การนำเข้ารถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยมหรือการมีรถรุ่นลิมิเต็ดที่ไม่วางขายในประเทศ แต่มันยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการคำนวณภาษีรถยนต์ที่ซับซ้อนและตัวเลขที่อาจทำให้คนซื้อต้องคิดหนัก ว่าคุ้มหรือเปล่ากับราคารถที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเพราะภาษี การเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้จึงสำคัญสำหรับคนที่วางแผนจะนำเข้ารถยนต์ และยังช่วยให้มองเห็นภาพรวมของการจัดเก็บรายได้ของรัฐจากอุตสาหกรรมนี้ได้อีกด้วย
ภาษีนำเข้ารถยนต์ในประเทศไทยไม่ได้คิดจากราคาขายของรถเพียงอย่างเดียว แต่จะใช้ราคา CIF หรือ Cost, Insurance, Freight เป็นฐานในการคำนวณ ราคา CIF คือราคาขายของรถที่รวมค่าขนส่งและค่าประกันภัยจากต่างประเทศจนมาถึงท่าเรือในไทย ซึ่งราคานี้จะถูกระบุไว้ในเอกสารนำเข้าอย่างชัดเจน
อากรขาเข้าเป็นด่านแรกที่ผู้นำเข้าต้องเจอเมื่อรถมาถึงท่าเรือ คิดในอัตรา 80% ของราคา CIF เช่น ถ้าราคา CIF ของรถอยู่ที่ 450,000 บาท ผู้นำเข้าต้องจ่ายอากรขาเข้า 360,000 บาท เพื่อให้สามารถนำรถออกจากท่าเรือได้ ตัวเลขนี้เป็นต้นทุนหลักที่ทำให้ราคารถนำเข้าแพงขึ้น
ถัดจากอากรขาเข้า ยังมีภาษีสรรพสามิตที่คำนวณจากราคา CIF รวมกับอากรขาเข้า โดยใช้อัตรา 30–50% ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ เช่น รถที่มีเครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 2,000 ซีซี จะถูกเก็บในอัตรา 30% วิธีคิดภาษีนี้ใช้สูตรการคำนวณแบบฝังใน เช่น หากราคา CIF รวมอากรขาเข้าอยู่ที่ 810,000 บาท ภาษีสรรพสามิตจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 900,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ผลักดันให้ราคารถสูงขึ้นไปอีก
ชื่อภาษีอาจฟังดูแปลกหู แต่หน้าที่ของมันคือการนำรายได้เข้าสู่กระทรวงมหาดไทย โดยภาษีนี้จะคิดจากยอดภาษีสรรพสามิตในอัตรา 10% ซึ่งเพิ่มเข้ามาเป็นภาระของผู้นำเข้า เช่น ถ้าภาษีสรรพสามิตอยู่ที่ 900,000 บาท ภาษีมหาดไทยจะอยู่ที่ 90,000 บาท
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นภาษีที่เก็บจากยอดรวมของราคา CIF อากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมหาดไทย ตัวอย่างเช่น หากยอดรวมก่อนคิด VAT เท่ากับ 1,860,000 บาท VAT ที่เพิ่มเข้ามาจะอยู่ที่ 126,000 บาท ทำให้ยอดรวมที่ต้องจ่ายทั้งหมดทะลุไปถึง 1,986,000 บาทสำหรับรถนำเข้าคันนี้
ราคารถนำเข้าที่บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม อาจทำให้ราคารถในฝันดูห่างไกลขึ้นอีกขั้น แต่ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จาก insurverse ช่วยให้คุณได้ประกันที่ปรับได้เอง ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น เพิ่มลดความคุ้มครองออนไลน์ได้ง่าย ๆ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างใจ
สมมติว่าคุณต้องการนำเข้ารถยนต์หรูราคา CIF 2,500,000 บาท กระบวนการคำนวณภาษีจะเป็นดังนี้
รวมภาษีทั้งหมด:2,500,000 (CIF) + 2,000,000 (อากรขาเข้า) + 10,000,000 (ภาษีสรรพสามิต) + 1,000,000 (ภาษีมหาดไทย) + 1,085,000 (VAT) = 16,585,000 บาท
ดังนั้น รถยนต์นำเข้าคันนี้ที่ราคา CIF 2,500,000 บาท จะมีราคาสุดท้ายเมื่อรวมภาษีแล้วอยู่ที่ 16,585,000
ในปีงบประมาณ 2562 กรมศุลกากรรายงานว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์สูงถึง 12,816 ล้านบาท โดยเฉพาะรถหรูอย่างปอร์เช่และเบนท์ลีย์ที่ยอดจัดเก็บเพิ่มขึ้นถึง 102.9% เทียบกับปีก่อนหน้า ตัวเลขนี้บ่งบอกว่าภาษีนำเข้ารถยนต์ไม่ได้เป็นแค่รายได้หลักของรัฐ แต่ยังสะท้อนความนิยมรถนำเข้าในหมู่คนไทยด้วย
ตัวเลขรายได้จากภาษีนำเข้ารถยนต์สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของรถหรูในตลาดไทย ถ้าคุณคือหนึ่งในเจ้าของรถที่ต้องการความอุ่นใจ ประกันภัยรถยนต์ จาก insurverse มีบริการเจ้าหน้าที่ออกนอกสถานที่ในกรณีฉุกเฉิน ให้คุณสบายใจได้ทุกสถานการณ์
ภาษีนำเข้ารถยนต์คิดยังไง?คิดจากราคา CIF รวมอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิต ภาษีมหาดไทย และ VAT
CIF คืออะไร?ราคาขายรถรวมค่าขนส่งและประกันภัยมาถึงท่าเรือไทย
อากรขาเข้าเท่าไหร่?80% ของราคา CIF
ภาษีสรรพสามิตคำนวณยังไง?ขึ้นอยู่กับความจุเครื่องยนต์ โดยใช้สูตรคำนวณจากราคา CIF + อากรขาเข้า
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เท่าไหร่?7% ของยอดรวม CIF + ภาษีทั้งหมด
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
Suzuki Ertiga Smart Hybrid อาจจะเป็นคำตอบที่ไม่คาดคิด แต่กดถูกใจแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะไม่ได้มาเล่นใหญ่ไฟกะพริบ แต่เล่นจริงด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนใช้งานจริงต้องร้องว่า “เออ แบบนี้แหละที่ต้องการ!”
Suzuki Swift รถสไตล์สปอร์ต ดีไซน์ทันสมัย สมรรถนะดีเยี่ยม ประหยัดพลังงาน มี 3 รุ่นย่อย ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ รถขนาดกะทัดรัด
Nissan March รถยนต์อีโคคาร์สุดประหยัดน้ำมัน ราคาคุ้ม กะทัดรัด ขับขี่คล่องตัว เหมาะสำหรับชีวิตในเมือง ยังคงได้รับความนิยมแม้จะเปิดตัวมานานแล้ว