เคยไหมที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด แล้วรู้สึกว่าถ้ามีประกันภัยคงจะดี? โดยเฉพาะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุรถชน หรือรถเสียกลางทาง การมีประกันรถยนต์จึงเป็นเหมือนการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะนอกจากจะช่วยคุ้มครองรถของคุณแล้ว ยังช่วยคุ้มครองตัวบุคคลและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกอีกด้วย การเลือกกรมธรรม์รถยนต์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ แต่กรมธรรม์คืออะไร? เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์? insurverse มีคำตอบให้คุณ!
สารบัญบทความ
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยระบุรายละเอียดความคุ้มครองต่าง ๆ ที่ผู้เอาประกันจะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น อุบัติเหตุ โรคภัยไข้เจ็บ หรือความเสียหายต่อทรัพย์สิน การมีกรมธรรม์จึงเปรียบเสมือนการสร้างกำแพงคุ้มกันให้กับชีวิตและทรัพย์สินของคุณ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
กรมธรรม์มีหลากหลายประเภทให้เลือก เพื่อให้ครอบคลุมข้อตกลงความคุ้มครองต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคต้องการ ซึ่งประเภทของประกันภัยที่พบเห็นได้บ่อย ได้แก่
เมื่อทำประกันภัยเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะได้รับเอกสารกรมธรรม์เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันความคุ้มครองหากเกิดอุบัติเหตุตามที่ระบุในเงื่อนไข โดยปัจจุบันสามารถขอรับกรมธรรม์ทั้งแบบกระดาษและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
เงื่อนไขกรมธรรม์ คือ ข้อกำหนดและรายละเอียดที่ระบุในสัญญาประกันภัยถึงความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกันภัย ในกรณีเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาความคุ้มครอง, วงเงินคุ้มครอง, สิทธิประโยชน์, ข้อยกเว้น (เหตุการณ์ที่ไม่คุ้มครอง) และค่าเบี้ยประกันที่ผู้เอาประกันต้องชำระ
ส่วนเงื่อนไขการทำสัญญา คือ ข้อกำหนดที่ผู้เอาประกันต้องปฏิบัติตามเพื่อให้กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ ซึ่งอาจรวมถึงการแจ้งข้อมูลที่เป็นความจริงให้กับบริษัทประกัน การชำระเบี้ยประกันตามที่ระบุในสัญญา และการปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น การแจ้งอุบัติเหตุภายในระยะเวลาที่กำหนด เป็นต้น
เงื่อนไขของกรมธรรม์และการทำสัญญามีความสำคัญมาก เพราะทำหน้าที่เป็นหลักฐานของความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่ผู้เอาประกันจะได้รับ รวมถึงเป็นเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้การเรียกร้องผลประโยชน์เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเงื่อนไขที่ชัดเจนจะช่วยลดปัญหาการขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้เอาประกันและบริษัทประกัน นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้เอาประกันทราบถึงขอบเขตของการคุ้มครอง เพื่อให้สามารถเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
โดยทั่วไปกรมธรรม์ประกันภัยจะประกอบด้วยข้อมูลสำคัญหลายส่วน เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันเข้าใจรายละเอียด ตลอดจนขอบเขตความคุ้มครองอย่างชัดเจน ซึ่งข้อมูลหลัก ๆ ที่ปรากฏในกรมธรรม์มีดังนี้
เอกสารกรมธรรม์จะมีข้อมูลของผู้เอาประกันภัย ซึ่งจะช่วยระบุตัวผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง และเป็นพื้นฐานสำคัญในการตรวจสอบความถูกต้องของกรมธรรม์ โดยระบุข้อมูลส่วนตัวของผู้ทำประกัน เช่น
เลขกรมธรรม์เปรียบเสมือนรหัสประจำตัวของใบกรมธรรม์ โดยใช้สำหรับระบุตัวตนของกรมธรรม์ในระบบของบริษัทประกันภัย ทุกครั้งที่คุณต้องการติดต่อเกี่ยวกับกรมธรรม์ ควรแจ้งเลขกรมธรรม์นี้ด้วย เพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถค้นหาข้อมูลของคุณได้อย่างรวดเร็ว
ในหน้ากรมธรรม์จะต้องมีข้อมูลที่กล่าวถึงรายละเอียดของความคุ้มครองที่จะได้รับอย่างชัดเจนเมื่อตัดสินใจทำประกัน เช่น วงเงินความคุ้มครอง โรคที่คุ้มครอง และเหตุการณ์ที่คุ้มครอง มีการระบุเหตุการณ์ที่บริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบ เช่น โรคประจำตัว หรือการกระทำผิดกฎหมาย และอธิบายขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเคลมประกัน
เล่มกรมธรรม์จะต้องระบุจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยที่ผู้ทำประกันจะต้องชำระ วิธีการชำระเบี้ยประกันภัย เช่น ชำระเป็นรายเดือน หรือรายปี รวมถึงการระบุช่องทางที่ใช้ในการชำระเบี้ยประกันภัย เช่น ชำระผ่านธนาคาร หรือชำระผ่านแอปพลิเคชัน
หากผู้เอาประกันภัยเลือกชำระเบี้ยประกันภัยแบบผ่อนชำระ สัญญาจะระบุระยะเวลาการผ่อนชำระทั้งหมด และระบุผลที่ตามมาหากผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันล่าช้า เช่น การยกเลิกกรมธรรม์ หากผู้เอาประกันภัยต้องการยกเลิกกรมธรรม์ อาจมีการคืนเบี้ยประกันบางส่วนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
หากกรมธรรม์หายไปก็ไม่ต้องเป็นกังวล! เพราะสามารถติดต่อบริษัทประกันภัยที่คุณทำประกันไว้ได้ทันที เพื่อขอทำเรื่องขอสำเนากรมธรรม์ใหม่ โดยสําเนากรมธรรม์ประกันภัย คือ เอกสารที่แสดงรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับจริง ซึ่งมีข้อมูลเหมือนกับกรมธรรม์ฉบับเดิมทุกประการ โดยบริษัทประกันภัยจะขอให้คุณแจ้งรายละเอียดบางอย่าง เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขกรมธรรม์ และข้อมูลติดต่อ เพื่อใช้ในการตรวจสอบและดำเนินการออกสำเนากรมธรรม์ให้ใหม่
ในกรณีที่ทำประกันไปแล้วแต่อยากเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ สามารถขอเปลี่ยนแปลงชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือเพิ่มผู้รับผลประโยชน์ได้ เช่น ถ้าทำกรมธรรม์ประกันชีวิต แล้วต้องการเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแค่ติดต่อบริษัทประกันภัยและแจ้งความประสงค์ในการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่บริษัทประกันภัยกำหนด
หากต้องการขอยกเลิกกรมธรรม์ สามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ โดยติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งความประสงค์ในการยกเลิกกรมธรรม์ อย่างไรก็ตามการยกเลิกกรมธรรม์อาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ที่คุณได้รับ เช่น การไม่ได้รับเงินคืนเบี้ยประกัน หรือการขาดความคุ้มครอง ดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขการยกเลิกในกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ
ในบางกรณี บริษัทประกันภัยอาจมีสิทธิ์ยกเลิกกรมธรรม์ของคุณได้ เช่น กรณีที่ผู้เอาประกันภัยให้ข้อมูลเท็จ กรณีที่ผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกัน กรณีที่ผลิตภัณฑ์ประกันภัยนั้นเลิกจำหน่าย เนื่องจากการยกเลิกกรมธรรม์อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ที่คุณได้รับ ดังนั้นควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำประกัน
กรมธรรม์เป็นเอกสารสำคัญที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับความคุ้มครอง ข้อตกลง และข้อกำหนดระหว่างผู้เอาประกันและบริษัทประกัน ดังนั้นการทำความเข้าใจเงื่อนไขในของประกันภัยต่าง ๆ ให้ดี โดยเฉพาะประกันรถยนต์ ้เพื่อช่วยให้คุณเลือกประกันที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้เราไม่ได้ต้องรับกรมธรรม์เป็นเอกสารรูปแบบกระดาษอย่างเดียว แต่สามารถรับกรมธรรม์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-policy ผ่านทางอีเมลซึ่งใช้เป็นหลักฐานในการเคลมได้เหมือนกัน ทั้งยังตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ได้ตลอดเวลาอีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันที่ครอบคลุมและคุ้มค่า insurverse มีตัวเลือกประกันรถยนต์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ไปจนถึงประกันชั้น 3, ประกันอุบัติเหตุ, ประกันบ้าน/คอนโด และประกันเดินทางต่างประเทศ เพื่อให้คุณสามารถเลือกความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการได้อย่างดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีระบบชำระเงินที่สะดวกและยืดหยุ่น รองรับหลายช่องทางชำระเงิน! ไว้ใจ insurverse ประกันออนไลน์เจ้าแรกของไทยภายใต้ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย