นาทีนี้เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่ทำประกันรถยนต์แล้ว เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นประกันก็รู้แล้วว่าจะสามารถเป็นหลักประกันให้เราได้ในยามที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุที่ไม่คาดฝันที่จะนำความเสียหาย และค่าใช้จ่ายจำนวนมากมาให้เรา และหลาย ๆ คนมักจะคุ้นเคยกับประกันชั้น 1 เป็นอย่างดี เพราะมีความคุ้มครองที่แสนจะครอบคลุม แต่ก็ตามมาด้วยค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูง ประกันชั้น 2 จึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่มีคนสนใจกันมากเลยทีเดียว
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 เป็นประกันที่มีราคาเบี้ยประกันที่สามารถจับต้องได้ แต่ก็ยังมีความคุ้มค่า โดยจะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะต้องมีความระมัดระวังในการขับขี่เป็นอย่างมาก เพราะจะไม่ได้รับการคุ้มครองรถยนต์ของเรา แต่หากใครที่ต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้น แต่ราคาไม่สูงเท่าประกันชั้น 1 อาจจะลองพิจารณาประกันชั้น 2+ เนื่องจากจะทำการซ่อมให้ทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี หากเกิดรถชนแบบมีคู่กรณี หรือเรียกได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ในราคาที่ถูกกว่านั่นเอง
เนื่องจากเป็นประกันที่ไม่ได้คุ้มครองรถยนต์ของเรา จึงเหมาะกับผู้ขับที่มีประวัติการขับขี่ที่ดี มีประสบการณ์และความชำนาญในการขับขี่และพื้นที่ที่ใช้เดินทางเป็นประจำ ไม่มีประวัติถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และจะต้องเป็นรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือคนที่ใช้งานรถยนต์ค่อนข้างน้อย
ในปัจจุบันมีช่องทางให้เลือกซื้อประกันออนไลน์อย่างหลากหลาย ทั้งการทำผ่านนายหน้าประกัน และการทำด้วยตัวเองผ่านทางออนไลน์ และแน่นอนว่าในยุคแห่งเทคโนโลยีแบบนี้ ผู้คนเลือกที่จะทำประกันรถยนต์ผ่านทางออนไลน์มากขึ้น
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อประกันออนไลน์ คือ ความสะดวกสบาย รวดเร็ว และมีอิสระในการตัดสินใจ เพื่อให้ได้แผนประกันและความคุ้มครองที่ตรงใจมากที่สุด นอกจากเรื่องของความสะดวกสบายแล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง ได้แก่
ประกันรถยนต์ชั้น 2 ถือเป็นประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อาจจะมีงบที่ค่อนข้างจำกัดในการซื้อประกันภัยรถยนต์ แต่การคุ้มครองที่ได้รับก็ไม่ได้ถือว่าน้อยจนเกินไป ซึ่งแน่นอนว่าการขับขี่อย่างระมัดระวัง และไม่ประมาท เป็นพื้นฐานที่ดีของการขับรถอยู่แล้ว
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง