้งเรื่องของความคุ้มครองและเรื่องของราคา
ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมที่สุด โดยจะคุ้มครองคุณดังนี้
โดยประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคุ้มครองคล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่จะแตกต่างกันตรงที่ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะไม่คุ้มครองในกรณีเกิดการชนแบบไม่มีคู่กรณีนั่นเอง
แน่นอนว่าเมื่อความคุ้มครองของทั้ง 2 ประกันรถยนต์มีความแตกต่างกัน อีกสิ่งที่แตกต่างกันด้วยคือเรื่องของราคาเบี้ยประกัน เรามาดูกันว่า ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ของทั้งสอง แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
จะเห็นได้ว่าราคาของทั้งสองมีความแตกต่างกันพอสมควร หากใครที่มีงบจำกัด ก็สามารถตัดสินใจทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ แทนประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้เช่นเดียวกัน เพราะความคุ้มครองมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยหากคุณมีความชำนาญในการขับขี่มากพอสมควร การเลือกทำประกันชั้น 2+ ก็เป็นทางเลือกที่ดี และเหมาะสมกับตัวคุณไม่แพ้ประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่หากคุณยังไม่ค่อยมั่นใจ การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือว่าคุ้มครองและครอบคลุมมากที่สุดและดีที่สุด และในปัจจุบันสามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันได้ทำให้ไม่เป็นภาระของค่าใช้จ่ายมากเท่าไหร่ การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นเรื่องที่ดีเช่นเดียวกันในปัจจุบัน
ไม่ว่าคุณจะเลือกทำประกันรถยนต์ในแผนไหน สามารถเลือกทำประกันรถยนต์ราคาถูกได้ที่ insurverse คุณสามารถซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ได้ทันที ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกซื้อประกันรถยนต์ และยังสามารถเลือกผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตได้ 0% นาน 10 เดือน ทั้งคุ้มค่า และคุ้มครองคุณได้อย่างดี ทำประกันรถยนต์กับเราวันนี้ แถมฟรีความอุ่นใจในการขับขี่ของคุณ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง