vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ขับรถประมาทจนบาดเจ็บสาหัส อายุความกี่ปี? ประกันเคลมไหม? เช็กข้อกฎหมายที่ต้องรู้

ขับรถประมาทจนบาดเจ็บสาหัส อายุความกี่ปี? ประกันเคลมไหม? เช็กข้อกฎหมายที่ต้องรู้

schedule
share

การขับรถโดยประมาทเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนน และเมื่อมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คดีที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่แค่เรื่องของประกันภัยหรือค่าชดเชยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับกฎหมายอาญาโดยตรง ซึ่งผู้กระทำผิดอาจต้องรับโทษทั้งจำคุกและปรับ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่า “คดีขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส มีอายุความกี่ปี” และควรดำเนินคดีภายในเวลากี่ปีเพื่อไม่ให้สิทธิ์ฟ้องหมดไป

นอกจากนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชนหรือคนถูกชน การมี ประกันรถชั้น 1 ไม่ได้แค่ช่วยซ่อมรถ แต่ยังคุ้มครองค่าใช้จ่ายกรณีเกิดอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บและความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ลดภาระหนักจากค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด และให้ความอุ่นใจในทุกเส้นทาง

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส

ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ได้กำหนดโทษสำหรับผู้ที่ขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส โดยระบุว่า ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ คำว่า “บาดเจ็บสาหัส” ในที่นี้หมายถึงการได้รับบาดเจ็บในระดับที่มีผลกระทบต่อชีวิตและความสามารถในการดำรงชีวิต เช่น การสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร หรือได้รับบาดเจ็บจนต้องรักษาตัวเกินกว่า 20 วัน เป็นต้น ซึ่งมีการระบุไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297

อายุความของคดีขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส

อายุความของคดีอาญานั้นจะขึ้นอยู่กับโทษสูงสุดของความผิดที่ถูกกำหนดไว้ในกฎหมาย โดยมีการระบุไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 ซึ่งระบุอายุความของคดีอาญาตามโทษจำคุกที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:

  • หากโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี อายุความคือ 5 ปี
  • หากโทษจำคุกสูงสุดเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปี อายุความคือ 10 ปี
  • หากโทษจำคุกสูงสุดเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี อายุความคือ 15 ปี

สำหรับคดีขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี อายุความจึงเท่ากับ 10 ปี หมายความว่าผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีอาญาได้ภายใน 10 ปีนับจากวันที่เกิดเหตุ มิฉะนั้นสิทธิ์ในการฟ้องร้องจะหมดไป

อายุความของคดีแพ่งจากอุบัติเหตุจราจร

นอกจากคดีอาญาแล้ว ผู้เสียหายยังสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งได้ด้วย โดยอายุความของคดีแพ่งจากอุบัติเหตุทางจราจรมีรายละเอียดดังนี้

  • หากเป็นการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการละเมิด (เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูร่างกาย) อายุความคือ 1 ปี นับจากวันที่ทราบถึงการละเมิดและตัวผู้กระทำผิด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448
  • หากเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายจากสัญญาประกันภัย (เช่น เรียกร้องค่าชดเชยจากประกันรถยนต์) อายุความคือ 2 ปี ตาม พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535

วิธีดำเนินคดีเมื่อถูกขับรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัส

หากเกิดอุบัติเหตุและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ควรดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มีการบันทึกเหตุการณ์และสอบสวนข้อเท็จจริง
  2. เข้ารับการรักษาพยาบาลและเก็บหลักฐานทางการแพทย์ เช่น ใบรับรองแพทย์ รายละเอียดค่ารักษาพยาบาล
  3. รวบรวมพยานหลักฐาน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานจากพยานที่เห็นเหตุการณ์
  4. ติดต่อทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินคดี
  5. ยื่นฟ้องภายในอายุความ ไม่ว่าจะเป็นคดีอาญาหรือคดีแพ่ง ผู้เสียหายต้องยื่นฟ้องภายในกรอบเวลาที่กำหนดเพื่อรักษาสิทธิ์ของตน

แนวคำพิพากษาของศาลเกี่ยวกับคดีขับรถโดยประมาท

จากแนวคำพิพากษาฎีกา มีหลายกรณีที่ศาลพิจารณาความผิดเกี่ยวกับคดีขับรถโดยประมาทจนเกิดบาดเจ็บสาหัส เช่น

  • ฎีกาที่ 3284/2552 ระบุว่า หากผู้ขับขี่จอดรถโดยไม่มีการให้สัญญาณไฟ และเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ขับขี่จะถูกพิจารณาว่ามีส่วนกระทำโดยประมาท
  • ฎีกาที่ 3557/2531 กรณีที่ผู้ขับขี่ตัดหน้ารถจักรยานยนต์จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกระทำโดยประมาท

สรุป

คดีขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสมีอายุความ 10 ปี ตามกฎหมายอาญา มาตรา 95 และสามารถดำเนินคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ภายใน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของการเรียกร้อง ผู้เสียหายควรดำเนินการตามกฎหมายภายในกรอบเวลาที่กำหนด เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นอกจากการรู้ข้อกฎหมายแล้ว การป้องกันก่อนเกิดเหตุย่อมดีที่สุด เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ กับ insurverse วันนี้ ได้ราคาถูกกว่าเพราะเป็นการซื้อประกันโดยตรง ไม่ผ่านตัวแทน สามารถเลือกแผนได้เองตามความต้องการ ซื้อง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก พร้อมให้ความคุ้มครองทั้งรถและบุคคลภายนอกแบบครบวงจร

5 คำถามที่พบบ่อย

หากเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถประมาท แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัส จะเข้าข่ายความผิดอะไร?

ในกรณีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัส ผู้ขับขี่อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งมีโทษเบากว่าการทำให้เกิดอาการบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวยังคงผิดกฎหมายและอาจมีโทษทั้งจำคุกและปรับตามกฎหมายจราจรทางบก

ถ้าผู้บาดเจ็บเสียชีวิตภายหลังจากอุบัติเหตุ คดีจะถูกเปลี่ยนเป็นอะไร?

หากผู้บาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตภายหลัง อัยการอาจเปลี่ยนข้อหาเป็น “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ซึ่งมีโทษหนักขึ้น โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับสูงสุดถึง 200,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

การหลบหนีหลังจากขับรถชนมีผลต่อคดีอย่างไร?

หากผู้ขับขี่หลบหนีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ จะถูกพิจารณาว่ามีเจตนาหลีกเลี่ยงความรับผิด และอาจถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติม เช่น ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ หรือไม่แจ้งเหตุแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีโทษปรับและจำคุกเพิ่มเติมตามกฎหมายจราจรทางบก

หากผู้เสียหายยอมความ คดียังดำเนินต่อไปหรือไม่?

คดีขับรถโดยประมาทที่ทำให้เกิดบาดเจ็บสาหัสเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน แม้ว่าผู้เสียหายจะยอมความหรือไม่ติดใจเอาความ คดีก็ยังคงดำเนินต่อไปโดยอัยการสามารถฟ้องร้องแทนรัฐได้ เนื่องจากเป็นคดีที่กระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ

หากผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่ขณะเกิดอุบัติเหตุ โทษจะหนักขึ้นหรือไม่?

หากผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่หรือใบขับขี่หมดอายุในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และหากมีการขับขี่โดยประมาทจนทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัส โทษที่ได้รับอาจเพิ่มขึ้นจากการพิจารณาของศาล

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย