vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
Nissan GT-R

รู้จัก Nissan GT-R ตำนานความเร็ว สเปคที่น่าทึ่ง และคำถามที่พบบ่อย

schedule
share
ที่มารูปภาพ : https://pixabay.com/th/photos/นสสน-nissan-gtr-รถเรว-5954383/

Nissan GT-R หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม “ก็อดซิลล่า” เป็นรถยนต์ที่ไม่เพียงแต่แสดงถึงสมรรถนะสูงสุดในวงการยานยนต์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความแรงและเทคโนโลยีของ Nissan ที่ทำให้แฟน ๆ รถสปอร์ตทั่วโลกหลงใหล ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1969 GTR ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์สมรรถนะสูงและกลายเป็นที่รู้จักในระดับโลก

ประวัติความเป็นมาและที่มาของ GTR ย่อมาจากอะไร

จุดเริ่มต้นของ Nissan GT-R ย้อนกลับไปในปี 1969 เมื่อ Nissan เปิดตัว Skyline GT-R (รหัสตัวถัง PGC10) ซึ่งเป็นรุ่นแรกของตระกูล GTR โดยคำว่า “GTR” ย่อมาจาก “Gran Turismo Racing” สื่อถึงความมุ่งมั่นของ Nissan ในการสร้างรถที่เหมาะสำหรับการแข่งและการเดินทางไกล รถรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

GTR ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของ Nissan ตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ATTESA E-TS ที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ RB26DETT ที่ถูกนำมาใช้ในรุ่น R32 ซึ่งทำให้ GTR ได้รับสมญานามว่า “ก็อดซิลล่า” หลังจากสร้างผลงานโดดเด่นในสนามแข่งระดับโลก

Nissan GTR มีกี่รุ่น

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน Nissan GT-R ได้มีการพัฒนามาหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัว ได้แก่

  • Skyline GT-R PGC10 (1969-1972) รุ่นบุกเบิกที่สร้างชื่อเสียงให้ GTR ในวงการมอเตอร์สปอร์ต
  • Skyline GT-R KPGC110 (1973) รุ่นที่ผลิตเพียง 197 คัน เนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำมัน
  • Skyline GT-R R32 (1989-1994) รุ่นที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาใช้ เช่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเครื่องยนต์ RB26DETT
  • Skyline GT-R R33 (1995-1998) พัฒนาจาก R32 เพิ่มความสมดุลและระบบแอโรไดนามิก
  • Skyline GT-R R34 (1999-2002) รุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยเทคโนโลยีและดีไซน์ที่โดดเด่น
  • Nissan GT-R R35 (2007-ปัจจุบัน) การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นำเสนอสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ในราคาที่เข้าถึงได้

รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ GTR

หนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Skyline GT-R R34 ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น เครื่องยนต์ RB26DETT ที่ทรงพลัง และระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Multi-Function Display (MFD) ที่พัฒนาร่วมกับ Polyphony Digital ทำให้ R34 เป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ รถยนต์ทั่วโลกและกลายเป็นไอคอนในภาพยนตร์และเกมแข่งรถต่าง ๆ

อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Nissan GT-R R35 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่เปลี่ยนแปลงทั้งแนวคิดและเทคโนโลยีของ GTR ด้วยเครื่องยนต์ VR38DETT ที่ผลิตแรงม้าได้มากกว่า 600 ตัว (ในบางรุ่น) และระบบ Launch Control ที่ช่วยให้การออกตัวทำได้รวดเร็วและแม่นยำที่สุด

Nissan GT-R เป็นซูเปอร์คาร์ไหม

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ Nissan GT-R ถือเป็นซูเปอร์คาร์หรือไม่ คำตอบคือ ใช่ แม้ว่าราคาจะไม่สูงเทียบเท่าซูเปอร์คาร์แบรนด์ยุโรป แต่ด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่เหนือชั้น GTR ถูกจัดให้อยู่ในระดับซูเปอร์คาร์อย่างไม่ต้องสงสัย

นิยามของซูเปอร์คาร์มักเกี่ยวข้องกับสมรรถนะสูงสุด การออกแบบที่หรูหรา และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่ง Nissan GTR สามารถตอบโจทย์ทุกข้อนี้ได้ นอกจากนี้ มันยังสร้างชื่อเสียงในสนามแข่งทั่วโลก เช่น การคว้าชัยในรายการ Nürburgring 24 Hours ที่ถูกกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว

คุณสมบัติที่ทำให้ GTR ถูกจัดให้อยู่ในระดับซูเปอร์คาร์

  • มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง: GTR มาพร้อมเครื่องยนต์ VR38DETT ขนาด 3.8 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า (ในรุ่น GT-R Nismo)
  • มีระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ โดยใช้ระบบ ATTESA E-TS ช่วยกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อทั้งสี่อย่างแม่นยำ
  • มีดีไซน์ล้ำสมัย การออกแบบที่ผสมผสานความสปอร์ตและแอโรไดนามิกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
  • เทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้แก่ระบบ Launch Control, เบรก Brembo และช่วงล่างที่พัฒนาสำหรับการใช้งานทั้งบนถนนและในสนามแข่ง
  • ประสิทธิภาพระดับโลก: GTR R35 สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.9 วินาที ซึ่งเทียบเท่ากับซูเปอร์คาร์แบรนด์ดังอย่าง Ferrari และ Lamborghini อีกด้วย

ทำไม Nissan GTR ถึงครองใจแฟนรถยนต์ทั่วโลก

Nissan GT-R ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ รถยนต์ทั่วโลกด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น

  1. สมรรถนะที่เหนือชั้นในราคาที่เข้าถึงได้ เมื่อเทียบกับซูเปอร์คาร์แบรนด์ยุโรป GTR มีราคาที่คุ้มค่ากว่า
  2. ประวัติศาสตร์และความน่าเชื่อถือ อย่างที่หลายคนทราบ GTR มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและผลงานที่โดดเด่นในวงการมอเตอร์สปอร์ต
  3. เทคโนโลยีล้ำสมัย GTR เป็นรถที่รวมเทคโนโลยีขั้นสูงสุดไว้ในทุกส่วนของการออกแบบ
  4. ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความแรง GTR ได้รับการขนานนามว่า “ก็อดซิลล่า” เพราะสมรรถนะที่โดดเด่นและความสามารถในการครองสนามแข่ง
  5. มีแฟนคลับหรือผู้คนที่ชื่นชอบทั่วโลก ด้วยความนิยมของ GTR ทำให้เกิดชุมชนแฟนคลับที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยสนับสนุนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับรถรุ่นนี้

Nissan GT-R ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความแรงและนวัตกรรมที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ Skyline GT-R รุ่นแรกจนถึง GT-R R35 รถรุ่นนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในวงการยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย หรือดีไซน์ที่โดดเด่น GTR ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นรถที่สามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและผู้ที่มองหาความน่าเชื่อถือ หากคุณหลงใหลในประวัติศาสตร์และสมรรถนะอันทรงพลังของ GTR นี่คือรถที่ผสานความฝันและความจริงไว้ด้วยกันอย่างลงตัว


หากคุณเป็นเจ้าของ GTR หนึ่งในรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในเรื่องสมรรถนะและภาพลักษณ์ที่โดดเด่น การดูแลรักษารถยนต์ที่คุณรักจึงเป็นสิ่งสำคัญ การล้างรถเป็นประจำและการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดช่วยให้รถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด และหากต้องการความมั่นใจในทุกการเดินทาง การเลือก ประกันภัยรถยนต์ ที่ครอบคลุม เช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือ แผนประกันอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน การเลือกทำประกันภัยรถยนต์ประเภทที่เหมาะสม จะช่วยคุ้มครองทั้งตัวรถและผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ก่อนตัดสินใจเลือกประกันควรเปรียบเทียบแผนประกันภัยจาก insurverse ประกันรถยนต์ออนไลน์ ในเครือทิพยประกันภัย เพื่อค้นหาแผนที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย