vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ

ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องล่าสุด เตรียมตัวให้พร้อมไม่ต้องซื้อเพิ่ม

schedule
share

ใครที่เตรียมตัวเดินทางแล้วเจอปัญหา “กระเป๋าขึ้นเครื่องต้องขนาดเท่าไหร่กันแน่?” นี่แหละคำถามฮิตติดท็อปของนักเดินทางทุกระดับ จะเดินทางในประเทศหรือต่างประเทศ เรื่องนี้ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะถ้าพลาดแค่นิดเดียว อาจเจอทั้งค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและความยุ่งยากที่สนามบินได้ 

บทความนี้จะพาคุณไปเช็กขนาดและข้อกำหนดของกระเป๋าขึ้นเครื่องแบบครบจบ เตรียมตัวไว้ก่อนบินจะได้ไม่ปวดหัว

luggage

ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องของสายการบินในประเทศไทย

สายการบินขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง
แอร์เอเชีย (AirAsia)สายการบินแอร์เอเชียนำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 2 ชิ้น
กระเป๋าถือ 1 ชิ้น : ขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม.
สิ่งของส่วนตัว 1 ชิ้น : เช่น กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าแล็ปท็อป ขนาดไม่เกิน 40 ซม. x 30 ซม. x 10 ซม.

น้ำหนักรวม ไม่เกิน 7 กิโลกรัม
สายการบินไทย (Thai Airways)สายการบินไทยนำสัมภาระขึ้นเครื่อง 1 ชิ้น
ขนาดรวมทั้งหมดไม่เกิน 56 ซม. x 45 ซม. x 25 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
นกแอร์ (Nok Air)สายการบินนกแอร์นำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น ขนาด 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways)สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นำกระเป๋าถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น ขนาดไม่เกิน 50 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
เวียตเจ็ท (VietJet Air)สายการบินเวียตเจ็ทให้ผู้โดยสารนำกระเป๋าถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 2 ชิ้น
กระเป๋าถือ: ขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม.
สิ่งของส่วนตัว: เช่น กระเป๋าถือหรือกระเป๋าแล็ปท็อป

รวมกันไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air)สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ให้ผู้โดยสารนำกระเป๋าถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น ขนาดไม่เกิน 30 ซม. x 40 ซม. x 20 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม

ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องของสายการบินระหว่างประเทศ

สายการบินขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง
เอมิเรตส์ (Emirates)ชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ: นำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 2 ชิ้น (กระเป๋าเอกสารและกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อผ้า) โดยกระเป๋าแต่ละชิ้นน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม กระเป๋าเอกสาร: ขนาด 45 ซม. x 35 ซม. x 20 ซม.
กระเป๋าถือ: ขนาด 55 ซม. x 38 ซม. x 22 ซม.
ชั้นประหยัด: กระเป๋า 1 ชิ้น ขนาดไม่เกิน 55 ซม. x 38 ซม. x 22 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
กาตาร์แอร์เวย์ส (Qatar Airways)ชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ: กระเป๋า 2 ชิ้น น้ำหนักรวมไม่เกิน 15 กิโลกรัม
ชั้นประหยัด: กระเป๋า 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ขนาดกระเป๋าไม่เกิน 50 ซม. x 37 ซม. x 25 ซม.
เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines)ผู้โดยสารทุกชั้นโดยสารสามารถนำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 2 ชิ้น รวมกันน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม
ขนาดกระเป๋า: ไม่เกิน 55 ซม. x 40 ซม. x 25 ซม.
โคเรียนแอร์ (Korean Air)ชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ: นำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 2 ชิ้น น้ำหนักรวมไม่เกิน 18 กิโลกรัม
ชั้นประหยัด: นำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น น้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กิโลกรัม
ไชน่า แอร์ไลน์ (China Airlines)สัมภาระถือขึ้นเครื่องต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
อีวีเอแอร์ (EVA Air)ชั้นธุรกิจและพรีเมียม: กระเป๋า 2 ชิ้น น้ำหนักแต่ละชิ้นไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ชั้นประหยัด: กระเป๋า 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines)ชั้นธุรกิจและพรีเมียม: กระเป๋า 2 ชิ้น น้ำหนักแต่ละชิ้นไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ชั้นประหยัด: กระเป๋า 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม
เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines)ชั้นธุรกิจ: กระเป๋า 2 ชิ้น น้ำหนักรวมไม่เกิน 16 กิโลกรัม
ชั้นประหยัด: กระเป๋า 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม
แอร์ฟรานซ์ (Air France)แอร์ฟรานซ์ (Air France)
ชั้นธุรกิจ: กระเป๋าและของใช้ส่วนตัว น้ำหนักรวมไม่เกิน 18 กิโลกรัม
ชั้นประหยัด: กระเป๋าและของใช้ส่วนตัว น้ำหนักรวมไม่เกิน 12 กิโลกรัม ขนาดกระเป๋าถือ: ไม่เกิน 55 ซม. x 35 ซม. x 25 ซม.

ของต้องห้ามในกระเป๋าขึ้นเครื่อง

การเดินทางด้วยเครื่องบินมีกฎระเบียบมากมายที่ต้องปฏิบัติตาม โดยเฉพาะเรื่องของสัมภาระ การรู้ว่าอะไรใส่ได้หรือไม่ได้ในกระเป๋าขึ้นเครื่องช่วยลดปัญหาและความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้คือรายการของต้องห้ามที่ควรรู้ไว้ก่อนจัดกระเป๋า

  1. ของเหลวเกิน 100 มิลลิลิตร: ทุกอย่างที่เป็นของเหลว เช่น แชมพู น้ำหอม โลชั่น หรือเครื่องดื่ม ต้องใส่ในขวดขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และรวมกันต้องไม่เกิน 1 ลิตร ใส่ไว้ในถุงพลาสติกใสที่ปิดสนิท
  2. วัตถุไวไฟหรือระเบิดได้: เช่น สเปรย์ฉีดผม น้ำมันเบนซิน และแบตเตอรี่ลิเธียมขนาดใหญ่ หากไม่แน่ใจ ควรสอบถามสายการบินก่อน
  3. อาวุธและของมีคม: ไม่ว่าจะเป็นมีด กรรไกร หรืออุปกรณ์ตัดเล็บ ต้องโหลดไว้ในกระเป๋าใต้ท้องเครื่องแทน
  4. สิ่งของผิดกฎหมาย: รวมถึงยาหรือสารเคมีที่ไม่มีใบรับรอง หรือสิ่งที่ขัดต่อกฎระเบียบของประเทศปลายทาง
  5. วัตถุที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: เช่น ไฟแช็กขนาดใหญ่ อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดประกายไฟ หรือวัตถุแม่เหล็กที่แรงมาก
  6. อาหารสดหรือเน่าเสียง่าย: บางสายการบินมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการนำอาหารสดขึ้นเครื่อง โดยเฉพาะอาหารที่มีกลิ่นแรงหรือเสี่ยงต่อการเสีย

อย่าลืมตรวจสอบกฎเกี่ยวกับสัมภาระก่อนเดินทาง เช่น ของเหลวหรือวัตถุที่ห้ามพกขึ้นเครื่อง แต่ถ้าของสำคัญเสียหายหรือกระเป๋าเดินทางพังกลางทาง ก็หมดห่วงได้เลย เพราะประกันเดินทาง จาก insurverse จัดการให้ครบ ทั้งไฟล์ทดีเลย์ กระเป๋าเสียหาย หรือค่ารักษาพยาบาลในไทยและต่างประเทศ

กระเป๋าแบบไหนเหมาะสำหรับขึ้นเครื่อง

การเลือกกระเป๋าขึ้นเครื่องก็เหมือนการเลือกคู่หูที่ดี ถ้าคิดจะเดินทางบ่อย ๆ กระเป๋าที่เหมาะจะช่วยลดความวุ่นวายและทำให้การเดินทางลื่นไหลขึ้นเยอะ กระเป๋าที่ใช่ควรตอบโจทย์ทั้งเรื่องขนาด น้ำหนัก และฟังก์ชันต่าง ๆ 

  1. น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง: เพราะสายการบินมักมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนัก กระเป๋าที่เบาจะช่วยให้คุณใส่ของได้มากขึ้น แถมยังช่วยประหยัดแรงเวลายกขึ้นเก็บในช่องเหนือศีรษะด้วย
  2. มีขนาดพอดีตามกฎสายการบิน: เช็กขนาดกระเป๋าที่สายการบินกำหนดก่อนซื้อ เช่น 56 x 36 x 23 ซม. สำหรับสายการบินส่วนใหญ่ จะได้ไม่ต้องปวดหัวตอนเช็คอิน
  3. มีล้อและด้ามจับที่ถนัดมือ: กระเป๋าที่มีล้อหมุนรอบทิศและด้ามจับที่ปรับได้ช่วยให้ลากไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยเฉพาะในสนามบินที่กว้าง
  4. ฟังก์ชันเก็บของแบบอเนกประสงค์: มีช่องใส่ของแยกเป็นสัดส่วน เช่น ช่องใส่แล็ปท็อป หรือช่องเก็บเอกสาร จะช่วยให้การจัดเก็บและหยิบใช้งานเป็นเรื่องง่าย
  5. ดีไซน์ที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ: แม้ว่าฟังก์ชันจะสำคัญ แต่ดีไซน์ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เลือกสีและลวดลายที่คุณชอบ แล้วการเดินทางจะสนุกขึ้น

สุดท้าย อย่าลืมลองสะพายหรือยกลองดูว่ากระเป๋าที่เลือกนั้นใช้งานง่ายแค่ไหน เพราะกระเป๋าที่เหมาะสมไม่ใช่แค่ดูดี แต่ต้องใช้งานได้จริงและเข้ากับไลฟ์สไตล์การเดินทางของคุณด้วย

กระเป๋าน้ำหนักเกิน ต้องทำยังไง

เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของนักเดินทางเลยทีเดียว ถ้ากระเป๋าขึ้นเครื่องของคุณเกินขนาดหรือน้ำหนัก อาจต้องเจอกับหลายสถานการณ์ที่ไม่อยากเจอ เริ่มจากการถูกเรียกไปเคลียร์ที่หน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน ถ้ากระเป๋าหนักไปนิดหน่อย คุณอาจถูกขอให้โยนของบางอย่างออก (ซึ่งบางทีของที่โยนออกไปอาจจะเป็นของจำเป็นอย่างน้ำหอมสุดรักหรือรองเท้าคู่โปรด!)

กรณีที่คุณไม่อยากทิ้ง สายการบินอาจบังคับให้คุณโหลดกระเป๋าไปใต้เครื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องเสียเวลาจัดการใหม่ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเข้ามาด้วย 

อย่าลืมว่าในบางสนามบิน การเกินขนาดหรือน้ำหนักไม่ได้หมายถึงแค่เสียเงินเพิ่ม แต่ยังเสียเวลา เพราะต้องไปต่อแถวชำระเงินในจุดพิเศษอีกต่างหาก บางคนถึงกับพลาดเที่ยวบินเพราะจัดการไม่ทันเวลาเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้ารู้ว่ากระเป๋าของคุณใกล้เคียงกับน้ำหนักที่กำหนด ลองหาที่ชั่งน้ำหนักพกพาหรือชั่งที่บ้านก่อนออกเดินทาง จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดกับปัญหานี้

สรุป

การเดินทางที่ราบรื่นเริ่มจากการเตรียมกระเป๋าให้เหมาะสมและวางแผนล่วงหน้า ถ้าอยากให้ทุกทริปมั่นใจมากขึ้น แค่เข้าไปเช็คเบี้ยประกันเดินทางกับ insurverse ไม่ว่าจะรายเที่ยวหรือรายปี ทุกความคุ้มครองครบในราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกระเป๋าขึ้นเครื่อง

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย