vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
Easy E-Receipt 2.0 คืออะไร? มาตรการลดหย่อนภาษีล่าสุดในปี 2025

Easy E-Receipt 2.0 คืออะไร? มาตรการลดหย่อนภาษีล่าสุดในปี 2025

schedule
share

ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็อยากประหยัดภาษีใช่มั้ย? และนี่คือข่าวดีที่ทุกคนรอคอย! Easy E-Receipt 2.0 มาตรการลดหย่อนภาษีใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนไทยสายช้อปหรือแม้แต่สายเก็บออม เพราะคุณสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดถึง 50,000 บาท ด้วยขั้นตอนที่ง่ายกว่าเดิมมาก ไม่ต้องปวดหัวกับกระดาษกองโตหรือเอกสารที่หายบ้าง หาไม่เจอบ้าง

จะซื้อของใช้ทั่วไป ช้อปสินค้า OTOP หรือใช้บริการจากร้านที่จดทะเบียน VAT ก็ลดหย่อนได้หมด ขอแค่ร้านค้านั้นออกใบกำกับภาษีแบบ e-Tax Invoice/e-Receipt ให้คุณ ง่ายขนาดนี้ จะไม่ใช้สิทธิได้ยังไงล่ะ

source: https://www.thebluediamondgallery.com/financial03/i/income-tax-calculator.html

ใครบ้างที่ได้ใช้ Easy E-Receipt 2.0?

ถ้าคุณเป็น ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มีรายได้และต้องยื่นภาษีทุกปี คุณก็ใช้สิทธิได้เลย!

แต่เดี๋ยวก่อน…ถ้าคุณเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ขอแสดงความเสียใจ เพราะสิทธินี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงคุณ

ใครก็ตามที่อยากลดหย่อนภาษี และมียอดช้อปในช่วงเวลาที่กำหนด เตรียมตัวใช้สิทธิได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะยุ่งยาก

ซื้ออะไรถึงลดหย่อนได้?

การใช้สิทธิครั้งนี้ครอบคลุมการซื้อของที่หลากหลาย แต่ไม่ได้หมายความว่าซื้ออะไรก็ได้หมดนะ มาดูว่าซื้ออะไรลดหย่อนได้บ้าง

กลุ่มที่ 1: สินค้าและบริการทั่วไป

เช่น ของใช้ในชีวิตประจำวัน บริการที่จำเป็นที่ร้านค้าจด VAT และสามารถออกใบกำกับภาษี e-Tax Invoice/e-Receipt ได้ เช่น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้า

  • ต้องซื้อจากร้านค้าที่จดทะเบียน VAT
  • ลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท

กลุ่มที่ 2: สินค้า OTOP และสินค้าชุมชน

ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่งานหัตถกรรม เช่น กระเป๋าทอมือ ผ้าพื้นเมือง เครื่องปั้นดินเผา ไปจนถึงอาหารพื้นบ้านที่สะท้อนวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น เช่น ขนมไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และอื่น ๆ ที่ผ่านการรับรองว่าเป็นสินค้า OTOP อย่างถูกต้อง

  • เช่น งานฝีมือท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน ของฝากจากหมู่บ้านต่าง ๆ
  • ลดหย่อนได้เพิ่มอีก 20,000 บาท

รวมกันแล้วลดหย่อนได้สูงสุดถึง 50,000 บาท ต่อคนต่อปี ถือเป็นโอกาสทองที่ช่วยให้คุณลดหย่อนภาษี พร้อมสนับสนุนสินค้าไทยไปในตัว!

นอกจากการช้อปสินค้า OTOP หรือสินค้าอื่น ๆ แล้ว การจัดการเรื่องรถยนต์ก็เป็นเรื่องสำคัญ! ถ้าคุณต้องการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ หรือซื้อประกันรถยนต์ insurverse ก็พร้อมช่วยให้ทุกขั้นตอนง่ายและเร็วที่สุด คุณสามารถซื้อ พ.ร.บ. และประกันในครั้งเดียว แล้วนำไปต่อภาษีออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาวิ่งไป-มา

แล้วอะไรที่ลดหย่อนไม่ได้?

แม้ว่า Easy E-Receipt จะครอบคลุมสินค้าหลายประเภท แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ไม่เข้าข่ายลดหย่อน เช่น

  • สุรา เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ยาสูบ
  • ค่าน้ำมัน ก๊าซ และค่าไฟฟ้า
  • ค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
  • ทองคำแท่ง หรือทรัพย์สินที่เน้นการลงทุน
  • การซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี
  • บริการที่ไม่ได้ออกใบกำกับภาษีในรูปแบบ e-Tax Invoice/e-Receipt

อย่าลืมเช็กให้ชัวร์ก่อนช้อป! ถ้าของที่ซื้อไม่เข้าเกณฑ์ก็อดใช้สิทธิ ลดหย่อนภาษีไม่ได้นะ อยากช้อปให้คุ้ม ต้องรู้ก่อนว่าอะไรเข้าข่าย อะไรไม่เข้าข่าย จะได้ไม่พลาดสิทธิสำคัญนี้

ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 ยังไง?

ใครที่คิดว่าการลดหย่อนภาษีต้องยุ่งยาก มาทางนี้ Easy E-Receipt ทำให้ทุกอย่างง่ายแบบคอนเซ็ปต์ “One Stop” ไปที่เดียวจบ

  1. แจ้งข้อมูลกับร้านค้า
    ก่อนซื้อของ อย่าลืมบอกข้อมูลที่ร้านค้าต้องการ เช่น ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน และที่อยู่ เพื่อให้ร้านค้าสามารถออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องได้
  2. รับ e-Tax Invoice/e-Receipt
    เมื่อซื้อเสร็จ ร้านค้าจะออกใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice/e-Receipt ใบนี้มีข้อมูลครบถ้วนทั้งรายละเอียดสินค้า ราคาซื้อขาย รวมถึงเลขบัตรประชาชนของคุณ
  3. เช็กข้อมูลใน My Tax Account
    ระบบบันทึกข้อมูลทุกอย่างให้อัตโนมัติผ่านบัญชี My Tax Account ของคุณ ไม่ต้องห่วงเรื่องเอกสารหาย หรือลืมเอาใบกำกับภาษีไปใช้ เพราะข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ในระบบพร้อมใช้งาน
  4. ใช้ข้อมูลยื่นภาษีตอนปลายปี
    ถึงเวลายื่นภาษีเมื่อไหร่ คุณแค่ล็อกอินบัญชี My Tax Account ข้อมูลทุกอย่างที่คุณช้อปและใช้สิทธิลดหย่อนจะปรากฏครบ ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมเอกสารสำคัญ

ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิได้

อย่าลืมว่า Easy E-Receipt มีช่วงเวลาที่กำหนดไว้ คุณสามารถซื้อสินค้าและบริการเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

เก็บช่วงเวลานี้ไว้ในปฏิทินด่วน! จะได้ไม่พลาดสิทธิดี ๆ แบบนี้

Easy E-Receipt 2.0 ดีตรงไหน?

ถ้าคุณยังลังเล นี่คือข้อดีที่ชัดเจนสุด ๆ ของมาตรการนี้

  • ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ช่วยประหยัดเงินภาษีที่ต้องจ่ายปลายปี
  • ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ไม่ต้องยุ่งกับเอกสารกระดาษให้วุ่นวาย
  • ข้อมูลปลอดภัยและโปร่งใส คุณสามารถเช็กได้ตลอดเวลา
  • ส่งเสริมสินค้า OTOP และชุมชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ท้องถิ่น

ร้านค้าไหนเข้าร่วมบ้าง?

ไม่ใช่ทุกที่ที่ซื้อแล้วจะใช้สิทธิได้ ร้านค้าหรือบริการต้องเป็นร้านที่ จดทะเบียน VAT และมีระบบออกใบกำกับภาษีแบบ e-Tax Invoice/e-Receipt

หากไม่มั่นใจว่าร้านที่คุณซื้อเข้าร่วมรายการหรือเปล่า ลองสอบถามกับร้านค้าโดยตรง หรือเช็กรายชื่อร้านที่ร่วมรายการได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร

Easy E-Receipt 2.0 ตัวช่วยของคนไทยทุกคน

ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อป สายเที่ยว หรือสายช่วยชุมชน Easy E-Receipt 2.0 ก็ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ใช้สิทธิง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสาร แถมยังช่วยประหยัดเงินภาษีแบบเห็น ๆ

ถ้าคุณยังไม่เคยใช้สิทธิลดหย่อนภาษี หรือยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง Easy E-Receipt 2.0 คือคำตอบสำหรับปีนี้ อย่ารอช้า เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปช้อปแบบมั่นใจได้เลย!

ถ้าคุณต้องต่อ พ.ร.บ. รถยนต์อยู่แล้ว นี่แหละโอกาสทองที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปพร้อมกัน เพียงเลือก insurverse ที่ให้คุณ เช็กเบี้ย พ.ร.บ. รถยนต์ และซื้อผ่านระบบออนไลน์ คุณจะได้รับความสะดวกทั้งการจัดการเรื่องรถและการลดหย่อนภาษีในเวลาเดียวกัน

คำถามที่พบบ่อย

ซื้อสินค้าออนไลน์ลดหย่อนได้มั้ย?

ได้แน่นอน ถ้าร้านค้าออนไลน์นั้นออกใบกำกับภาษีแบบ e-Tax Invoice/e-Receipt

ต้องเก็บใบกำกับภาษีไว้เองหรือเปล่า?

ไม่จำเป็น เพราะระบบบันทึกข้อมูลใน My Tax Account ให้อัตโนมัติ

ถ้าไม่ได้ซื้อ OTOP จะลดหย่อนได้เต็ม 50,000 มั้ย?

ถ้าคุณซื้อแค่สินค้าทั่วไป จะลดหย่อนได้แค่ 30,000 บาท แต่ถ้ารวมสินค้า OTOP จะได้สูงสุด 50,000 บาท

สินค้าหรือบริการประเภทไหนลดหย่อนไม่ได้?

สิ่งที่ไม่สามารถลดหย่อนได้รวมถึง สุรา ยาสูบ ค่าน้ำมัน ค่าสาธารณูปโภค และการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี

ใช้สิทธิได้ถึงเมื่อไหร่?

ใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย