ผู้กู้สินเชื่อบ้านมักคุ้นเคยกับการทำประกันอัคคีภัยบ้านเป็นอย่างดี เนื่องจากสถาบันการเงินจะกำหนดเงื่อนไขให้ผู้กู้สินเชื่อบ้านทำประกันอัคคีภัยและจ่ายเป็นราย 3 – 5 ปี ตามแต่ละสถาบันการเงินระบุไว้ อย่างไรก็ตามผู้กู้หลายรายอาจไม่ใส่ใจศึกษารายละเอียดความคุ้มครองในกรมธรรม์มากนัก เพราะอาจมองว่าเป็นการทำประกันตามหน้าที่ สถาบันการเงินให้ทำเพื่อประโยชน์ของสถาบันการเงินเอง ตนมีหน้าที่จ่ายค่าเบี้ย ก็ชำระไปตามกำหนด รวมถึงผู้ปิดบัญชีสินเชื่อบ้านเรียบร้อยแล้วหรือแม้กระทั่งผู้ครอบครองบ้านแบบปลอดหนี้สินเชื่อใด ๆ ก็อาจมองข้ามประโยชน์ของประกันอัคคีภัยบ้านไปด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอมาแนะนำประโยชน์ของประกันอัคคีภัยบ้านให้ได้ทราบกันค่ะ
หลายคนอาจเข้าใจว่าประกันอัคคีภัยบ้านให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วประกันอัคคีภัยบ้านที่มีขายในท้องตลาดมักคุ้มครองครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ลมพายุ ฟ้าผ่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว และเหตุสุดวิสัยจากมนุษย์ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร เพลิงไหม้จากแก๊สหุงต้มในครัวเรือน ซี่งเงื่อนไขความคุ้มครองจะถูกระบุในเนื้อหาของแต่ละกรมธรรม์อย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับทรัพย์สินที่ประกันอัคคีภัยบ้านให้ความคุ้มครองแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่
จากการแบ่งประเภทความคุ้มครองตามด้านบนทำให้ประกันอัคคีภัยบ้านประกอบด้วยทุนประกัน 2 ส่วน ได้แก่ ทุนประกันคุ้มครองตัวบ้าน และทุนประกันคุ้มครองทรัพย์สิน เช่น บ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น พื้นที่ 18 ตารางวา ทุนประกัน 900,000 บาท ทรัพย์สินภายในบ้าน ทุนประกัน 500,000 บาท เป็นต้น
การประเมินค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านมักใช้ปัจจัยร่วมหลายอย่างมาพิจารณา เช่น ลักษณะสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือห้องชุดในคอนโด ทุนประกันที่ผู้เอาประกันต้องการอยู่ที่เท่าไร ซึ่งการเลือกทุนประกันควรใกล้เคียงกับมูลค่าที่แท้จริงของบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน หรือเลือกทุนประกันไม่ต่ำกว่า 70% ของมูลค่าดังกล่าว เช่น ประเมินแล้วพบว่าบ้านมีมูลค่า 2,000,000 บาท ควรเลือกทุนประกันไม่ต่ำกว่า 1,400,000 บาท เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นค่าเบี้ยยังขึ้นอยู่การเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ผู้เอาประกันต้องการเสริมความคุ้มครองความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้าจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอก รวมไปถึงความคุ้มครองจากการโจรกรรม สำหรับราคาค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้านต่อปี เริ่มต้นที่ 298 บาท ทั้งนี้ค่าเบี้ยจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามปัจจัยร่วมต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปในข้างต้น รวมถึงจังหวัดที่ตั้งและประเภทที่อยู่อาศัย ซึ่งเราสามารถเลือกปรับลดความคุ้มครองที่เราต้องการภายใต้งบที่เรารับไหวนั้นเอง
บริษัทประกันภัยหลายแห่งออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันอัคคีภัยบ้านได้อย่างหลากหลายและน่าสนใจ เรามีประกันบ้านอัคคีภัยที่น่ารับไว้พิจารณา จาก insurverse บริษัทประกันภัยออนไลน์ที่อยู่ภายใต้เครือทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) มาแนะนำ โดยแผนประกันภัยบ้านของ insurverse สามารถปรับแผนยืดหยุ่นได้ตามความต้องการของผู้ทำประกัน เบื้องต้นเลือกจังหวัดและประเภทที่อยู่อาศัยจากนั้นกรอกทุนประกันที่ต้องการ ทั้งยังสามารถเลือกเพิ่มความคุ้มครองบิ้วอินและเฟอร์นิเจอร์ได้ตามต้องการอีกด้วย เพียงเท่านี้ก็จะได้รับข้อมูลค่าเบี้ยต่อปีที่หน้าเว็บไซต์ หากตรงตามความต้องการก็สามารถกรอกข้อมูลเจ้าของกรมธรรม์และข้อมูลสถานที่เอาประกันต่อได้เลย การซื้อประกันออนไลน์ที่หน้าเว็บไซต์ของ insurverse ง่ายดายและสะดวกมาก ๆ
ยิ่งไปกว่านั้นหากต้องการเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมจากแบบฟอร์มหน้าเว็บไซต์ เช่น ความคุ้มครองภัยโจรกรรม ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอก สูงสุด 1 ล้านบาท ผู้สนใจทำประกันก็สามารถโทรปรึกษาได้ที่เบอร์ 02-842-9899 ในส่วนของความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของ insurverse นั้นก็มีมาก ผู้ทำประกันกับ insurverse สามารถเลือกจ่ายเฉพาะความคุ้มครองที่ต้องการได้ ตอกย้ำความง่ายและยืดหยุ่นตามความต้องการของ insurverse ได้ชัดขึ้นไปอีก
ความเสี่ยงจากอัคคีภัยจำเป็นต้องได้รับการบริหารจัดการ เพราะเป็นเหตุร้ายที่คุณไม่อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า และเมื่อเกิดเหตุแล้วความเสียหายมักลุกลามอย่างรวดเร็วชนิดไม่มีใครได้ทันตั้งตัว ดังนั้น ประกันอัคคีภัยบ้านจึงเป็นสิ่งที่ผู้อยู่อาศัยและเจ้าของบ้านทุกครัวเรือนควรให้ความสำคัญ ราคาค่าเบี้ยในอัตรา 0.1% ต่อปีของทุนประกัน ถือว่าคุ้มค่ากับการบริหารความเสี่ยงของอัคคีภัยอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ฝันว่าไฟไหม้บ้านแต่ดับได้ทันมีคำทำนายทั้งเรื่องดีและไม่ดี หากไม่สบายใจ แก้ฝันได้ด้วยการแก้ฝันร้ายกับน้ำ เล่าให้คนอื่น หรือสวดมนต์ไล่ฝันร้าย
ธนาคารแต่ละแห่งมีโปรโมชันสินเชื่อบ้านที่น่าสนใจ ใครที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน รีไฟแนนซ์ หรือแม้แต่กำลังมองหาไอเดียผ่อนบ้านในราคาคุ้มค่า ห้ามพลาดบทความนี้
ค่าไฟค้างได้กี่เดือน สำหรับคำถามนี้ คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพราะในบางกรณี ลืมจ่ายเพียง 1 วันก็มีโอกาสโดนตัดไฟแล้ว