vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
วีซ่าอิตาลี คู่มือครบเครื่องสำหรับสายเที่ยว สายธุรกิจ และทุกคนที่อยากเหยียบแดนมักกะโรนี

วีซ่าอิตาลี คู่มือครบเครื่องสำหรับสายเที่ยว สายธุรกิจ และทุกคนที่อยากเหยียบแดนมักกะโรนี

schedule
share

ใครกำลังวางแผนจะบินไปเยือนอิตาลี ต้องไม่ลืมว่าประเทศนี้อยู่ในเขตเชงเก้น ซึ่งหมายความว่าการจะเดินทางเข้าไปต้องมีวีซ่าถูกต้องตามกฎ ถึงจะเดินทางได้แบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวโดนปฏิเสธที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เมื่อได้วีซ่าแล้ว สามารถอยู่ในอิตาลีได้สูงสุด 90 วันภายในช่วงเวลา 180 วัน ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่นเอกสารถือเป็นขั้นตอนสำคัญมาก เพราะถ้าเอกสารไม่ครบหรือผิดพลาด อาจต้องเสียเวลาแก้ไขหรือโดนปฏิเสธวีซ่าได้ง่าย ๆ

แต่การมีวีซ่าอย่างเดียวอาจยังไม่พอ เพราะการเดินทางต่างประเทศมักมาพร้อมความไม่แน่นอน ทั้งไฟลท์ดีเลย์ กระเป๋าเสียหาย หรือเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพ insurverse จึงมาพร้อมประกันเดินทางต่างประเทศที่จัดเต็มความคุ้มครอง ในราคาสบายกระเป๋า เบี้ยเริ่มต้นแค่ 59 บาทต่อทริป ให้คุณเที่ยวได้อย่างอุ่นใจแบบไม่ต้องกังวลเรื่องไม่คาดฝัน

ประเภทของวีซ่าอิตาลี เลือกให้ถูก ใช้ให้เป็น

การขอวีซ่าอิตาลีไม่ได้มีแค่แบบเดียว เพราะแต่ละคนเดินทางด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป มาดูกันว่ามีวีซ่าแบบไหนบ้าง และแต่ละแบบเหมาะกับใคร

1. วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) หรือ วีซ่าแบบพำนักระยะสั้น (Category C)

  • วีซ่าผ่านสนามบิน (Airport Transit Visa): สำหรับคนที่ต้องเปลี่ยนเครื่องบินในอิตาลีแต่ไม่ได้ออกจากสนามบิน เหมาะสำหรับคนที่มีไฟลท์ต่อและแวะเปลี่ยนเครื่องในโรมหรือมิลาน ถ้าไม่ออกจากเขตสนามบินก็สบายใจได้ แต่อย่าลืมเช็คว่าต้องใช้วีซ่าผ่านสนามบินรึเปล่า
  • วีซ่าธุรกิจ (Business Visa): สำหรับใครที่มีภารกิจทางธุรกิจ เช่น ประชุม สัมมนา หรือคุยงานกับคู่ค้าชาวอิตาเลียน วีซ่านี้จะช่วยให้คุณเดินทางเพื่อธุรกิจได้ไม่เกิน 90 วัน เอกสารสำคัญคือจดหมายเชิญจากบริษัทที่อิตาลีหรือหลักฐานการติดต่อทางธุรกิจ
  • วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa): วีซ่ายอดฮิตสำหรับคนที่อยากไปชิลล์ ๆ ที่โคลอสเซียม ล่องเรือในเวนิส หรือถ่ายรูปกับหอเอนเมืองปิซ่า อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน และต้องมีแผนการเดินทางที่ชัดเจน ทั้งที่พักและตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
  • วีซ่าเยี่ยมเยียน (Visitor Visa): ถ้ามีครอบครัวหรือเพื่อนอยู่ในอิตาลีและอยากไปเยี่ยมเยียน ต้องมีจดหมายเชิญจากเจ้าบ้าน พร้อมหลักฐานความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร หรือทะเบียนบ้าน รับรองว่าไม่ได้ไปอยู่ยาวนะจ๊ะ แค่มาเยี่ยมไม่เกิน 90 วัน
  • วีซ่าวัฒนธรรม (Cultural Visa): สำหรับคนที่มีภารกิจทางวัฒนธรรม เช่น ร่วมเทศกาลศิลปะ ดนตรี หรือกีฬา ต้องมีเอกสารยืนยันการเข้าร่วมงาน เช่น บัตรเข้างาน หรือจดหมายเชิญจากผู้จัดงาน พำนักได้ไม่เกิน 90 วัน
  • วีซ่ารักษาพยาบาล (Medical Treatment Visa): สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาลในอิตาลี ต้องมีใบรับรองจากโรงพยาบาลในอิตาลีว่าได้รับการยอมรับให้รักษา รวมถึงหลักฐานการชำระเงินหรือประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด

2. วีซ่าแบบพำนักระยะยาว (Category D)

  • วีซ่านักเรียน (Student Visa): สำหรับคนที่สมัครเรียนในอิตาลีนานกว่า 90 วัน ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนภาษา หรือหลักสูตรเฉพาะทาง ต้องมีจดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษา และต้องยื่นขอใบอนุญาตพำนักหลังจากเดินทางถึงอิตาลี
  • วีซ่าทำงาน (Employment Visa): ถ้ามีงานในอิตาลีรออยู่ หรือมีสัญญาจ้างงานที่ถูกต้อง บริษัทต้องจัดการเรื่องใบอนุญาตทำงานให้ก่อน แล้วค่อยนำเอกสารเหล่านั้นมายื่นขอวีซ่า
  • วีซ่าหางาน (Job Seeker Visa): สำหรับผู้ที่จบการศึกษาจากอิตาลีแล้วอยากกลับไปหางานต่อ สามารถขอวีซ่านี้ได้ โดยต้องแสดงหลักฐานการจบการศึกษาและแผนการหางานที่ชัดเจน
  • วีซ่าเยี่ยมครอบครัว (Family Reunion Visa): สำหรับคนที่มีครอบครัวอยู่ในอิตาลีและต้องการไปเยี่ยม สามารถขอวีซ่านี้ได้ แต่ต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์และที่พักอาศัยที่เหมาะสมในอิตาลี
  • วีซ่านักวิจัย (Researcher Visa): สำหรับนักวิจัยหรือนักวิชาการที่ได้รับเชิญไปทำงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิจัยในอิตาลี ต้องมีจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการและรายละเอียดของโครงการวิจัย
  • วีซ่าผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelancer Visa): สำหรับคนที่ต้องการไปทำงานอิสระในอิตาลี เช่น ศิลปิน นักออกแบบ หรือฟรีแลนซ์ด้านอื่น ๆ ต้องแสดงหลักฐานการมีรายได้เพียงพอและแผนการทำงานในอิตาลี
  • วีซ่าเรียนภาษา (Language Course Visa): ถ้าอยากไปเรียนภาษาอิตาเลียนในคอร์สที่นานกว่า 90 วัน ต้องมีการลงทะเบียนเรียนอย่างเป็นทางการและแสดงหลักฐานการชำระเงินค่าเรียน
  • วีซ่าฝึกงาน (Student Internship Visa): สำหรับนักศึกษาที่ได้รับโอกาสไปฝึกงานที่อิตาลี ต้องมีจดหมายยืนยันจากบริษัทหรือองค์กร พร้อมข้อตกลงการฝึกงานที่ชัดเจน
  • วีซ่าคู่สมรส (Partnership Visa): สำหรับคู่สมรสของพลเมืองอิตาลี ต้องแสดงหลักฐานการแต่งงานและความสัมพันธ์ที่แท้จริง พร้อมเอกสารยืนยันจากหน่วยงานทางการ
  • วีซ่าทำงานตามใบอนุญาต (Work Permit Visa): สำหรับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทำงานในอิตาลี ซึ่งออกตามโควต้าของรัฐบาลอิตาลี ต้องรอการเปิดรับสมัครตาม “Decreto Flussi” ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ที่ออกปีละครั้ง

เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวอิตาลี

การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเป็นสิ่งที่ช่วยให้การยื่นวีซ่าเป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าเอกสารไม่ครบ อาจต้องแก้ไขหรือติดตามเพิ่มเติม ซึ่งจะเสียเวลาและอาจทำให้แผนการเดินทางล่าช้า เอกสารที่ต้องใช้ประกอบด้วย

  1. หนังสือเดินทาง (Passport) ต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าเพื่อใช้สำหรับการติดวีซ่า
  2. รูปถ่ายสี ขนาด 3.5 x 4.5 เซนติเมตร จำนวน 2 รูป ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน พื้นหลังเป็นสีอ่อน เช่น สีขาวหรือสีครีม ต้องเห็นใบหน้าชัดเจน ไม่ใส่แว่น หมวก หรือผ้าคลุมศีรษะ ยกเว้นผ้าคลุมตามหลักศาสนา และห้ามตกแต่งรูปด้วยโปรแกรมแต่งภาพเด็ดขาด
  3. แบบฟอร์มการขอวีซ่าอิตาลี กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและเซ็นชื่อเรียบร้อย
    หลักฐานการทำงาน แบ่งตามประเภทของผู้สมัคร
    • พนักงานบริษัท / ข้าราชการ: หนังสือรับรองการทำงานฉบับจริง ระบุชื่อ ตำแหน่ง เงินเดือน และระยะเวลาลาหยุด (เป็นภาษาอังกฤษ) เอกสารต้องออกไม่เกิน 30 วันก่อนวันยื่น
    • เจ้าของธุรกิจส่วนตัว: หนังสือจดทะเบียนบริษัท หรือหนังสือจดทะเบียนพาณิชย์ที่มีอายุไม่เกิน 90 วัน
    • นักเรียน / นักศึกษา: หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา (เป็นภาษาอังกฤษ) ที่ออกไม่เกิน 30 วัน
  4. หลักฐานทางการเงิน ใช้รายการเดินบัญชี (Bank Statement) ของบัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุด เอกสารต้องเป็นฉบับจริง และต้องมีการอัปเดตไม่เกิน 7 วันก่อนวันยื่นขอวีซ่า เพื่อแสดงว่ามีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
  5. กรมธรรม์ประกันการเดินทางและอุบัติเหตุ ที่คุ้มครองวงเงินไม่น้อยกว่า 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท เอกสารต้องมีทั้งกรมธรรม์และตารางผลประโยชน์เพื่อยืนยันความคุ้มครอง
    เอกสารเพิ่มเติม ได้แก่ การจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ การจองที่พัก โปรแกรมการท่องเที่ยว (ภาษาอังกฤษ) และเอกสารเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  6. กรณีผู้สมัครอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีสำเนาสูติบัตรและทะเบียนบ้าน พร้อมฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ หากเดินทางคนเดียว ต้องมีเอกสารยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากพ่อแม่ ซึ่งต้องออกโดยเขตหรืออำเภอ

ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าอิตาลี

การขอวีซ่าอิตาลีมีค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระต่อคน ดังนี้:

  • ค่าธรรมเนียมสถานทูต: 80 ยูโร (ประมาณ 2,960 บาท) สำหรับผู้ใหญ่
  • เด็กอายุ 6-12 ปี: ค่าธรรมเนียม 40 ยูโร (ประมาณ 1,480 บาท)
  • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม

นอกจากนั้นยังมีค่าบริการอื่น ๆ เช่น:

  • ค่าบริการศูนย์รับยื่น VFS: 342 บาท
  • ค่าบริการ SMS แจ้งสถานะวีซ่า: 75 บาท
  • หากยื่นคำขอวีซ่าน้อยกว่า 5 วันก่อนเดินทาง จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมด่วนพิเศษเพิ่มอีก 400 บาท

*หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินยูโร

ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวอิตาลี

เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนการยื่นวีซ่าก็ไม่ซับซ้อน สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย:

  1. จองคิวออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าอิตาลี (VFS Global) เพื่อระบุวันและเวลาที่จะยื่นเอกสาร
  2. เตรียมเอกสารให้ครบ ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทั้งหมดอีกครั้งก่อนวันนัดหมาย
  3. เดินทางไปยื่นเอกสาร ที่ศูนย์รับยื่นวีซ่าตามวันและเวลาที่จองไว้ ควรมาถึงก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย และนำเอกสารทั้งหมดพร้อมสำเนา รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระไปด้วย
  4. สแกนลายนิ้วมือ หากไม่เคยสแกนลายนิ้วมือมาก่อนต้องดำเนินการในขั้นตอนนี้ แต่ถ้าเคยสแกนแล้ว ข้อมูลจะอยู่ในระบบ 5 ปี
  5. ติดตามสถานะวีซ่า หลังจากยื่นเอกสาร สามารถติดตามสถานะได้ผ่านบริการ SMS หรือเช็คออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ VFS โดยใช้หมายเลขอ้างอิงที่ระบุในใบเสร็จ
  6. รับพาสปอร์ตคืน เมื่อวีซ่าผ่านการอนุมัติ สามารถเลือกรับพาสปอร์ตได้สองวิธี คือ ไปรับด้วยตนเองที่ศูนย์ VFS หรือเลือกให้ส่ง EMS มาที่บ้าน (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

สถานที่ยื่นวีซ่าอิตาลีในประเทศไทย

การยื่นขอวีซ่าอิตาลีในประเทศไทยสามารถทำได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าอิตาลี (VFS Global) ซึ่งมีอยู่ 3 แห่ง ดังนี้

  1. ศูนย์ VFS กรุงเทพฯ
    • ที่อยู่: ชั้น 3 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ออลซีซั่นส์เพลส ถ.วิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    • โทร: 02-460-7059
    • เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 12.00 น. และ 13.00 – 16.00 น.
  2. ศูนย์ VFS เชียงใหม่
    • ที่อยู่: ชั้น 6 อาคารศิริพานิช ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
    • เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 12.00 น. และ 13.00 – 14.00 น.
  3. ศูนย์ VFS ภูเก็ต
    • ที่อยู่: อาคารซีซีเอ็ม คอมเพล็กซ์ ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000
    • เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 12.00 น. และ 13.00 – 14.00 น.

ระยะเวลาการพิจารณาวีซ่าและข้อควรรู้เพิ่มเติม

โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่าอิตาลีจะใช้เวลาประมาณ 5 วันทำการ ไม่รวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจใช้เวลานานถึง 30 วัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสถานทูต เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ยื่นคำขอล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันก่อนการเดินทาง

เมื่อได้รับวีซ่าอิตาลีแล้ว สามารถเดินทางไปยังทุกเมืองในประเทศ รวมถึงนครรัฐวาติกันที่ตั้งอยู่ในกรุงโรมได้ด้วย ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการสำรวจความงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิตาลีอย่างเต็มที่

การเตรียมตัวที่ดีและการทำความเข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด จะช่วยให้การขอวีซ่าอิตาลีเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมสำหรับการเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ!

สปอนเซอร์วีซ่าคืออะไร?

สำหรับนักเรียน คนว่างงาน หรือผู้เกษียณอายุที่ไม่มีรายได้เพียงพอในการเดินทาง สามารถให้ผู้สนับสนุน (Sponsor) ยื่นรับรองการเงินแทนได้ โดยสปอนเซอร์สามารถเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือองค์กรที่เชิญชวนไปอิตาลี ผู้สนับสนุนต้องแสดงหลักฐานการเงินและความสามารถในการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เช่น สำเนาบัตรประชาชน ใบรับรองรายได้ และรายการเดินบัญชี

สรุป

เมื่อเข้าใจขั้นตอนการขอวีซ่าอิตาลีครบถ้วนแล้ว การเตรียมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธวีซ่า และทำให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ไม่ว่าจะวางแผนดีแค่ไหน ความไม่แน่นอนก็เกิดขึ้นได้เสมอ อย่าลืม เช็กเบี้ยประกันเดินทางจาก insurverse ที่พร้อมซัพพอร์ตคุณตลอด 24 ชั่วโมง จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไฟลท์ล่าช้า กระเป๋าเสียหาย หรือค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน insurverse พร้อมดูแลทุกสถานการณ์ ให้คุณเที่ยวสนุกได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

5 คำถามที่พบบ่อย

ขอวีซ่าอิตาลีใช้เวลาพิจารณานานแค่ไหน?

ปกติแล้ววีซ่าอิตาลีใช้เวลาพิจารณาประมาณ 5 วันทำการ แต่ถ้ามีเอกสารเพิ่มเติมหรือมีการตรวจสอบละเอียด อาจใช้เวลานานถึง 30 วัน แนะนำให้ยื่นล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันก่อนเดินทาง

สามารถขอวีซ่าอิตาลีแบบด่วนได้หรือไม่?

สามารถขอวีซ่าแบบด่วนได้โดยต้องยื่นล่วงหน้าก่อนเดินทางไม่เกิน 5 วัน พร้อมชำระค่าธรรมเนียมด่วนพิเศษ 400 บาท อย่างไรก็ตามการอนุมัติขึ้นอยู่กับสถานทูต

ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ถึงจะขอวีซ่าอิตาลีผ่าน?

ไม่มีจำนวนเงินขั้นต่ำที่ระบุแน่ชัด แต่ควรมีเงินเพียงพอครอบคลุมค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง โดยทั่วไปควรมีอย่างน้อย 50 ยูโรต่อวัน สำหรับค่าอาหาร ที่พัก และการเดินทาง

ถ้าถูกปฏิเสธวีซ่าอิตาลี สามารถยื่นใหม่ได้เมื่อไหร่?

หากถูกปฏิเสธสามารถยื่นใหม่ได้ทันทีหลังจากได้รับจดหมายปฏิเสธ โดยต้องแก้ไขปัญหาหรือเอกสารที่ทำให้การยื่นครั้งแรกไม่ผ่าน

ใช้วีซ่าอิตาลีเดินทางไปประเทศเชงเก้นอื่นได้หรือไม่?

เมื่อได้รับวีซ่าเชงเก้นจากอิตาลี สามารถเดินทางไปยังประเทศในเขตเชงเก้นทั้ง 26 ประเทศได้ แต่ควรให้ประเทศที่ยื่นขอเป็นจุดหมายหลักของการเดินทาง

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย