Easy E-Receipt เป็นหนึ่งในโครงการของรัฐที่มาพร้อมความสะดวกสบายแบบสุด ๆ สำหรับคนที่ต้องการลดหย่อนภาษีอย่างชาญฉลาด โครงการนี้ให้คุณใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบเสร็จแบบดิจิทัล ซึ่งออกโดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วม มาเป็นหลักฐานสำหรับลดหย่อนภาษีได้ทันที จุดเด่นคือความง่ายและสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารหายหรือยุ่งยากในการจัดเก็บอีกต่อไป
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการ คำนวณภาษีรถยนต์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ใบเสร็จดิจิทัลจากโครงการ Easy E-Receipt สามารถใช้เป็นหลักฐานได้เลย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง ค่าประกัน หรือค่าต่อภาษีรถยนต์ ทุกขั้นตอนถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณลดภาระการจัดการเอกสาร และมั่นใจได้ว่าเอกสารอยู่ครบถ้วนพร้อมใช้เมื่อต้องการ
สำหรับปี 2568 มาตรการ Easy E-Receipt มาแรงสุด ๆ ช่วยให้คนไทยลดภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท! แต่ก่อนจะพุ่งไปใช้สิทธิ์ มาดูกันว่าเงื่อนไขมีอะไรบ้าง
เรียกง่าย ๆ ว่าเน้นส่งเสริมร้านค้าชุมชน ใครอุดหนุนร้านแบบนี้ก็ได้ส่วนลดภาษีเพิ่มขึ้นอีก 20,000 บาท
จะใช้สิทธิ์ลดหย่อน ต้องไม่ลืมเก็บเอกสารให้ครบถ้วน โดยต้องมี
สิ่งสำคัญคือเอกสารนี้ต้องมี ชื่อ-นามสกุล และ เลขประจำตัวประชาชน ของผู้ซื้อระบุไว้อย่างชัดเจน เพื่อใช้ในการยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง
มาตรการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568 จะเริ่มต้น ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568รวมทั้งหมด 45 วัน อย่าลืมจดไว้ในปฏิทิน หรือเตือนตัวเองในมือถือ จะได้ไม่พลาดโอกาสดี ๆ
เข้าใจเงื่อนไขแบบนี้แล้ว การวางแผนใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หมวดนี้เป็นหมวดที่กว้างที่สุด เพราะสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด แต่ต้องมีเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องมีเอกสารใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice หรือ e-Receipt) และต้องเป็นสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจริง ๆ สินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ของสดหรือสินค้าบางประเภทที่ซื้อจากร้านค้าทั่วไป จะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ ตัวอย่างสินค้าและบริการในหมวดนี้ เช่น
สำหรับคนที่ชื่นชอบสินค้าไทย ๆ หรืออยากสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น ข่าวดีคือ สินค้า OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ โดยมีข้อกำหนดว่า สินค้า OTOP ที่เข้าข่ายต้องได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาชุมชน และการซื้อขายต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่างสินค้า OTOP ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ เช่น
สายอ่านต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือและ E-Book สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะชอบอ่านนวนิยาย บทความวิชาการ หรือหนังสือเพื่อการเรียนรู้ ขอแค่มีใบเสร็จแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อกำหนด ก็สามารถใช้สิทธินี้ได้เต็มที่
ประเภทหนังสือที่เข้าข่าย
ข้อควรระวัง: หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และวารสารบางประเภทที่ไม่ได้มีใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ อาจไม่เข้าข่ายการลดหย่อนภาษี
ในบางกรณี รัฐบาลอาจกำหนดสินค้าและบริการเพิ่มเติมที่เข้าข่ายการลดหย่อนภาษี โดยเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจในบางช่วง ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในจังหวัดรอง (55 จังหวัด) ที่เข้าร่วมโครงการเที่ยวเมืองรอง
ตัวอย่างที่อาจเข้าข่ายในหมวดนี้:
ถึงแม้ว่าจะมีสินค้าและบริการที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ในปี 2568 แต่ก็มีบางประเภทที่ไม่สามารถใช้สิทธินี้ได้เหมือนกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ไม่เข้าข่ายการลดหย่อนครั้งนี้
สินค้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่มีสิทธิลดหย่อนภาษี แต่ยังอาจเพิ่มภาระด้านสุขภาพและการเงินของคุณอีกด้วย เช่น
การเติมน้ำมันหรือก๊าซสำหรับยานพาหนะ เช่น เบนซิน ดีเซล หรือก๊าซธรรมชาติ ไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ เพราะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
แม้ว่าการซื้อหรือซ่อมบำรุงยานพาหนะจะเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ แต่สินค้าเหล่านี้ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ เช่น
ค่าใช้จ่ายบางประเภทที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยก็ไม่ได้รับการลดหย่อน เช่น
บริการที่ไม่ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตามมาตรฐานกรมสรรพากร เช่น ใบเสร็จที่ไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีหรือรายละเอียดครบถ้วน จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
แม้การลงทุนจะช่วยสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว แต่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้รับสิทธิลดหย่อน เช่น
การซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการในต่างประเทศไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ ยกเว้นกรณีที่ร้านค้านั้นเป็นผู้ประกอบการในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มของไทยและออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับความบันเทิงหรือการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น
แม้ค่ารักษาพยาบาลบางประเภทจะลดหย่อนได้ แต่มีบางกรณีที่ไม่เข้าข่าย เช่น
การตามล่าหา “ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์” หรือ e-Receipt ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกร้านจะมีให้เสมอไป ใครที่อยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจาก Easy E-Receipt ต้องรู้ก่อนว่า ร้านแบบไหนบ้างที่สามารถออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ได้ และนี่คือคำตอบแบบเข้าใจง่าย ไม่งง ไม่หลงทาง
1. ร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ร้านไหนที่เก็บ VAT เวลาเราซื้อของหรือใช้บริการ เช่น ร้านในห้างใหญ่ ๆ หรือแบรนด์ที่เราคุ้นชื่อ ถ้าสงสัยว่าร้านนี้เก็บ VAT ไหม ให้ลองเช็กในใบเสร็จหรือใบกำกับภาษี ถ้ามี VAT แปลว่าร้านนั้นมีโอกาสออก e-Receipt ได้สูงมาก
2. ร้านที่ใช้ระบบ e-Tax Invoice e-Receipt เป็นส่วนหนึ่งของระบบ e-Tax Invoice ซึ่งเป็นการออกเอกสารทางภาษีในรูปแบบดิจิทัล ถ้าร้านไหนใช้ระบบนี้ ส่วนใหญ่จะออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ได้แน่นอน วิธีง่าย ๆ คือถามพนักงานหรือดูที่หน้าร้านว่ามีป้ายแจ้งหรือไม่
3. ธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการภาษีของรัฐ ธุรกิจที่อยู่ในหมวดหมู่สนับสนุนจากภาครัฐ เช่น ร้านค้าโครงการช้อปดีมีคืน หรือร้านที่ขายสินค้า OTOP แบบมีมาตรฐาน มักจะมีระบบออกใบเสร็จ e-Receipt เพื่อสนับสนุนการลดหย่อนภาษี ตรวจสอบได้ง่ายแค่ถามพนักงานหรือดูใบเสร็จที่ออกมา
4. ร้านออนไลน์ใหญ่ ๆ เว็บช้อปปิ้งออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง เช่น เว็บไซต์ที่ขายสินค้าแบบ e-Commerce เจ้าใหญ่ ๆ มักจะมีระบบ e-Receipt ให้ลูกค้าด้วยเช่นกัน ลองดูที่หน้าการชำระเงิน หรือในอีเมลยืนยันคำสั่งซื้อ ถ้ามีการแจ้งว่าออกใบเสร็จแบบ e-Tax Invoice ได้ ก็มั่นใจเลยว่าคุณใช้สิทธิลดหย่อนได้แน่นอน
5. วิธีง่ายที่สุด ถามก่อนซื้อ อย่าปล่อยให้สงสัยจนสายเกินไป ถ้าคุณอยากรู้ว่าร้านที่ซื้อของมีใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ไหม ให้ถามพนักงานหรือเจ้าของร้านก่อนซื้อเลย
นอกจากนี้ ยังสามารถเช็คได้ผ่านทางสองลิงก์นี้อีกด้วย
นอกจากการซื้อสินค้า OTOP หรือบริการในห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการแล้ว คุณยังสามารถวางแผนลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกซื้อประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตที่มีสิทธิลดหย่อนภาษีได้ และถ้ากำลังมองหาประกันที่ตอบโจทย์ insurverse พร้อมตอบโจทย์ด้วยประกันรูปแบบใหม่สามารถ DIY ได้ อยากได้ประกันแบบไหน คุ้มครองอะไรบ้าง อยากจ่ายเท่าไหร่ จิ้มเลือกได้เลย
โครงการของรัฐที่ให้ใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เพื่อลดหย่อนภาษีได้
สินค้าและบริการที่เสีย VAT เช่น ของใช้ในห้าง หนังสือ E-Book สินค้า OTOP และบริการจากวิสาหกิจชุมชน
ร้านที่จด VAT และเข้าระบบ e-Tax Invoice เช่น ร้านในห้าง ร้านค้าโครงการรัฐ และร้านค้าออนไลน์บางแห่ง
สินค้าอย่างแอลกอฮอล์ ยาสูบ น้ำมัน รถยนต์ หรือบริการที่ไม่มีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
ซื้อของจากร้านที่เข้าร่วม รับใบ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ที่มีชื่อ-เลขประชาชน และยื่นลดหย่อนภาษีในปีที่กำหนด
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินไม่ใช่เรื่องแปลก หลายคนอาจต้องเลื่อนวันเดินทางเพราะธุระด่วน เปลี่ยนจุดหมาย หรือเกิดเหตุสุดวิสัย แต่รู้หรือไม่ว่าสายการบินแต่ละแห่งมีเงื่อนไขการเปลี่ยนตั๋วที่แตกต่างกัน บางเจ้าต้องแจ้งล่วงหน้าเป็นวัน บางเจ้าคิดค่าธรรมเนียมแพงหูฉี่ ขณะที่บางสายการบินเปลี่ยนฟรี แต่ต้องอยู่ภายในเงื่อนไขที่กำหนด ใครที่ต้องการเลื่อนตั๋ว ควรเช็กให้ชัวร์ก่อนทำรายการ จะได้ไม่เสียเงินเกินจำเป็น แล้วถ้าอยากอุ่นใจเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัย อย่างไฟลท์ดีเลย์ กระเป๋าหาย หรือค่ารักษาพยาบาลระหว่างทริป ประกันเดินทาง จาก insurverse ก็พร้อมดูแลให้คุณเดินทางได้แบบไร้กังวล เงื่อนไขการเลื่อนตั๋วของแต่ละสายการบิน Thai Airways AirAsia Nok Air Air Japan Peach Air Emirates Lion Air Cathay Pacific สรุปอัตราค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงของแต่ละสายการบิน สายการบิน ภายในประเทศ (บาท) ระหว่างประเทศ (บาท) หมายเหตุ Thai Airways ฟรี ฟรี ต้องแจ้งล่วงหน้า 72 ชั่วโมง AirAsia 750 1,210 ต้องแจ้งล่วงหน้า 48 ชั่วโมง… Continue reading เลื่อนตั๋วเครื่องบินต้องทำเมื่อไหร่? กี่วันก่อนบินถึงไม่เสียเงิน
หลายคนชอบมีภาพจำว่าอาหารบนเครื่องรสชาติเฉย ๆ แต่ความจริงแล้วเดี๋ยวนี้หลายสายการบินใส่ใจเรื่องอาหารบนเครื่องมากขึ้นแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่รวมถึงวัตถุดิบ การจัดจาน เมนูเฉพาะฤดูกาล และการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายสุขภาพหรือแพ้อาหารด้วย
การมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองเป็นความฝันของใครหลายคน แต่การต้องผ่อนบ้านยาวนาน 20-30 ปี อาจทำให้รู้สึกเหมือนแบกภาระก้อนใหญ่ไว้ตลอดชีวิต การโปะบ้านจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้น