vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ครอบครองปรปักษ์ คืออะไร? กฎหมายสำคัญที่เจ้าของบ้านต้องรู้ก่อนซื้อประกัน

ครอบครองปรปักษ์ คืออะไร? กฎหมายสำคัญที่เจ้าของบ้านต้องรู้ก่อนซื้อประกัน

schedule
share

การครอบครองปรปักษ์เป็นกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินของผู้อื่นเป็นระยะเวลานาน สามารถยื่นขอกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้ หากเข้าข้อกำหนดตามกฎหมาย โดยถือเป็นช่องทางหนึ่งในการได้มาซึ่งที่ดินโดยไม่ต้องซื้อขาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าใครจะสามารถเข้าไปจับจองที่ดินใครก็ได้ เพราะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่เจ้าของที่ดินต้องรู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสียสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว

เงื่อนไขสำคัญของการครอบครองปรปักษ์

การครอบครองปรปักษ์ไม่ใช่แค่การเข้ามาใช้พื้นที่แล้วจะได้กรรมสิทธิ์ทันที แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย โดยเงื่อนไขที่สำคัญ ได้แก่

  • ต้องครอบครองโดยสงบและเปิดเผย หมายถึง ไม่ใช่การแอบใช้พื้นที่ แต่ต้องเป็นการใช้อย่างเปิดเผยให้บุคคลทั่วไปเห็นได้
  • ต้องครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ การเข้าครอบครองที่ดินต้องมีเจตนาใช้ประโยชน์ในที่ดินเหมือนเป็นของตัวเอง เช่น สร้างบ้าน ทำเกษตรกรรม ไม่ใช่แค่เข้ามาอาศัยชั่วคราว
  • ต้องครอบครองติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ในกรณีของอสังหาริมทรัพย์ ต้องครอบครองเป็นระยะเวลา 10 ปีติดต่อกัน ส่วนสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ ต้องครอบครองอย่างน้อย 5 ปี
  • ต้องไม่ใช่ที่ดินของรัฐหรือทรัพย์สินสาธารณะ เช่น ที่ราชพัสดุ ที่ดินวัด หรือที่ดินสาธารณะของชุมชน ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานขอกรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ได้

โฉนดที่ดินแบบไหนเสี่ยงถูกครอบครองปรปักษ์

เจ้าของที่ดินหลายคนอาจไม่รู้ว่าโฉนดที่ดินบางประเภทเปิดช่องให้ผู้อื่นเข้ามาครอบครองได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจึงต้องรู้จักประเภทของเอกสารสิทธิ์ให้ดี

  • โฉนดที่ดิน (น.ส.4) เป็นที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ชัดเจน สามารถถูกแย่งการครอบครองได้ หากปล่อยให้ผู้อื่นเข้ามาใช้ประโยชน์โดยไม่มีการป้องกัน
  • หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ไม่มีกรรมสิทธิ์เด็ดขาดเหมือนโฉนด แต่ยังสามารถถูกแย่งสิทธิการครอบครองได้ภายในระยะเวลา 1 ปี หากเจ้าของเดิมไม่ฟ้องคดี
  • สิทธิทำกิน (ส.ป.ก. 4-01) ไม่สามารถถูกครอบครองปรปักษ์ได้ เพราะเป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐกำหนดให้ใช้ประโยชน์เฉพาะตัว

วิธีป้องกันไม่ให้ที่ดินถูกครอบครองปรปักษ์

สำหรับเจ้าของที่ดินที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเสียสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง ควรมีมาตรการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้แก่

  • ตรวจสอบและดูแลที่ดินเป็นประจำ ควรเข้าไปดูพื้นที่ของตัวเองอย่างน้อยปีละครั้ง
  • ติดป้ายแสดงกรรมสิทธิ์ เช่น ป้าย “พื้นที่ส่วนบุคคล” หรือ “ที่ดินมีเจ้าของ” เพื่อป้องกันผู้อื่นเข้ามาใช้โดยอ้างว่าไม่มีเจ้าของ
  • ล้อมรั้วหรือกำหนดแนวเขตชัดเจน การสร้างรั้วกั้นจะช่วยให้เห็นขอบเขตของที่ดิน และป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้ามาโดยพลการ
  • ให้เช่าหรือทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร หากอนุญาตให้ผู้อื่นเข้ามาใช้พื้นที่ ควรทำสัญญาเช่าหรือสัญญาอนุญาตให้ใช้พื้นที่ เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์
  • รังวัดที่ดินและอัปเดตข้อมูลกับกรมที่ดิน การรังวัดช่วยยืนยันแนวเขตของที่ดินว่าไม่มีการบุกรุกจากบุคคลภายนอก

กระบวนการฟ้องร้องเมื่อที่ดินถูกครอบครองปรปักษ์

หากพบว่ามีผู้เข้ามาครอบครองที่ดินของตนเองโดยไม่มีสิทธิ์ และมีแนวโน้มว่าจะอ้างสิทธิ์ตามกฎหมายครอบครองปรปักษ์ เจ้าของที่ดินสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้

  1. ตรวจสอบสถานะของผู้บุกรุก ว่าเข้ามาครอบครองมานานเท่าไร และมีหลักฐานหรือไม่
  2. แจ้งให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ โดยอาจเริ่มจากการพูดคุย หรือติดประกาศแจ้งเตือน
  3. แจ้งความดำเนินคดี หากผู้บุกรุกไม่ออกจากพื้นที่ สามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดำเนินการได้
  4. ยื่นฟ้องต่อศาล หากผู้บุกรุกยังคงอยู่และมีเจตนาครอบครองที่ดิน ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าเข้าข่ายการครอบครองปรปักษ์หรือไม่

ประกันบ้านช่วยป้องกันการครอบครองปรปักษ์ได้ไหม?

หลายคนอาจสงสัยว่า ประกันบ้านและคอนโด สามารถช่วยป้องกันการครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่สามารถป้องกันโดยตรง เพราะการครอบครองปรปักษ์เป็นเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่อยู่ในขอบเขตความคุ้มครองของประกัน

แต่ถึงแม้ประกันบ้านจะไม่ได้ช่วยป้องกันการสูญเสียกรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการปกป้องทรัพย์สินของเจ้าของบ้านจาก ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็น ไฟไหม้ น้ำท่วม โจรกรรม หรือภัยธรรมชาติ ซึ่งล้วนเป็นเหตุการณ์ที่สามารถทำให้บ้านเสียหาย สูญหาย หรือใช้งานไม่ได้ หากไม่มีประกัน อาจต้องจ่ายค่าซ่อมแซมและฟื้นฟูทรัพย์สินจากเงินตัวเองเต็มจำนวน

สรุป

การครอบครองปรปักษ์อาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม แต่หากไม่ป้องกันตั้งแต่แรก อาจทำให้เสียสิทธิ์ในทรัพย์สินไปโดยไม่รู้ตัว เจ้าของบ้านและที่ดินควรให้ความสำคัญกับการดูแลทรัพย์สินของตัวเอง ตรวจสอบพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ และใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม นอกจากนี้นอกจากการระวังเรื่องครอบครองปรปักษ์แล้ว ก็อย่าลืมระวังเรื่องที่คาดไม่ถึงด้วยการ เช็กประกันบ้านและคอนโด จาก insurverse ยังช่วยดูแลทรัพย์สินจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ โจรกรรม หรือความเสียหายที่เกิดจากบุคคลภายนอก ทำให้มั่นใจได้ว่าทรัพย์สินจะได้รับการคุ้มครอง ไม่ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม

5 คำถามที่พบบ่อย

การครอบครองปรปักษ์ใช้กับที่ดินแบบเช่าได้หรือไม่?

ไม่ได้ การครอบครองปรปักษ์ใช้ได้เฉพาะกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีกรรมสิทธิ์ เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.3 ก. แต่ที่ดินเช่าถือเป็นสัญญาระหว่างเจ้าของและผู้เช่า ซึ่งไม่มีผลทำให้ผู้เช่าอ้างสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ได้

หากมีคนมาอยู่ในที่ดินเราโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่าเข้าข่ายครอบครองปรปักษ์หรือไม่?

ไม่ใช่ทุกกรณี หากมีคนบุกรุกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าของสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ และหากยังไม่ถึง 10 ปีตามกฎหมาย ก็ไม่สามารถอ้างสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ได้

หากครอบครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิ์เลย จะสามารถยื่นขอกรรมสิทธิ์ได้หรือไม่?

ไม่ได้ การครอบครองปรปักษ์ใช้ได้กับที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์เท่านั้น เช่น โฉนดที่ดิน แต่หากเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น ที่ดินสาธารณะหรือที่ดินของรัฐ ไม่สามารถอ้างสิทธิ์ได้

ถ้าเจ้าของเดิมเสียชีวิต ทายาทสามารถใช้สิทธิ์ป้องกันการครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่?

ได้ ทายาทสามารถสืบสิทธิ์ในที่ดินและดำเนินการปกป้องกรรมสิทธิ์ของตนเองได้ โดยการแจ้งความ คัดค้าน หรือฟ้องร้องหากพบว่ามีผู้พยายามเข้าครอบครองที่ดิน

ต้องทำอย่างไรหากต้องการใช้สิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เพื่อขอกรรมสิทธิ์ในที่ดิน?

ต้องรวบรวมหลักฐานที่แสดงถึงการครอบครองอย่างสงบ เปิดเผย และมีเจตนาเป็นเจ้าของมาอย่างน้อย 10 ปี จากนั้นยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้พิจารณาและมีคำสั่งให้จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย