คนมีรถต่างรู้กันดีว่าเรื่องการต่ออายุ พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภาคบังคับต้องทำทุกปี เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่ ส่วนประกันรถยนต์จัดเป็นประกันภาคสมัครใจ เลือกทำหรือไม่ทำก็ได้ หากทำก็จะให้ความคุ้มครองทั้งผู้ขับขี่และตัวรถด้วย เรามาเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กันก่อนว่า แบบไหนราคาถูกและคุ้มครองคุ้มค่าที่สุด
ในปัจจุบันมีบริษัทประกันรถยนต์มากมายและประกันรถยนต์หลากหลายประเภท ก่อนตัดสินใจซื้อประกันภัยรถยนต์ต้องพิจารณารายละเอียดของประกันที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด เพื่อให้จ่ายเบี้ยประกันรถได้อย่างสบายใจและให้ความคุ้มครองที่เหมาะกับตัวเราด้วย
เบี้ยประกันภัยรถยนต์ หมายถึง จำนวนเงินที่จ่ายซื้อความคุ้มครองจากบริษัท มีทั้งจ่ายครั้งแรกเพียงครั้งเดียว และจ่ายครั้งแรกแล้วผ่อนจ่ายเป็นงวดตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หากเลือกทำแผนประกันรถยนต์ต่างกัน ค่าเบี้ยประกันภัยก็จะมีราคาแตกต่างกันด้วย รวมถึงการพิจารณาเรื่องของอาชีพ อายุ และสุขภาพของผู้เอาประกันซึ่งมีปัจจัยด้านความเสี่ยงไม่เท่ากันด้วย
ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครมีอยู่ 5 ประเภทด้วยกัน แบ่งออกเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 2, ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ และชั้น 3 รายละเอียดความคุ้มครองที่เหมือนกันคือความรับผิดต่อบุคคลภายนอก การจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมถึงการประกันตัวผู้ขับขี่ด้วย สำหรับตัวรถเอาประกันจะรับผิดชอบกรณีรถสูญหายและไฟไหม้เฉพาะประเภท 1, 2+ และ 2 ส่วนอุบัติเหตุการชน, น้ำท่วม หรือภัยพิบัติอื่น ๆ จะมีความคุ้มครองแตกต่างกันไป
ปัจจัยสำคัญที่นำมาเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ได้แก่ อายุผู้ทำประกัน, อาชีพ, ประวัติการขับขี่, ค่าเสียหายส่วนแรก, ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และวงเงินคุ้มครองสูงสุดในกรมธรรม์ประกันภัย ดังนั้น ก่อนทำประกันภัยจะต้องใส่ใจรายละเอียดเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่จะคำนวณเฉพาะค่าเบี้ยประกันราคาถูกแล้วจะตัดสินใจทำประกันเท่านั้น อย่างกรณีที่วงเงินคุ้มครองสูงสุดค่อนข้างน้อย เช่น ไม่เกิน 100,000 บาท แต่มูลค่ารวมของอุบัติเหตุสูงกว่านั้นมาก เจ้าของรถก็จะต้องแบกภาระจ่ายในส่วนที่เกินจาก 100,000 บาทนั่นเอง
นอกจากการเปรียบเทียบและปรับแต่งแผนประกันภัยรถยนต์ให้ได้ความคุ้มครองในแบบที่ต้องการแล้ว ยังมีผลให้การคิดอัตราเบี้ยประกันรถยนต์ในแต่ละประเภทมีราคาแตกต่างกันไปด้วย ถ้าคนขับเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีเหตุให้ต้องเคลมประกันอยู่เรื่อย ๆ หรือเป็นอุบัติเหตุแบบเดิมซ้ำ ๆ ทำให้การคำนวณอัตราเบี้ยประกันจะปรับตัวสูงตามไปด้วย
1.เลือกประกันแบบจ่ายเท่าที่ขับ เป็นประกันที่เหมาะสำหรับคนใช้รถน้อย แต่ยังต้องการความคุ้มครองที่ครบครัน จ่ายค่าเบี้ย ประกันรถยนต์เท่าที่ขับจริง
2.เลือกประกันแบบระยะสั้น เป็นประกันระยะสั้นที่เหมาะสำหรับคนใช้รถน้อย แต่ยังต้องการประกันรถคุ้มครองในกรณีฉุกเฉิน เช่น เลือกระยะเวลาคุ้มครอง 90 วัน หรือ 180 วัน
ไม่ว่าจะประกันรถแบบไหน อินชัวร์เวิร์ส เสนอแผนประกันภัยรถยนต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งคำนวณให้เห็นราคาจริง ทำให้เปรียบเทียบได้ง่าย เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ว่าจะจ่ายเท่าไหร่ เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความต้องการมากที่้สุด เช็กเบี้ยประกันรถที่นี่!
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่าตัวเลขถังรถกันมาบ้าง แต่หลายคนที่ใช้รถยนต์อาจยังไม่รู้ความหมายว่าคืออะไร? แล้วเลขตัวถังรถอยู่ตรงไหน? ไปดู
คนที่ใช้รถยนต์ทุกคนคงเคยประสบปัญหาคราบติดรถรวมทั้งคราบสิ่งสกปรกต่างๆ หากปล่อยไว้นานๆ ไม่รีบดูแล คราบเหล่านั้นก็จะทำลายสีรถยนต์จนกลายเป็นปัญหา
หนึ่งในเรื่องที่คนใช้รถเคยสงสัยกันก็คือ ทางเอก ทางโท ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ว่าอะไรคือทางเอกและอะไรคือทางโท แล้วจะสังเกตยังไง