vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
5 ทริกแก้ปัญหาพื้นบ้านชื้น ป้องกันลื่นล้ม!

5 ทริกแก้ปัญหาพื้นบ้านชื้น ป้องกันลื่นล้มจนเกิดอุบัติเหตุ

schedule
share

หน้าฝนใกล้เข้ามาเมื่อไหร่ ตามมาด้วยปัญหาหนักอกหนักใจทุกที โดยเฉพาะปัญหาใหญ่อย่างพื้นบ้านชื้นทำเอาหลายคนเคยลื่นล้มกันมาบ้างแล้วแบบไม่มีข้อยกเว้น! ลำพังแค่เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ จนมีบาดแผลหรือมีรอยฟกช้ำว่าหนักใจแล้ว แต่ถ้าล้มจากพื้นลื่นอาจจะเจ็บหนัก เป็นอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดอาการร้ายแรงถึงขั้นกระดูกหักหรือเสียชีวิตก็ได้ น่ากลัวแบบนี้ปล่อยผ่านไม่ดีแน่ ถึงเวลามองหาวิธีแก้พื้นลื่นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจากอุบัติเหตุตามมาซ้ำซ้อนและเพื่อความอุ่นใจ ได้ใช้ชีวิตได้เหมือนมีบัตรผ่าน VIP ที่เดินไปที่ไหนก็มั่นใจเอามากๆ ชีวิตดีๆ แบบนี้เริ่มได้กับประกันอุบัติเหตุออนไลน์ซื้อติดตัวเอาไว้ด้วยนะ ไม่ว่าจะใช้ชีวิตที่ไหน ที่ทำงาน, ที่เที่ยวหรือที่บ้าน ก็จะได้สบายใจ ไม่กังวลกับอุบัติเหตุต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน จะได้ใช้ชีวิตแบบคนที่ Lucky! ตลอดเวลา ใครที่ Bad luck อยากให้มั่นใจว่ามีคนคอยช่วยเหลือก็ต้องรีบสมัครประกันอุบัติเหตุเอาไว้เลย!

attention-maintenance-danger

5 วิธีแก้พื้นลื่นป้องกันอุบัติเหตุช่วงหน้าฝน แบบเอาอยู่!

ก่อนอื่นมาไขข้อข้องใจก่อนว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพื้นบ้านชื้นแล้วหรือยัง? อันดับแรกต้องดูว่าเป็นพื้นประเภทไหน? หากเป็นพื้นปูนจะเริ่มสังเกตได้ว่ามีเชื้อราเกิดขึ้น ส่วนพื้นไม้หรือพื้นลามิเนตก็จะเริ่มมีรอยนูนหรือบวมขึ้นมา ส่วนบ้านใครเป็นพื้นกระเบื้อง หน้าฝนขึ้นมาเมื่อไหร่อาจจะต้องระวังเอาไว้หน่อยเพราะอาจจะไม่ใช่แค่การหลุดร่อน แต่สามารถระเบิดจนกระเบื้องแตกได้เลย ถ้ากระเด็นโดนตัวอาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ ดังนั้นความปลอดภัยในชีวิตจึงสำคัญ ต้องรู้วิธีว่าทำยังไงให้พื้นหายลื่นจะได้ไม่เกิดเหตุบานปลายจากอุบัติเหตุ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้

1. ความสะอาดคือสิ่งสำคัญ

หลักในการป้องกันปัญหาการลื่นล้มเมื่อพื้นบ้านชื้นอันดับแรกง่ายๆ เลย คือ ต้องให้ความสำคัญกับความสะอาด ไม่เพียงแค่หมั่นเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกหรือคราบน้ำต่างๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องกำจัดสิ่งกีดขวางต่างๆ บนพื้นออกไปด้วย เช่น เศษใบไม้, เปลือกผลไม้หรือถุงพลาสติก เพราะปัจจัยเหล่านี้อาจจะเป็นสาเหตุทำให้รูระบายน้ำอุดตัน ส่งผลทำให้พื้นเปียกน้ำ ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอย่างการลื่นหรือหกล้มได้ง่าย ถ้าไม่อยากหัวร้างข้างแตก วิธีแก้พื้นลื่นแบบง่ายๆ ก็คือ ให้รีบทำความสะอาดและเคลียร์ช่องระบายน้ำแบบด่วนๆ

2. ใช้วัสดุกันลื่น

ต้องดูด้วยว่าก่อนทำการปูพื้นได้ทำกันซึมพื้นบ้านเอาไว้หรือเปล่า? หากทำเอาไว้ไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาพื้นบ้านชื้น จะได้อุ่นใจว่าการเกิดอุบัติเหตุจะลงไป เมื่อถึงเวลาฝนมาจริงๆ แล้วพบว่าไม่ได้ทำการปูพื้นเอาไว้ก่อน ก็ต้องขอแนะนำให้เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ โดยอาจจะมองหาวัสดุกันลื่นเข้ามาใช้เป็นตัวช่วยแทนก็ได้ เช่น กระเบื้องผิวหยาบ, พรมกันลื่นและน้ำยาเคลือบกันพื้นลื่น เป็นต้น เวลาเดินจะได้สบายใจยิ่งกว่าว่าไม่ลื่นล้มแน่นอน! ส่วนใครที่ถ้าต้องการความปลอดภัยสูงสุดแนะนำเลือกทำประกันอุบัติเหตุออนไลน์ติดตัวเอาไว้ สะดวกสบายฉบับนักชอปปิงดิจิทัล สามารถหาซื้อได้ง่ายแค่มีมือถือ ถ้าเลือกซื้อประกันจาก insurverse บอกเลยความคุ้มครองครบและอุ่นใจ ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายกว่าเดิมมากๆ แบบมีบอดี้การ์ดส่วนตัวเลยทีเดียว

3. หมั่นเช็คระบบน้ำอยู่เสมอ

หากพบว่าชำรุดหรือเสียหายและเสี่ยงเกิดน้ำรั่วไหล แนะนำให้ทำการซ่อมแซมโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นพื้นบ้านชื้นขึ้นมาปัญหาตามมา เครซี่แน่นอน! แต่หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วต้องเช็คยังไง? ถึงจะรู้ว่าระบบประปามีปัญหา เคล็ดลับง่ายๆ คือ ให้ไปเดินดูจุดติดตั้งมิเตอร์น้ำแล้วดูว่า มิเตอร์นั้นหมุนเร็วกว่าปกติหรือไม่? ซึ่งสิ่งที่ทำให้เช็คได้อีกวิธีก็คือ ค่าน้ำแพงกว่าเดิมเยอะมากใช่ไหม? หากใช่ คาดเดาได้เลยว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแน่ๆ หรืออาจใช้วิธีตรวจเช็คตามข้อต่อท่อน้ำต่างๆ ว่าบริเวณไหนเกิดการชำรุดหรือไม่? ก็ได้ หากไม่สามารถทำได้แนะนำให้โทรแจ้งช่างประปาเข้ามาตรวจเช็คทันที เพียงเท่านี้ก็ทำให้อุ่นใจได้ว่าน้ำรั่วไหลตามพื้น ได้รับการแก้ไข ทำให้การเดินบริเวณบ้านปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลกับอุบัติเหตุ

4. ติดตั้งระบบระบายความชื้น

เพื่อให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกให้มีความสอดคล้องกับขนาดห้อง โดยอาศัยวิธีคำนวณง่ายๆ คือ พื้นที่ภายในห้อง (หน่วยตารางเมตร) x ด้วยความสูงของห้อง (หน่วยเมตร) x ค่ามาตรฐานการระบายอากาศ = ปริมาณการระบายอากาศ

ตัวอย่างเช่น ห้องนั่งเล่น มีค่ามาตรฐานการระบายอากาศเท่ากับ 6 ขนาดพื้นที่ทั้งหมด 20 ตารางเมตร สูง 3 เมตร ปริมาณการระบายอากาศจะได้เท่ากับ 20 x 3 x 6 = 360 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง นั่นหมายความว่าหากต้องการซื้อพัดลมดูดอากาศสำหรับห้องนั่งเล่นเพื่อระบายความชื้น จำเป็นต้องเลือกพัดลมที่มีความสามารถในการระบายอากาศได้ไม่ต่ำกว่า 360 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้มีความชื้นภายในห้องมากเกินไปจนก่อให้เกิดพื้นบ้านชื้นนั่นเอง

5. เปลี่ยนพื้นบ้านให้เป็นแบบผิวหยาบไปเลย

หากใครพอมีงบประมาณหน่อยและลองเช็คสภาพพื้นบ้านดู จะได้หาวิธีแก้พื้นลื่นได้ถูกทาง หากพื้นบ้านมีลักษณะเป็นผิวขัดมันหรือพื้นบ้านชื้นเสี่ยงต่อการลื่นหกล้มได้ง่าย อาจใช้วิธีการเปลี่ยนพื้นให้กลายเป็นแบบผิวหยาบไปเลย จะมีส่วนช่วยได้ลดอุบัติเหตุได้มากหรือหากยุ่งยากเกินไป อาจลองใช้วิธีง่ายๆ อย่างการใช้พรมหรือปูเสื่อญี่ปุ่นชนิดที่แนบสนิทไปกับพื้นแทนก็ได้

still-life-of-office-cleaning-process

สรุป

สำหรับวิธีแก้พื้นลื่นเป็นการสร้างแนวทางป้องกันปัญหาเอาไว้ ก่อนที่จะเกิดจากกรณีพื้นบ้านชื้นจะได้ลดการเกิดอุบัติเหตุ แต่อุบัติเหตุไม่เลือกเวลาเกิดหรือวิธีการ ยังมีหลายอุบัติเหตุที่ไม่อาจคาดเดา ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดควรมีประกันอุบัติเหตุราคาถูกเก็บเอาไว้ติดตัว สามารถซื้อให้ทั้งตัวเองและคนที่คุณรักได้ทั้งครอบครัว จะได้อุ่นใจว่าทุกคนในบ้านจะปลอดภัย ได้ใช้ชีวิตแบบไร้กังวล หากไม่รู้ว่าควรเลือกประกันอุบัติเหตุของอะไรดี? ขอแนะนำบริษัท insurverse ที่มีแพ็กเกจประกันอุบัติเหตุออนไลน์สำหรับคนยุคดิจิทัล ซื้อผ่านมือถือได้เลย ซื้อปุ๊บรับกรมธรรม์ปั๊ป ประกันอุบัติเหตุคุ้มครองทันที ได้ราคาดีและความคุ้มครองที่โดนใจแบบเลือกเองได้ พื้นลื่นแค่ไหนก็ไม่เครซี่ เพราะรู้วิธีป้องกันปัญหาจากพื้นลื่นและรู้วิธีแก้ปัญหาหลังเกิดอุบัติเหตุด้วยประกันเรียบร้อย!

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)