vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
เปิดแอร์ให้ประหยัด ทำยังไงให้ค่าไฟไม่พุ่ง?

เปิดแอร์ให้ประหยัด ทำยังไงให้ค่าไฟไม่พุ่ง?

schedule
share

แอร์เป็นของคู่บ้านในอากาศร้อนแบบนี้ แต่ถ้าเปิดแบบไม่รู้หลัก ค่าไฟก็พุ่งไม่หยุด หลายคนอาจคิดว่าปรับแค่ไม่กี่องศาก็ช่วยได้ แต่จริง ๆ แล้ว มีเทคนิคอีกเพียบที่จะช่วยให้แอร์เย็นฉ่ำแต่กินไฟน้อยสุด ลองมาดูกันว่าทำยังไงให้เปิดแอร์แบบสบายกระเป๋า โดยไม่ต้องทนร้อน

บ้านที่ใช้แอร์บ่อย ๆ ต้องดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ดี แต่ไม่ใช่แค่แอร์เท่านั้นที่ต้องระวัง ปัญหาไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกบ้าน แค่ เช็กเบี้ยประกันบ้านและคอนโด จาก insurverse ก็มั่นใจได้ว่าคุ้มครองไฟไหม้ทั้งจากอัคคีภัยและไฟฟ้าลัดวงจร ลดภาระค่าซ่อมแซมบ้านในกรณีฉุกเฉิน

เลือก BTU ให้เหมาะกับขนาดห้อง

แอร์ไม่ได้แค่เปิดแล้วเย็น แต่ต้องเลือกขนาด BTU ให้เหมาะกับพื้นที่ห้อง ถ้าเลือกต่ำไป แอร์จะทำงานหนักเปลืองไฟ ถ้าเลือกสูงไป ค่าไฟก็ไหลแรงโดยใช่เหตุ วิธีคำนวณง่าย ๆ คือ เอาพื้นที่ห้องเป็นตารางเมตรคูณด้วย 800-1200 BTU แล้วเลือกให้พอดี เช่น ห้องนอน 12 ตร.ม. ควรใช้ 9000-12000 BTU ถ้าเป็นห้องรับแขกกว้าง ๆ ที่มีแสงแดดเยอะ อาจต้องเพิ่มเป็น 18000 BTU เพื่อให้เย็นฉ่ำแบบไม่ต้องเร่งเครื่องแรง ๆ เปิดแอร์ให้ประหยัด ได้ตั้งแต่เริ่มเลือกขนาดแอร์ที่เหมาะสม

ตั้งอุณหภูมิ 25-27 องศา ไม่ต้องหนาวถึงขั้วหัวใจ

ใครชอบตั้ง 18 องศาแล้วห่มผ้าหนา ๆ รู้มั้ยว่ามันเปลืองไฟแบบไม่จำเป็น? อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือ 25-27 องศา เพราะระบบทำความเย็นจะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป แถมช่วยลดการเกิดความชื้นสะสมในห้อง ลดโอกาสเชื้อราและแบคทีเรียเติบโตด้วย ถ้ารู้สึกยังไม่เย็นสะใจ ลองเปิดพัดลมช่วยลมหมุนเวียน อากาศจะไหลเวียนดีขึ้น ประหยัดไฟขึ้นเยอะ วิธีนี้ช่วยให้ เปิดแอร์ให้ประหยัด ได้จริงแบบไม่ต้องทรมานกับอากาศร้อน

เปิดพัดลมช่วย แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก

พัดลมกับแอร์เป็นคู่หูที่เข้ากันสุด ๆ พัดลมช่วยกระจายลมเย็นให้ทั่วห้อง ทำให้แอร์ไม่ต้องเร่งแรงเกินไป ประหยัดไฟขึ้นทันที แนะนำให้เปิดพัดลมเพดานหรือพัดลมตั้งพื้น ช่วยกระจายลมเย็นทั่วห้องแบบฟิน ๆ แถมยังลดความอับชื้น ไม่ต้องพึ่งแอร์ตลอดเวลา เทคนิคนี้ช่วยให้ เปิดแอร์ให้ประหยัด แบบไม่ต้องเพิ่มค่าไฟ

อย่าลืมล้างแอร์! ฝุ่นเยอะ แอร์ทำงานหนัก ค่าไฟพุ่ง

แอร์สกปรก = เปลืองไฟ ยิ่งฝุ่นจับที่ฟิลเตอร์เยอะ ลมจะผ่านได้น้อย ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก ค่าไฟก็สูงตามไปด้วย ทางที่ดีควรล้างแอร์ทุก 3-6 เดือน โดยเฉพาะแผ่นกรองอากาศ ล้างเองได้ง่าย ๆ แค่ถอดออกมาแล้วใช้น้ำเปล่าล้างฝุ่นออก หรือถ้าล้างใหญ่ก็ควรให้ช่างมืออาชีพช่วย แอร์จะเย็นเร็วขึ้น แถมช่วยลดเชื้อโรคในอากาศอีกด้วย แค่นี้ก็ เปิดแอร์ให้ประหยัด ได้อีกขั้น

ใช้โหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode) ให้เป็น

แอร์ยุคนี้มักมีโหมด Eco หรือโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งช่วยควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ไม่ต้องเร่งแรงตลอดเวลา ทำให้กินไฟน้อยลงกว่าโหมดปกติ ลองเปิดใช้งานดู จะช่วยลดค่าไฟลงไปได้แบบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย เป็นอีกเทคนิคที่ช่วยให้ เปิดแอร์ให้ประหยัด ได้ง่ายสุด ๆ

เปิดแอร์แล้วปิดประตูหน้าต่างให้สนิท

เปิดแอร์แล้วปล่อยลมรั่วออกไปเท่ากับเผาเงินเล่น ประตูหน้าต่างต้องปิดให้สนิทที่สุด ถ้ามีช่องลมรั่วควรหายางกันลมมาติดเพิ่ม นอกจากนี้ ผ้าม่านหรือฟิล์มกันความร้อนก็ช่วยลดภาระของแอร์ได้เยอะ ยิ่งกันแดดได้มาก แอร์ยิ่งทำงานน้อยลง ค่าไฟก็ลดลงตามไปด้วย อีกหนึ่งวิธี เปิดแอร์ให้ประหยัด ที่หลายคนมองข้าม

อย่าเปิด-ปิดแอร์ถี่ ๆ เปลืองไฟโดยใช่เหตุ

บางคนเข้า-ออกห้องบ่อย ๆ แล้วปิดแอร์ทุกครั้ง คิดว่าจะช่วยประหยัดไฟ แต่จริง ๆ แล้วแอร์ต้องใช้พลังงานสูงมากตอนเปิดใหม่ ถ้าปิดแล้วเปิดใหม่บ่อย ๆ คอมเพรสเซอร์ต้องเร่งกำลังแรงสุดรอบใหม่ ทำให้เปลืองไฟกว่าเปิดต่อเนื่องในอุณหภูมิที่เหมาะสม ถ้าจะออกไปไม่นาน เช่น แค่ 10-15 นาที เปิดไว้ดีกว่า การหลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดบ่อย ๆ คืออีกวิธี เปิดแอร์ให้ประหยัด

เปลี่ยนมาใช้แอร์อินเวอร์เตอร์ ประหยัดกว่าแอร์ธรรมดา

แอร์อินเวอร์เตอร์ทำงานต่างจากแอร์ธรรมดาตรงที่มันจะค่อย ๆ ปรับกำลังทำงานตามอุณหภูมิที่ต้องการ ไม่ได้เร่งแรงสุดแล้วดับ ๆ เหมือนแอร์แบบเก่า ทำให้กินไฟน้อยลงกว่า 30-50% แม้ราคาจะแพงกว่า แต่ค่าไฟที่ลดลงทำให้คุ้มในระยะยาว ถ้าใครจะซื้อแอร์ใหม่ ลองดูรุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือรุ่นที่มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงานด้วย จะช่วยให้ เปิดแอร์ให้ประหยัด ในระยะยาว

แอร์เย็นได้ถ้าดูแลให้ดี

ใครที่บ่นว่าแอร์กินไฟเกินไป ลองเช็กว่าดูแลถูกต้องหรือยัง ทั้งการล้างแอร์ เลือกขนาดที่เหมาะสม ใช้งานให้ถูกวิธี และอย่าลืมอัปเกรดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้แอร์ทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้แอร์ยังไงให้เย็นสบายโดยไม่ต้องจ่ายค่าไฟแพง ลองปรับตามนี้ แล้วจะเห็นความต่างแน่นอน เปิดแอร์ให้ประหยัด ไม่ใช่เรื่องยาก แค่รู้เทคนิคและนำไปใช้ให้ถูกต้อง

แอร์ที่สะอาดช่วยให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ประหยัดไฟขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้แอร์สกปรกจนทำให้เครื่องพังหรือไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากต้องเสียเงินซ่อม ยังอาจเกิดความเสียหายกับบ้านได้ ถ้าไม่อยากปวดหัวเรื่องค่าซ่อมบ้านและอุปกรณ์ไฟฟ้า ประกันบ้านและคอนโดจาก insurverse คุ้มครองความเสียหายจากไฟฟ้าลัดวงจร ช่วยให้มั่นใจว่าแม้เกิดเหตุไม่คาดฝัน บ้านก็ยังปลอดภัย

การใช้แอร์ให้ประหยัดไม่ได้ยาก แค่เลือกขนาดให้เหมาะ ปรับอุณหภูมิให้ดี เปิดพัดลมช่วย ล้างแอร์สม่ำเสมอ และใช้โหมดประหยัดพลังงานให้เป็น ก็ลดค่าไฟได้เยอะ ยิ่งถ้าดูแลแอร์ให้ดี ปิดช่องลมรั่ว ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด แอร์ก็จะทำงานได้มีประสิทธิภาพ แถมจ่ายค่าไฟแบบไม่ปวดหัว

5 คำถามที่พบบ่อย

ตั้งอุณหภูมิแอร์เท่าไหร่ถึงจะช่วยประหยัดไฟได้ดีที่สุด?

อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 25-27 องศาเซลเซียส เพราะช่วยให้คอมเพรสเซอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเร่งเครื่องแรงเกินไป ลดการใช้พลังงานโดยไม่เสียความเย็น

ล้างแอร์บ่อยแค่ไหนถึงจะช่วยให้ประหยัดไฟ?

ควรล้างแผ่นกรองอากาศทุก 2-3 สัปดาห์ และล้างใหญ่โดยช่างมืออาชีพทุก 3-6 เดือน เพื่อให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดภาระของคอมเพรสเซอร์

พัดลมช่วยประหยัดไฟได้ยังไงถ้าเปิดพร้อมแอร์?

พัดลมช่วยกระจายลมเย็นทั่วห้อง ทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ลดภาระของคอมเพรสเซอร์ และช่วยให้รู้สึกเย็นขึ้นแม้ตั้งอุณหภูมิสูงกว่าเดิม

แอร์อินเวอร์เตอร์ช่วยประหยัดไฟได้จริงไหม?

แอร์อินเวอร์เตอร์ช่วยลดการใช้พลังงานได้ 30-50% เพราะสามารถปรับกำลังทำงานตามอุณหภูมิที่ต้องการ ต่างจากแอร์ธรรมดาที่เร่งทำงานแรงสุดแล้วตัดการทำงานสลับไปมา

เปิด-ปิดแอร์บ่อย ๆ ช่วยประหยัดไฟจริงหรือเปล่า?

ไม่จริง! การเปิด-ปิดแอร์บ่อยทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องเร่งทำงานใหม่ทุกครั้ง ส่งผลให้ใช้พลังงานมากขึ้น ควรเปิดต่อเนื่องในอุณหภูมิที่เหมาะสม หรือใช้โหมด Eco Mode เพื่อลดการใช้พลังงานแทน

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย