vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง ต่างกับประกันชั้น 1 อย่างไร

ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง ต่างกับประกันชั้น 1 อย่างไร

schedule
share
ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง ต่างกับประกันชั้น 1 อย่างไร
ที่มารูปภาพ: https://pixabay.com/photos/car-speed-road-traffic-subaru-8034787/

การทำประกันรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้านว่าจะควรเลือกทำประเภทไหน ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันรถยนต์ชั้น 2 แตกต่างกันอย่างไร ตัดสินใจให้ดีว่าประเภทไหนคุ้มครองคุ้มค่ากว่ากัน

โดยปกติแล้วคนขับรถใหม่นิยมเลือกทำประกันรถชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม เป็นประกันที่จ่ายค่าซ่อมรถและจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คู่กรณีด้วย หากรู้สึกว่างบประมาณของตัวเองไม่ลงตัวกับประกันชั้น 1 จะเลือกประกันชั้น 2 ราคาประหยัดกว่าแทนก็จะลงตัวกว่า

ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันรถยนต์ชั้น 2 มีรายละเอียดแตกต่างกันไม่น้อย ความคุ้มครองก็แตกต่างกันไปด้วย ดังนี้

  • ประกันรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองรองลงมาจากประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ ดูแลคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณี ส่วนรถของผู้เอาประกันจะต้องออกค่าใช้จ่ายซ่อมเอง แต่ก็ยังคุ้มครองกรณีรถสูญหาย ไฟไหม้
  • ประกันชั้น 2+ คุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 1 เมื่อเกิดเหตุรถชนกันจะเคลมได้ต่อเมื่อมีคู่กรณีเท่านั้น หากเป็นตัวเจ้าของประกันประมาทเอง ขับชนต้นไม้บ้าง ขับชนประตูบ้าง ไม่ได้ขับไปชนกับรถคันอื่น ส่วนนี้จะเคลมประกันไม่ได้
  • ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครบถ้วนแทบทุกอย่าง แลกกับการต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันราคาสูง ส่วนราคาประกันชั้น 1 แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่ารถซ่อมกับศูนย์ซ่อมโดยตรงหรืออู่เอกชน รถซ่อมแบบไหน รวมถึงประวัติการเคลมค่าเสียหายด้วย

ประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือแบบไหนที่เหมาะกับเรา

โดยมากคนขับรถคันใหม่มักจะเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 พร้อมทั้งดูแลรถอย่างดี มีความรู้สึกอุ่นใจมากกว่า หากเป็นมือใหม่ด้วยแล้วยิ่งมีโอกาสเฉี่ยวชนบ่อย ๆ เรียกว่าเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี หรือถ้าอาศัยอยู่ในย่านชนบทร่มรื่นมีต้นไม้เยอะ อาจเกิดเหตุต้นไม้ล้ม กิ่งไม้หัก หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงวิ่งตัดหน้ารถ

ถ้าเจ้าของขับรถไม่บ่อย แค่เดินทางระยะใกล้จากบ้าน ที่ทำงานหรือไปตลาด การทำประกันชั้น 1 อาจแพงเกินไปและไม่จำเป็น ในทางกลับกันหากเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ต้องขับรถไปทำงานเสมอ ต้องทำประกันชั้น 1 ถึงจะคุ้มค่า เพราะดูแล้วว่าประกันรถยนต์ชั้น 2 ไม่น่าจะครอบคลุมความต้องการอย่างครบถ้วน

เบี้ยประกันเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะต้องนำมาเปรียบเทียบกัน เริ่มจากประกันชั้น 1 ราคาสูงสุดแต่คุ้มครองครอบคลุมทุกเรื่องมากที่สุด ส่วนประกันชั้น 2 ราคาไม่แพงเกินไป คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าพร้อมจ่ายมากกว่า ทั้งยังผ่อนจ่ายรายเดือนได้ด้วย ถ้าขับรถชำนาญและไม่อยากจ่ายแพง ประกันรถชั้น 2 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ประเภทใดก็ตาม ก็ช่วยให้อุ่นใจในทุกการเดินทาง คุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ถูกใจ เช็กเบี้ยได้ที่นี่!

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)