การต่อทะเบียนรถหรือการต่อภาษีรถยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับเจ้าของรถทุกประเภท เพราะหากรถยนต์ของท่านไม่ได้รับการต่อภาษีตามกำหนด ก็จะโดนจับปรับโดยเจ้าหน้าที่ในทันที ปัจจุบันการต่อภาษีรถยนต์และ พ.ร.บ.รถยนต์ สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ซึ่งจะมีสถานที่ใดรับทำภาษี พ.ร.บ.และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ไปดูกัน
สำหรับเอกสารที่ใช้ในการต่อ พ.ร.บ.และภาษีรถยนต์ประจำปีในแต่ละสถานที่จะมีเอกสารและค่าใช้จ่าย พ.ร.บ.รถยนต์ราคา ที่แตกต่างกันดันนี้
สำหรับเจ้าของรถที่จะมาต่อภาษีและ พ.ร.บ. ที่ ธกส. จะต้องเป็นรถที่ไม่เคยค้างชำระภาษีและต้องยื่นขอชำระภาษีล่วงหน้า 3 เดือน ก่อนวันที่ครบกำหนด เอกสารที่ใช้มีดังนี้
การต่อภาษีรถยนต์ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศจะต้องเป็นรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี โดยจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าบริการ 20 บาท และค่านำส่งป้ายภาษี 40 บาท ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 10 วัน นับจากวันที่ชำระเงิน เอกสารต่าง ๆ จะจัดส่งไปให้ตามที่อยู่ที่ให้ข้อมูลไว้ เอกสารที่ใช้ประกอบไปด้วย
ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้อำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของรถทุกคน ด้วยการเปิดให้บริการต่อภาษีรถยนต์แบบออนไลน์ด้วยตัวเอง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความรวดเร็วให้กับเจ้าของรถทุกคนผ่านทางเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th/ โดยเอกสารที่ใช้จะเป็นไฟล์รูปเพื่ออัปโหลดขึ้นบนแบบฟอร์มออนไลน์ดังนี้
พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกชนิดจะต้องทำก่อน จึงจะสามารถนำหลักฐานการทำ พ.ร.บ. ไปยื่นเสียภาษีรถประจำปีได้ โดย พ.ร.บ.รถยนต์ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางรถยนต์และรถจักรยานยนต์เท่านั้น โดยไม่คุ้มครองในส่วนของตัวรถและทรัพย์สินอื่น ๆ
สำหรับใครที่สงสัยเกี่ยวกับ พ.ร.บ.รถ คุ้มครองอะไรบ้าง รวมไปถึง พ.ร.บ.รถยนต์ราคา ของรถแต่ละประเภทสามารถตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย พ.ร.บ. หรือเช็กราคากับ Insurverse ได้ที่นี่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ทางเว็บไซต์ https://insure.insurverse.co.th ยังจำหน่าย พ.ร.บ. และประกันภัยออนไลน์ เพื่อความสะดวกสบายในการต่อภาษีประจำปีให้กับเจ้าของรถทุกคันอีกด้วย
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
พ.ร.บ. ประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคันต้องมี เพื่อคุ้มครองผู้เสียหายจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร และคู่กรณี รวมค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยอื่น ๆ
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่ของคนมีรถยนต์ทุกคน โดยเราต้องต่อภาษีประจำปีและเตรียมเอกสารให้พร้อม ซึ่งรถแต่ละประเภท ก็จะเสียภาษีในราคาที่ต่างกันไปตามข้อกำหนด
สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่าได้กับรถยนต์ทั่วไป เหนือระดับด้วยความเป็น รถไฟฟ้า ev ประหยัดพลังงาน