ชวนเช็กเงื่อนไข เงินดิจิทัล เฟส 3 หลังจากที่รัฐบาลได้แจกจ่ายเงินสวัสดิการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟสที่แรกสำหรับกลุ่มเปราะบางและผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้วนั้น ก็มีแนวโน้มที่จะแจกต่อเนื่องในเฟสที่ 2 และ 3 โดยในเฟสที่ 2 จะแจกให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนเงินดิจิทัล เฟส 3 จะแจกให้กับบุคคลทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ เรามาดูไทม์ไลน์กันดีกว่าว่าจะได้เมื่อไหร่ แล้วใครมีสิทธิได้บ้างในรอบนี้
เงินดิจิทัล เฟส 3 เป็นรอบการจ่ายเงินสวัสดิการ 10,000 บาท ให้กับประชาชนสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของทางรัฐบาลที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ กระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น เศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซาจะได้มีแนวโน้มดีขึ้น โดยที่ผ่านมามีการแจกเงินจำนวนนี้ในเฟสแรกให้กับกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ และผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้วในช่วงปี 2567 โดยในปี 2568 นี้จะมีการดำเนินนโยบายแจกเงินสวัสดิการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ต่อในเฟสที่ 2 และ 3
ในเฟสที่ 2 นั้นจะแจกจ่ายให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ที่ได้ลงทะเบียนเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ และต้องไม่ใช่กลุ่มที่ได้รับเงินดิจิทัลในเฟสแรกไปแล้ว ซึ่งมียอดมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 3-4 ล้านคน โดยจะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท แล้วเสร็จทุกคนภายในช่วงตรุษจีน วันที่ 29 มกราคม 2568
หลังจากที่แจกจ่ายเงินสวัสดิการเฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุเสร็จแล้วก็จะเป็นรอบสำหรับบุคคลทั่วไปในเฟสที่ 3 ที่ได้ลงทะเบียนขอรับสิทธิสวัสดิการเงิน 10000 บาท เสร็จสิ้นตั้งแต่ภายในวันที่ 16 กันยายน 2567 โดยมีเงื่อนไขดังนี้
เงื่อนไขของผู้ที่ลงทะเบียนเงินดิจิทัลผ่าน
เรามาดูไทม์ไลน์และเงื่อนไขกันดีกว่าว่าจะได้ในช่วงไหน แล้วมีรายละเอียดปลีกย่อยอะไรที่แตกต่างจากการแจกเงินสวัสดิการในเฟสก่อนหน้าบ้าง
เงินดิจิทัล เฟส 3 จะเริ่มดำเนินการแตกต่างไปจากเฟสที่ 1 และ 2 ที่จะโอนตรงผ่านบริการพร้อมเพย์เข้าบัญชีธนาคารที่ผูกอยู่กับบัตรประจำตัวประชาชน
ส่วนเงินดิจิทัล เฟส 3 นั้นจะไม่แจกเป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาทผ่านพร้อมเพย์เข้าบัญชีธนาคารที่ผูกบัตรประชาชนอีกต่อไป แต่จะเป็นการจ่ายผ่านทางดิจิทัลวอลเลต (Digital Wallet) บนแอปพลิเคชันทางรัฐ เพราะต้องการให้เศรษฐกิจเข้ามามีบทบาทเป็นเครื่องมือเชื่อมรัฐบาลกับประชาชน นั่นจึงเท่ากับว่าการแจกเงินสวัดิการเป็นเงินดิจิทัล เฟส 3 นี้ จะไม่สามารถกดเป็นเงินสดออกมาจับจ่ายได้ จะต้องใช้จ่ายผ่านระบบกระเป๋าตังค์ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น ซึ่งอาจจะต้องมีเงื่อนไขการใช้จ่าย ร้านค้าที่รองรับ และเงื่อนไขอื่น ๆ ออกมาอีกพอสมควร ซึ่งต้องรอติดตามรายละเอียดหรือประกาศเงื่อนไขจากทางรัฐบาลออกมาอีกครั้งในช่วงที่ดำเนินการ
ตามกำหนดที่มีประกาศออกมาไทม์ไลน์การจ่ายเงินดิจิทัล เฟส 3 ในรูปแบบดิจิทัลวอลเลตผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐนั้นจะดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 หรือช่วงระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2568
เงินดิจิทัล เฟส 3 ที่รัฐบาลจะแจกจ่ายให้กับบุคคลทั่วไปผ่านทางดิจิทัลวอลเลตในแอปพลิเคชันทางรัฐนั้น จะแจกจ่ายให้กับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐมาแล้ว ซึ่งได้เปิดให้ลงทะเบียนแล้วเสร็จในวันที่ 16 กันยายน 2567 ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านภายในวันดังกล่าวจะได้รับสิทธิเงินดิจิทัล เฟส 3 ทุกคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าใครลงทะเบียนไว้ผ่านช่องทางอื่น ๆ เช่น เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ไทย ตู้บุญเติม หรือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD แล้วแต่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบในแอป “ทางรัฐ” ก็จะยังเข้าไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้
1.โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” แล้วลงทะเบียนกรอกข้อมูลส่วนบุคคล
2.เลือกเมนู “ข้อมูลของฉัน”
3. เลือกเมนู “ข้อมูลทะเบียนราษฎร์” ระบบจะขึ้นมาให้เราสมัครแอคเคาน์หรือสร้างบัญชีส่วนตัวในแอปพลิเคชัน ให้กดแล้วสมัครสมาชิก
4. เลือก “สมัครด้วยบัตรประชาชน” อ่านรายละเอียดแล้วกดยอมรับ
5. สแกนถ่ายรูปบัตรประชนชนตัวจริง
6. กรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่ระบบกำหนด
7. สแกนใบหน้าผ่านแอป
8. กรอกข้อมูลชื่อบัญชี และกำหนดรหัสผ่านด้วยตัวเอง
9. หลังจากนั้นก็กำหนดรหัส PIN 6 หลัก สำหรับใช้กดเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งเราจะต้องจำรหัสนี้ให้ได้ เพราะต้องกรอกทุกครั้งที่เข้าใช้งานแอป
10. กดปุ่มเริ่มใช้งาน สามารถเข้าใช้งานแอป “ทางรัฐ” เข้าไปตรวจสอบสิทธิและสถานะลงทะเบียนได้ทันที
การตรวจเช็กสิทธิ เงินดิจิทัล เฟส 3 นั้นสามารถทำได้ผ่านทางแอปพลิเคชันทางรัฐ
1.เปิดแอปทางรัฐ แล้วเข้าสู่ระบบ จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
2.ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และให้เรายืนยันตัวตนผ่านทางเบอร์โทรศัพท์มือถือ ให้กดปุ่มยืนยันข้อมูล
3.กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัส OTP ทาง SMS
4.ระบบจะส่ง SMS รหัส OTP มาให้เรา ให้เรานำไปกรอกและกดปุ่มยืนยัน
5.กดปุ่มอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
6.ระบบจะแสดงผลว่าสถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ของเรานั้นอยู่ในขั้นตอนไหน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คือ การยืนยันตัวตน กรอกข้อมูลส่วนตัว และสแกนใบหน้า
ขั้นตอนที่ 2 คือการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล ให้ตรงกับทะเบียนราษฎร์ หากข้อมูลผ่านจะไปสู่ขั้นตอนที่ 3
ขั้นตอนที่ 3 คือ ระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
ขั้นตอนที่ 4 คือ ไม่ผ่านและไม่ได้รับสิทธิ
ขั้นตอนที่ 5 คือ ได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต
ใครที่ผ่านขั้นตอนที่ 5 แล้ว ก็จะได้รับเงินดิจิทัล เฟส 3 ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2568 นี้แน่นอน ส่วนใครที่ลงทะเบียนไม่ทันในช่วง 16 กันยายน 2567 หรือเป็นกลุ่มเปราะบางที่ตกหล่น ไม่มีสมาร์ทโฟนต้องรอติดตามความคืบหน้าอาจจะมีเปิดให้ลงทะเบียนรอบพิเศษ ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณา และจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ในเร็ว ๆ นี้
มั่นใจได้ว่าใครที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิสวัสดิการเงิน 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐไปแล้วนั้นจะได้รับ เงินดิจิทัลเฟส 3 นี้อย่างแน่นอน…แม้ว่าจะได้รับสิทธิสวัสดิการเงินหมื่นจากรัฐบาล ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันให้ความคุ้มครองให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นเพื่อสร้างความคุ้มครองและความอุ่นใจให้กับตัวเองในการขับขี่จะต้องทำ พ.ร.บ.โดยวันนี้สามารถเช็กเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ได้ที่เว็บไซต์อินชัวร์เวิร์ส คุ้มครองอุ่นใจเมื่ออยู่บนท้องถนน
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ทาวน์เฮ้าส์มือสองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากมีบ้าน แต่ไม่อยากแบกรับภาระราคาสูงของบ้านใหม่ นอกจากจะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าแล้ว
เวลาเดินทางไปต่างประเทศ สนามบินคือจุดเริ่มต้นของทุกทริป และบางแห่งไม่ใช่แค่ที่เช็คอินขึ้นเครื่องเท่านั้น แต่ยังอลังการจนต้องร้องว้าว
การตั้งศาลพระภูมิในบ้านเป็นเรื่องของความเชื่อและจิตใจที่ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับผู้อยู่อาศัย