vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
กระเป๋าเดินทางหาย

กระเป๋าเดินทางหาย ต้องทำยังไงดี?

schedule
share

การเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นเรื่องที่หลายคนตื่นเต้น โดยเฉพาะเวลาวางแผนท่องเที่ยวหรือเดินทางไปต่างประเทศ แต่ทันทีที่มาถึงปลายทาง คุณกลับต้องยืนงงหน้าสายพาน เพราะ “กระเป๋าเดินทางหาย” ไม่ออกมาพร้อมกับคนอื่น! สำหรับคนที่ไม่เคยเจอ อาจจะตกใจมาก แต่จริง ๆ แล้วเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อยกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหายเพราะโหลดใต้เครื่องแล้วไม่ได้ตามมา หรือกระเป๋าเดินทางล่าช้าเพราะไปผิดไฟลต์ บทความนี้จะช่วยแนะนำทุกขั้นตอนที่ควรทำอย่างละเอียด

ทำไมกระเป๋าเดินทางถึงหาย?

การโหลดกระเป๋าใต้เครื่อง (Checked baggage) ต้องผ่านหลายกระบวนการ ทั้งการขนย้าย การคัดแยก ไปจนถึงการส่งขึ้นเครื่อง และบางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น เช่น กระเป๋าโหลดขึ้นผิดไฟลต์, กระเป๋าค้างอยู่ที่สนามบินต้นทาง, ระบบคัดแยกทำงานผิดพลาด หรือกรณีที่ต้องต่อเครื่องหลายรอบ ทำให้กระเป๋าหลงทางระหว่างทาง แม้กระเป๋าจะ “หาย” ในช่วงเวลานั้น แต่อย่าเพิ่งคิดว่าหายถาวร เพราะส่วนใหญ่แล้วสายการบินมักตามคืนให้ได้ภายในไม่กี่วัน


กระเป๋าหายที่สนามบิน ทำไงดี?

  1. ตั้งสติแล้วรีบแจ้งทันที : เดินไปที่เคาน์เตอร์สายการบินหรือเคาน์เตอร์ Lost & Found ใกล้สายพาน แล้วแจ้งว่า “กระเป๋าไม่ออกมา” พร้อมยื่นเอกสารให้ครบ ได้แก่ ตั๋วโดยสาร, แท็กกระเป๋า (Baggage Tag) ที่ได้ตอนเช็คอิน, หนังสือเดินทาง
  2. กรอกแบบฟอร์มแจ้งหาย : เจ้าหน้าที่จะให้กรอก PIR (Property Irregularity Report) เป็นหลักฐานสำคัญในการติดตามกระเป๋า และใช้สำหรับการเคลมภายหลังด้วย
  3. สอบถามรหัสติดตามกระเป๋า (Reference Number) : เพื่อติดตามสถานะออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สายการบิน หรือแอปพลิเคชันของพวกเขา

วิธีติดตามกระเป๋าเดินทางหาย

หลังแจ้งเรื่องไว้แล้ว กระเป๋าจะถูกติดตามผ่านระบบของสายการบิน คุณสามารถใช้รหัสอ้างอิง (Tracking Number) ที่ได้จากการกรอก PIR ไปกรอกในเว็บหรือแอปของสายการบิน เช่น

  1. ใช้ระบบติดตามของสายการบิน สายการบินส่วนใหญ่มีระบบติดตามกระเป๋าผ่านเว็บไซต์หรือแอป โดยใช้หมายเลขอ้างอิงจากใบรายงานที่ได้รับ
  2. ตรวจสอบกับประกันเดินทาง หากคุณมีประกันการเดินทาง ตรวจสอบว่าคุ้มครองกรณีกระเป๋าเดินทางล่าช้า หรือหายหรือไม่ บางแผนจะมีค่าชดเชยให้

เคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้า และหายยังไง?

ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล ไม่มีใครอยากให้กระเป๋าเดินทางหายหรือมาช้า เพราะนอกจากจะเสียเวลา ยังอาจต้องเสียเงินซื้อของใช้จำเป็นเพิ่ม แต่รู้ไหมว่าคุณสามารถ “เคลมค่าชดเชย” ได้ทั้งจากสายการบินและประกันการเดินทาง สามารถลองทำตามวิธีก่อนได้เลย!

1. ติดต่อสายการบิน

  • หากพบกระเป๋าล่าช้า : ขอเอกสารยืนยันความล่าช้าเพื่อใช้ในการเคลม ถ้ากระเป๋าล่าช้า คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยสำหรับการซื้อของจำเป็น เช่น เสื้อผ้า หรือของใช้ส่วนตัว
  • หากกระเป๋าหายเกิน 21 วัน : ถือว่าหายถาวร และสามารถขอค่าชดเชยจากสายการบิน

2. เคลมกับประกันการเดินทาง

หากคุณมีประกันที่ครอบคลุมกรณีกระเป๋าล่าช้าหรือสูญหาย

  • ติดต่อเจ้าหน้าที่ประกัน ส่งเอกสารการแจ้งหาย
  • ส่งเอกสารการแจ้งหาย โดยเตรียมเอกสาร ดังนี้
    • แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหม
    • สำเนาหนังสือเดินทาง
    • หลักฐานการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน หรือ Boarding Pass
    • สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร
    • จดหมายรับรองความเสียหาย ที่เกิดขึ้นจากฝ่ายบริหารโรงแรมหรือบริษัทขนส่ง
    • ใบเสร็จรับเงินของชิ้นนั้น ที่แสดงรายการและราคาของที่สูญเสียหรือเสียหาย หากของซื้อมาไม่เกิน 3 เดือน
    • สำเนารายงานบันทึกประจำวัน ของตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ
  • รอการอนุมัติและรับค่าชดเชย บางแผนประกันจ่ายทันทีโดยไม่ต้องรอผลจากสายการบิน ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลารอ

ป้องกันไม่ให้กระเป๋าเดินทางหายทำยังไง?

  1. เขียนชื่อ เบอร์โทร และที่อยู่ ติดไว้ที่กระเป๋า ทั้งด้านนอกและด้านใน
  2. ถ่ายรูปกระเป๋าไว้ เผื่ออธิบายลักษณะให้เจ้าหน้าที่ตอนแจ้งหาย
  3. เลือกกระเป๋าที่มีสีสันหรือจุดเด่น หลีกเลี่ยงกระเป๋าดำธรรมดา เพราะคนใช้กันเยอะ
  4. หลีกเลี่ยงการต่อเครื่องหลายรอบ เพราะยิ่งเปลี่ยนเครื่องบ่อย โอกาสกระเป๋าหลงก็ยิ่งสูง
  5. พกของจำเป็นติดตัวขึ้นเครื่อง เผื่อกระเป๋าโหลดหาย จะได้ยังมีของใช้ประจำวันติดตัว

สรุป

เมื่อกระเป๋าเดินทางหาย ไม่ต้องตกใจ เพราะสามารถติดตามกระเป๋าเดินทาง ได้ผ่านระบบสายการบิน พร้อมทั้งสามารถเคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้า หรือหายได้จากทั้งสายการบินและบริษัทประกัน อย่าลืมเตรียมเอกสารให้ครบ และป้องกันไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง จะช่วยให้คุณอุ่นใจและเที่ยวได้อย่างสบายใจ

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย