vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
รถสตาร์ทไม่ติด แบตเสื่อมหรือเปล่า? สังเกตยังไง?

รถสตาร์ทไม่ติด แบตเสื่อมหรือเปล่า? สังเกตยังไง

schedule
share

รถสตาร์ทไม่ติดเป็นปัญหาชวนปวดหัว หากเกิดต้องการใช้งานรถยนต์อย่างเร่งด่วน จะต้องรีบแก้ไขปัญหาในทันที โดยเฉพาะหากรถสตาร์ทไม่ติดไม่มีเสียงอะไรเลยภายในห้างสรรพสินค้า, ลานจอดรถหรือริมถนนเป็นเรื่องที่ยากลำบากเหลือเกิน คงจะดีไม่น้อยหากได้ศึกษาเรียนรู้สาเหตุของการสตาร์ทรถไม่ติด, วิธีการสังเกตตลอดจนวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น นอกจากนี้หากได้ซื้อประกันรถยนต์ไว้ บอกเลยว่าไม่ว่าจะเกิดปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติดที่ไหนเมื่อไหร่ ห่างไกลชุมชนแค่ไหนก็อุ่นใจว่าจะมีคนดูแลบริหารจัดการให้อย่างแน่นอน

man-calling-for-help-to-fix-his-car

วิธีการสังเกตว่ารถสตาร์ทไม่ติดมีสาเหตุจากแบตเตอรี่เสื่อมหรือไม่

ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดที่เกิดจากความเสื่อมของแบตเตอรี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อย บางครั้งรถยนต์เกิดสตาร์ทไม่ติดในที่ห่างไกลชุมชนไม่อยู่ใกล้อู่เป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยเฉพาะหากเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว บอกเลยว่าหากรู้จักวิธีการสังเกตและแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ตลอดจนรู้จักเช็คเบี้ยประกันรถยนต์เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มครองที่ครอบคลุมการบริการรถลากหรือรถยกก็จะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย หากรถยนต์มีการใช้งานเป็นประจำแบตเตอรี่รถก็ย่อมเสื่อมลงเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งวิธีการสังเกตว่าแบบแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพหรือไม่ มีวิธีการสังเกต ดังนี้

1. รถสตาร์ทติดยากหรือรถสตาร์ทไม่ติดมีเสียงแก๊กๆ

เมื่อจอดรถทิ้งไว้แล้วกลับมาสตาร์ท หากได้ยินเสียงเครื่องยนต์ลากยาวกว่าปกติหรือได้ยินเสียงแก๊กๆ เป็นอาการที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์อาจจะเสื่อมสภาพลงแล้ว ถ้าปล่อยทิ้งไว้เนิ่นนานไปก็จะทำให้รถสตาร์ทไม่ติดอย่างแน่นอน

2. ระบบไฟฟ้ามีการทำงานที่ผิดปกติ

สามารถที่จะสังเกตการทำงานของระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิดกระจกไฟฟ้าซึ่งอาจจะมีอาการผิดปกติ การสังเกตระบบส่องสว่างอาจจะมีแสงน้อยไม่สว่างเหมือนเดิม บางครั้งรถสตาร์ทไม่ติดไฟหน้าปัดขึ้นเตือนสถานะ ซึ่งเป็นอาการเบื้องต้นของแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมลง ถ้าใช้งานไปสักระยะบอกเลยว่ารถสตาร์ทไม่ติดเป็นแน่แท้

3. เสียงแตรรถเบาลง

หนึ่งในวิธีการสังเกตว่าแบตเตอรี่รถยนต์อาจจะเสื่อมลง ซึ่งเมื่อบีบแตรรถยนต์แล้วรู้สึกว่าเสียงจะเบาลง นั่นก็หมายถึงกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่นั้นไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ในระยะต่อไป

วิธีป้องกันแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ

1. หมั่นทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อยู่เสมอ

ควรเช็คสภาพแบตเตอรี่และทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกหรือคราบสกปรกเกาะอยู่ที่ขั้วแบตเตอรี่ เพราะว่าจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้เช่นเดียวกัน

2. ตรวจเช็คน้ำกลั่นแบตเตอรี่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ

น้ำกลั่นทำให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องตรวจเช็คอยู่เสมอ ควรเลือกน้ำกลั่นที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรเติมน้ำเปล่าหรือน้ำกรดเพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพลงเร็วกว่าเดิม

3. สตาร์ทรถอยู่เสมอ

ลานจอดทิ้งไว้นานๆ จะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่อย่างแน่นอน ยิ่งจอดนานเท่าไหร่แบตจะยิ่งหมดเร็วเท่านั้น จึงควรที่จะต้องสตาร์ทรถบ่อยๆ เพราะหากปล่อยไว้นานไปจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมและรถสตาร์ทไม่ติดอย่างแน่นอน

man-try-to-fix-a-car-engine-problem-on-a-local-road

สรุป

ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดที่เกิดจากความเสื่อมของแบตเตอรี่อาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จึงควรหมั่นสังเกตอาการที่อาจจะบ่งบอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์จะเสื่อมสภาพให้รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที ก่อนที่จะเกิดปัญหาให้ปวดหัวเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากมาย บอกเลยว่ารถทุกคันจะต้องพบเจอปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมอย่างแน่นอน จึงควรจะต้องตรวจสภาพรถยนต์อยู่เสมอและควรซื้อประกันรถยนต์ติดตัวเอาไว้ด้วย หากเกิดปัญหาฉุกเฉินอยู่ที่ห่างไกล หากซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ไว้รับรองอุ่นใจอย่างแน่นอน ดังนั้น รีบเข้ามาเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ที่สามารถปรับความคุ้มครองในราคาที่โดนใจกับ insurverse ได้เลยทันทีแล้วจะพบแต่สิ่งดีๆ ที่โดนใจ

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)