หลายท่านที่กำลังหนักใจเกี่ยวกับงบประมาณในการทำประกันรถยนต์ บางท่านอาจชำนาญในการขับรถแล้วและรถมีอายุที่มาก จึงตัดสินใจเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 3 เพื่อเป็นตัวเลือกในการประหยัดงบประมาณของคุณ แต่ก่อนอื่นที่คุณจะเริ่มทำประกันรถยนต์ชั้น 3 เราอยากให้คุณทราบถึงข้อดีและข้อเสียของการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก่อน เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจในการเลือกทำ
แน่นอนว่าประกันรถยนต์ชั้น 3 ตอบโจทย์กับผู้ที่มีงบจำกัด หรือกับผู้ที่ชำนาญในการขับขี่มาอย่างยาวนาน ประกอบกับรถที่มีอายุมากเกินกว่า 10 ถึง 15 ปี
โดยหลัก ๆ แล้วข้อเสียของประกันรถยนต์ชั้น 3 จะอยู่ในเรื่องของความคุ้มครอง ที่เมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ถือว่าประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองได้น้อยที่สุด แต่ก็ยังช่วยคุณในเรื่องของค่าเสียหายต่อคู่กรณี
โดยประกันรถยนต์ชั้นสามจะคุ้มครองคุณในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยมีคู่กรณีเท่านั้น และประกันชั้นสามจะคุ้มครองในส่วนของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถของคู่กรณีและค่ารักษาพยาบาลต่อคู่กรณีเท่านั้น และจะรักษาผู้ขับขี่ในส่วนนี้คุณจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองในการซ่อมรถตัวเองและค่ารักษาพยาบาล
สำหรับคนที่เหมาะจะทำประกันรถยนต์ชั้น 3 คือ คนที่มีพื้นฐานในการขับรถดีและมีความชำนาญประสบการณ์ในการขับรถมาอย่างยาวนาน และผู้ที่มีรถขับขี่โดยรถมีอายุเกินกว่า 15 ปีขึ้นไป ทั้งนี้การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้นสามขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละบุคคล ไม่จำเป็นที่จะต้องลงเงื่อนไขก็ได้หากคุณมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ อยากประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของประกันรถยนต์ ก็สามารถเลือกทำประกันรถยนต์ชั้นสามกับรถใหม่ได้
ประกันรถยนต์ชั้นสามคือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครอง เฉพาะคู่กรณีเมื่อเกิดการชนขึ้น และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันหรือผู้ที่มีความชำนาญในการขับรถมากแล้ว ทั้งนี้หากคุณอยากทำประกันรถยนต์ชั้น 3 สุดคุ้ม ที่เบี้ยประกันรายปีน้อย แถมผ่อน 0% ได้นาน 10 เดือน ต้องเลือกทำประกันรถยนต์ชั้นสามที่ insurverse ที่ให้คุณได้เลือกทำประกันที่แสนง่าย แถมจ่ายไม่แพง ประกันชั้น 3 ที่คุ้มค่า ต้องที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่าตัวเลขถังรถกันมาบ้าง แต่หลายคนที่ใช้รถยนต์อาจยังไม่รู้ความหมายว่าคืออะไร? แล้วเลขตัวถังรถอยู่ตรงไหน? ไปดู
คนที่ใช้รถยนต์ทุกคนคงเคยประสบปัญหาคราบติดรถรวมทั้งคราบสิ่งสกปรกต่างๆ หากปล่อยไว้นานๆ ไม่รีบดูแล คราบเหล่านั้นก็จะทำลายสีรถยนต์จนกลายเป็นปัญหา
หนึ่งในเรื่องที่คนใช้รถเคยสงสัยกันก็คือ ทางเอก ทางโท ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ว่าอะไรคือทางเอกและอะไรคือทางโท แล้วจะสังเกตยังไง