การทำประกันรถที่ค่าเบี้ยถูกที่สุดคือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ซึ่งมีราคาอยู่ที่หลักพันต้น ๆ เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดงบในการทำประกันรถ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจจริง ๆ ผู้ทำประกันจะต้องรู้และพิจารณาให้ดีว่า สิ่งที่จะได้รับจากการจ่ายเงินในราคานี้ คืออะไรบ้าง และสามารถยอมรับได้หรือไม่
เนื่องจากประกันรถชั้น 3 มีราคาไม่สูง ความคุ้มครองจึงมีน้อยกว่าประกันชั้น 2, ชั้น 2+ และชั้น 1 ประกันชั้น 3 เน้นให้ความคุ้มครองฝ่ายคู่กรณีเป็นหลัก หากผู้เอาประกันขับชนรถคันอื่น บริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าเสียหายที่ต้องจ่ายให้ทั้งในส่วนของตัวบุคคลและรถของคู่กรณี
แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้เอาประกันที่เลือกประกันชั้น 3 มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุ ไม่เคยขับชน หรือชนน้อยครั้งมาก มีความชำนาญในการขับรถ ผู้ที่มีประวัติการขับรถดีแบบนี้เหมาะที่จะทำประกันชั้น 3 ดังนั้น ถ้าคุณมั่นใจว่าเชี่ยวชาญการขับรถมากพออาจไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันแพงเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองมาก ๆ ก็ได้ แค่ทำประกันชั้น 3 ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว แต่นั่นหมายถึงว่าคุณจะต้องยอมรับด้วยว่า หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาอย่างสุดวิสัย และคุณเป็นฝ่ายเสียหาย จะต้องจ่ายในส่วนของตัวเอง เพราะประกันไม่คุ้มครอง
นอกจากความคุ้มครองอุบัติเหตุที่น้อยกว่าประกันแบบอื่นแล้ว ข้อจำกัดของประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็คือ
ในกรณีเหล่านี้ ผู้เอาประกันต้องจ่ายค่าเสียหายเอง หากยอมรับได้ก็ตัดสินใจเลือกประกันชั้น ได้เลย
ก่อนที่จะเลือกทำประกันชั้น 3 ลองประเมินตัวเองก่อน ดังนี้
ถ้าต้องการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ในราคาประหยัดมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกทำประกันออนไลน์กับ Insurverse ซื้อกรมธรรม์พร้อมเลือกความคุ้มครองผ่านระบบออนไลน์ ไม่ผ่านตัวแทน ค่าเบี้ยประกันจึงถูกลงไปอีก ลองเปรียบเทียบราคาของประกันรถยนต์ดูอีกครั้งก่อนตัดสินใจโดยเข้าไปเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ Insurverse แล้วคลิก เช็กเบี้ยเลย!
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง