vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร วิธีตรวจสอบง่ายๆ และถูกต้องตามกฎหมาย

เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร วิธีตรวจสอบง่ายๆ และถูกต้องตามกฎหมาย

schedule
share

การ เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร เพื่อทราบชื่อผู้ครอบครองหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ที่มีสิทธิ์ขอข้อมูลต้องเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสีย เช่น ผู้ที่เป็นคู่กรณีในอุบัติเหตุ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีความ โดยข้อมูลจะเปิดเผยตามดุลยพินิจของนายทะเบียน และในบางกรณีอาจไม่ได้รับอนุญาตหากเหตุผลไม่เพียงพอ

หากเจ้าหน้าที่เปิดเผยข้อมูลทะเบียนรถหรือรับบริการเช็กทะเบียนรถโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับเงิน ดังนั้น การ เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร ต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

เอกสารประกอบการยื่นคำร้องเพื่อ เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร

  1. บัตรประชาชนฉบับจริงและสำเนา ผู้ยื่นคำร้องต้องเตรียมบัตรประชาชนพร้อมสำเนา โดยต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องให้ครบถ้วน
  2. บันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคดีความ เช่น อุบัติเหตุรถชนหรือรถหาย จะต้องแนบสำเนาบันทึกประจำวันหรือใบแจ้งความที่ออกโดยสถานีตำรวจ
  3. หนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) หากผู้ยื่นคำร้องเป็นตัวแทนบริษัท ต้องเตรียมหนังสือรับรองนิติบุคคลฉบับจริงและสำเนา พร้อมทั้งสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามที่รับรองลายมือชื่ออย่างครบถ้วน
  4. หลักฐานเพิ่มเติม เช่น ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดหรือกล้องหน้ารถ เอกสารจากบริษัทประกันภัย หรือเอกสารการซื้อขายรถที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดนี้ต้องมีสำเนาและลายมือชื่อรับรอง

ขั้นตอนการยื่นคำร้องที่สำนักงานขนส่งเพื่อ เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร

  1. เตรียมเอกสาร จัดเตรียมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน และตรวจสอบความถูกต้องก่อนเดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง
  2. ยื่นคำร้อง เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งที่รถคันนั้นจดทะเบียนไว้ จากนั้นยื่นคำร้องขอเช็กทะเบียนรถต่อเจ้าหน้าที่
  3. ตรวจสอบหลักฐาน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทั้งหมด หากข้อมูลครบถ้วนและเหตุผลเหมาะสม การดำเนินการจะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
  4. พิจารณาคำร้อง นายทะเบียนจะพิจารณาคำร้องและตัดสินว่าจะอนุมัติหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของกรณี
  5. ชำระค่าธรรมเนียม หลังจากอนุมัติคำร้อง ผู้ยื่นคำขอต้องชำระค่าธรรมเนียมที่กำหนด เช่น ค่าคำขอ ค่ารับรองสำเนา หรือค่าค้นเอกสาร
  6. รับผลการตรวจสอบ เมื่อดำเนินการครบทุกขั้นตอน ผู้ยื่นคำร้องจะได้รับเอกสารผลการตรวจสอบทะเบียนรถ พร้อมรับใบเสร็จรับเงิน

กรณีที่สามารถขอ เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร

อุบัติเหตุชนแล้วหนี

หากคุณเป็นผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถชนแล้วคู่กรณีหลบหนี การจดจำหรือบันทึกเลขทะเบียนรถของคู่กรณีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สามารถใช้เลขทะเบียนนี้แจ้งความต่อสถานีตำรวจ พร้อมแนบหลักฐาน เช่น ภาพถ่ายจากกล้องหน้ารถ หรือภาพวงจรปิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและติดตามตัวเจ้าของรถ

ตรวจสอบทะเบียนรถอายัด

กรณีที่สงสัยว่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ของคุณอาจถูกอายัด เช่น ไม่สามารถต่อทะเบียนรถประจำปีได้ คุณสามารถตรวจสอบสถานะทะเบียนรถได้ที่สำนักงานขนส่ง โดยต้องยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น เอกสารซื้อขายรถ หรือหนังสือถอนอายัดทะเบียน หากพบว่ารถถูกอายัดเนื่องจากข้อพิพาททางกฎหมาย จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อปลดอายัดก่อน

หากรถของคุณถูกอายัด การจัดการอาจใช้เวลาและค่าใช้จ่ายที่มาก การมีประกันภัยรถยนต์ที่ไม่มีค่าเสียหายในส่วนแรกอย่าง insurverse ช่วยลดภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ ทั้งยังให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการซื้อและเคลมเป็นระบบออนไลน์ 100% ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา

ตรวจสอบทะเบียนรถกรณีรถหาย

ในกรณีที่รถของคุณถูกขโมยและแจ้งความเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถขอตรวจสอบทะเบียนรถเพื่อยืนยันสถานะการอายัดหรือความคืบหน้าของการติดตามรถได้ แต่ต้องดำเนินการผ่านสำนักงานขนส่งหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

การจัดการคดีเกี่ยวกับรถอาจต้องใช้เอกสารและการดำเนินการหลายขั้นตอน การมี ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ของ insurverse ซึ่งมาพร้อมกับระบบเคลมที่ง่ายและรวดเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ จะช่วยให้คุณลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารเคลม อีกทั้งมีบริการใบเคลมอิเล็กทรอนิกส์ที่รับรองความสะดวก รวดเร็ว และลดโอกาสการสูญหายของเอกสารสำคัญ

ตรวจสอบทะเบียนรถปลอม

หากคุณสงสัยว่ารถยนต์ที่ซื้อมาอาจใช้ป้ายทะเบียนปลอม สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้จากสัญลักษณ์ “ขส” ที่มุมล่างขวาของป้ายทะเบียน หากไม่มีเครื่องหมายดังกล่าว ควรยื่นคำร้องตรวจสอบทะเบียนรถเพิ่มเติมเพื่อความมั่นใจว่ารถที่คุณครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย

การตรวจสอบก่อนซื้อรถมือสอง

การซื้อรถมือสองต้องตรวจสอบประวัติรถให้ละเอียด ไม่เพียงแค่ทะเบียนปลอม แต่รวมถึงสถานะการครอบครองหรือประวัติคดีความของรถ โดยสามารถยื่นคำร้องขอตรวจสอบทะเบียนรถที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งในพื้นที่

ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

  1. ค่าคำขอ 5 บาทต่อฉบับ
  2. ค่ารับรองสำเนา 20 บาทต่อแผ่น
  3. ค่าขอค้นเอกสารรถยนต์ 50 บาทต่อครั้ง
  4. ค่าขอค้นเอกสารรถมอเตอร์ไซค์ 10 บาทต่อครั้ง

ช่องทางการติดต่อ

  1. กรมการขนส่งทางบก (สำนักงานใหญ่)
  2. สำนักงานขนส่งในพื้นที่ทั่วประเทศ
  3. Call Center 1584 (ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน)
  4. สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567

การตรวจสอบทะเบียนรถเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เอกสารครบถ้วนและเหตุผลที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและโปร่งใส การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

5 คำถามที่พบบ่อย

ใครสามารถขอตรวจสอบทะเบียนรถได้บ้าง?

การตรวจสอบทะเบียนรถทำได้เฉพาะผู้ที่มีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้อง เช่น คู่กรณีในอุบัติเหตุ ผู้ซื้อขายรถ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีความ

จำเป็นต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างในการขอตรวจสอบทะเบียนรถ?

ผู้ยื่นคำร้องต้องเตรียมเอกสาร เช่น บัตรประชาชน ใบแจ้งความ (กรณีอุบัติเหตุหรือรถหาย) หนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีตัวแทนบริษัท) และหลักฐานเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น ภาพจากกล้องหน้ารถ

สามารถเช็กทะเบียนรถออนไลน์ได้หรือไม่?

ปัจจุบันการเช็กทะเบียนรถออนไลน์ไม่สามารถทำได้ การตรวจสอบต้องดำเนินการที่สำนักงานขนส่งหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

การตรวจสอบทะเบียนรถใช้เวลานานแค่ไหน?

การตรวจสอบใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียม (ไม่รวมเวลารอหรือกรณีระบบขัดข้อง)

มีค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบทะเบียนรถเท่าไหร่?

ค่าธรรมเนียมมีดังนี้ ค่าคำขอ 5 บาทต่อฉบับ ค่ารับรองสำเนา 20 บาทต่อแผ่น ค่าค้นเอกสารรถยนต์ 50 บาทต่อครั้ง และค่าค้นเอกสารรถมอเตอร์ไซค์ 10 บาทต่อครั้ง

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย