vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ไฟตกทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพัง ใครรับผิดชอบ? เคลมประกันได้ไหม

ไฟตก ปัญหาจุกจิกที่อาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าพังโดยไม่รู้ตัว

schedule
share

หลายคนอาจเคยเจอปัญหาที่เครื่องใช้ไฟฟ้าดับวูบ แล้วกลับมาติดใหม่ หรือไฟในบ้านหรี่ลงแวบหนึ่ง นี่คืออาการของ “ไฟตก” ที่หลายคนอาจมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วมันส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด ไฟตกหมายถึงแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายเข้ามาในระบบลดลงชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น สายไฟฟ้าภายในบ้านเสื่อมสภาพ การใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง หม้อแปลงในพื้นที่รับภาระหนัก หรือปัจจัยภายนอกอย่างพายุฝนฟ้าคะนองที่ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าทำงานไม่เสถียร

ทำไมไฟตกถึงอันตราย

ไฟตกไม่ได้แค่ทำให้หลอดไฟหรี่ลงหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าดับวูบ ๆ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและความปลอดภัยในบ้านอย่างมาก

  1. เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย – อุปกรณ์ที่ต้องการไฟฟ้าคงที่ เช่น คอมพิวเตอร์ ทีวี และตู้เย็น อาจได้รับผลกระทบจากไฟตก วงจรภายในอาจพังเร็วกว่าปกติ หรือเกิดอาการทำงานผิดพลาด เช่น คอมพิวเตอร์ดับเอง ไฟล์เสียหาย หรือทีวีมีภาพกระตุก
  2. มอเตอร์ไฟฟ้าไหม้ – เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และปั๊มน้ำ อาจต้องทำงานหนักขึ้นเมื่อไฟตก ส่งผลให้มอเตอร์ร้อนเกินไปและพังในที่สุด
  3. ไฟกระชากตามมา – บางครั้งไฟตกมักมาพร้อมกับไฟกระชาก (ไฟพุ่งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว) ซึ่งอาจทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าขาดหรือไหม้ได้
  4. อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน – ในบางกรณี หากไฟตกเกิดขึ้นกับระบบควบคุมอัตโนมัติ เช่น ประตูไฟฟ้า ลิฟต์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาล อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
  5. ความรำคาญและเสียเวลา – คอมพิวเตอร์ดับกะทันหัน งานเอกสารหาย หรืออุปกรณ์ที่ต้องรีเซ็ตใหม่บ่อย ๆ ทำให้เสียเวลาทำงานและอารมณ์เสียโดยไม่จำเป็น

วิธีตรวจสอบว่าไฟตกหรือไม่

ถ้าอยากรู้ว่าไฟบ้านตัวเองมีปัญหาไฟตกหรือเปล่า ให้ลองสังเกตจากอาการต่อไปนี้

  • หลอดไฟหรี่ลงชั่วคราวแล้วกลับมาสว่างปกติ
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าดับเองแบบไม่มีสาเหตุ
  • คอมพิวเตอร์รีสตาร์ทเองขณะใช้งาน
  • เสียงมอเตอร์ของพัดลมหรือแอร์เปลี่ยนไป (ดังขึ้นหรือเงียบผิดปกติ)
  • เครื่องปรับอากาศเย็นช้ากว่าปกติ หรือหยุดทำงานชั่วขณะ
  • เครื่องเสียงหรือทีวีมีเสียงผิดปกติ บางครั้งดับแล้วติดใหม่เอง

หากพบอาการเหล่านี้บ่อย ๆ แสดงว่ามีโอกาสสูงที่ไฟบ้านจะตกบ่อย ควรหาทางแก้ไขก่อนอุปกรณ์สำคัญจะเสียหาย

วิธีแก้ปัญหาไฟตกให้ได้ผลจริง

ถ้าต้องเจอกับปัญหาไฟตกบ่อย ๆ นี่คือแนวทางที่สามารถช่วยลดผลกระทบได้

1. ใช้เครื่องสำรองไฟ (UPS)

เครื่องสำรองไฟ หรือ UPS (Uninterruptible Power Supply) เป็นทางออกที่ดีสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการไฟฟ้าคงที่ เช่น คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ เมื่อไฟตก UPS จะช่วยจ่ายไฟให้ต่อเนื่องในระยะเวลาสั้น ๆ และช่วยป้องกันไฟกระชากที่อาจทำให้วงจรอุปกรณ์เสียหาย

2. ตรวจสอบและปรับปรุงระบบไฟฟ้าในบ้าน

หากบ้านมีอาการไฟตกบ่อย ควรให้ช่างไฟฟ้าตรวจสอบระบบ เช่น วงจรไฟฟ้ามีการเดินสายที่ถูกต้องหรือไม่ มีสายไฟเก่าหรือเสื่อมสภาพหรือเปล่า การเปลี่ยนสายไฟใหม่อาจช่วยให้ระบบไฟบ้านเสถียรขึ้น

3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูงพร้อมกัน

บางครั้งไฟตกเกิดจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากเกินไป เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า หากเปิดใช้พร้อมกัน อาจทำให้แรงดันไฟฟ้าไม่พอ วิธีแก้คือจัดสรรการใช้ไฟให้เหมาะสม เปิดใช้งานอุปกรณ์ที่กินไฟหนักในเวลาที่ต่างกัน

4. ติดตั้งอุปกรณ์รักษาระดับแรงดันไฟฟ้า (AVR)

AVR หรือ Automatic Voltage Regulator เป็นตัวช่วยปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ แม้จะมีไฟตกหรือไฟเกิน อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับบ้านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด โดยเฉพาะเครื่องเสียง ทีวี และคอมพิวเตอร์

5. แจ้งการไฟฟ้าหากไฟตกบ่อยเกินไป

ถ้าพบว่าไฟตกบ่อยแม้จะไม่ได้ใช้ไฟเกินกำลัง และปัญหามาจากระบบภายนอก เช่น หม้อแปลงเก่าหรือสายไฟเสื่อม ควรแจ้งการไฟฟ้าในพื้นที่ให้เข้ามาตรวจสอบและแก้ไข โดยอาจต้องเปลี่ยนหม้อแปลงหรือเพิ่มความสามารถในการจ่ายไฟในพื้นที่

ไฟตก ใครรับผิดชอบ

ไฟตกถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ระบบจ่ายไฟฟ้าภายนอก ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น หรือปัญหาทางธรรมชาติอย่างพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้โดยทั่วไปไม่สามารถร้องเรียนเพื่อขอรับค่าชดเชยจากการไฟฟ้าได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม หากไฟตกบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟในพื้นที่ สามารถแจ้งเหตุกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือการไฟฟ้านครหลวงให้เข้ามาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เช่น การเปลี่ยนหม้อแปลง เพิ่มเสาไฟฟ้า หรือปรับปรุงระบบสายไฟให้รองรับปริมาณการใช้ไฟที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก หรือ UPS สามารถช่วยลดผลกระทบจากไฟตกได้ในระดับหนึ่ง

ไฟตก เคลมประกันได้ไหม

โดยทั่วไป ความเสียหายจากไฟตกหรือไฟฟ้ากระชากไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันภัยบ้านและคอนโด เว้นแต่ว่าไฟตกหรือไฟกระชากนั้น ทำให้เกิดเพลิงไหม้ จึงจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจากเหตุไฟไหม้ เช่น ค่าซ่อมแซมทรัพย์สินหรือค่าที่พักชั่วคราว

ดังนั้น หากไฟตกเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ ผู้เอาประกันสามารถเคลมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งสะดวกยิ่งขึ้นในปัจจุบัน เพราะสามารถเลือก เช็กเบี้ยประกันบ้านและคอนโด ออนไลน์ 100% ได้ง่าย ปรับความคุ้มครองได้เอง และมีบริการแจ้งเคลมที่รวดเร็ว ทำให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุไม่คาดคิด จะได้รับความคุ้มครองที่จำเป็นทันที

สรุป

ไฟตกอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ส่งผลต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและความปลอดภัยในบ้านได้ หากพบว่าไฟตกบ่อย ควรหาทางแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ UPS การปรับปรุงระบบไฟในบ้าน หรือติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากไฟตกที่อาจทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว

5 คำถามที่พบบ่อย

ไฟตกกับไฟดับต่างกันอย่างไร?

ไฟตกคือแรงดันไฟฟ้าลดลงชั่วคราว ทำให้ไฟหรี่หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ ส่วนไฟดับคือไฟฟ้าขาดหายไปทั้งหมดในช่วงเวลาหนึ่ง

ทำไมไฟตกแค่บางห้อง แต่บางห้องยังปกติ?

อาจเกิดจากระบบไฟในบ้านมีหลายเฟส และบางเฟสอาจรับโหลดหนักเกินไป ทำให้แรงดันไฟตกเฉพาะบางจุด ควรให้ช่างไฟตรวจสอบวงจรไฟภายในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดไหนเสี่ยงพังจากไฟตกมากที่สุด?

อุปกรณ์ที่ต้องการแรงดันไฟคงที่ เช่น คอมพิวเตอร์ ตู้เย็น แอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า เพราะไฟตกทำให้มอเตอร์ต้องทำงานหนักขึ้นและอาจพังเร็วขึ้น

ไฟตกบ่อยต้องแก้ไขยังไงถ้ายังไม่อยากเรียกช่าง?

ลองเช็กว่ามีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้นพร้อมกันหรือไม่ ถ้ามี ให้ลดโหลดที่ใช้ไฟสูงก่อน เช่น แอร์หรือเครื่องซักผ้า นอกจากนี้อาจติดตั้งเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (AVR) เพื่อช่วยรักษาระดับแรงดันไฟให้คงที่

ไฟตกตอนกลางคืนบ่อยกว่ากลางวัน เกิดจากอะไร?

ช่วงกลางคืนบางพื้นที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นพร้อมกัน เช่น การเปิดแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ทำให้แรงดันไฟในระบบลดลง และเกิดไฟตกได้บ่อยขึ้น

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย