ถ้าพูดถึงรถที่ใช้ไฟฟ้าแล้ว อดพูดไม่ได้ว่าเป็นรถเก๋งแห่งอนาคต ที่ใช้พลังงานสะอาดในการขับเคลื่อน ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถพบเห็นรถไฟฟ้ามากขึ้นกว่าเมื่อหลายปีก่อน และศูนย์บริการต่าง ๆ ที่เริ่มจะให้บริการในการชาร์จไฟฟ้าให้กับรถไฟฟ้าเหล่านี้
แต่รถไฟฟ้านั้น มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่ารถที่ใช้น้ำมันทั่วไป และการบำรุงรักษาต่าง ๆ ค่อนข้างยุ่งยากเนื่องด้วยต้องใช้ความรู้ในทางเฉพาะด้าน ทำให้ต้องไปหาช่างเฉพาะเท่านั้น ไหนจะการที่คุณจะทำการชาร์จรถแต่ละทีอาจกินเวลาถึง 30 นาที ถึงแม้จะเป็นแบบ fast charge เมื่อเทียบกับการเติมน้ำมันปกติแล้วจะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที
เรามาดูกันว่า จริง ๆ แล้วรถทั้งสองแบบ มีข้อดีอย่างไรบ้าง และรถแบบไหนที่ให้ความคุ้มค่าที่สุด
ราคารถน้ำมันถูกกว่าในประเทศไทย เนื่องด้วยฐานการผลิตในประเทศ แต่รถไฟฟ้าต้องนำเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ และมีฐานการผลิตในประเทศที่น้อย ทำให้ต้นทุนของรถไฟฟ้ามีมากกว่า เมื่อเทียบกับรถน้ำมันที่มีจำนวนมากในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน
รถน้ำมันมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ารถไฟฟ้าค่อนข้างมาก เนื่องด้วยระบบการทำงานของรถ ที่มีความเสถียรภาพมากกว่า เนื่องด้วยรถน้ำมันนั้น ถูกออกแบบมาให้ขับขี่บนท้องถนนเป็นเวลานาน และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกที่จะสามารถขับขี่ได้ยาวนานกว่ารถไฟฟ้า ซึ่งเป็นรถพลังงานทางเลือกใหม่
ศูนย์บริการของรถน้ำมันมีมากกว่ารถไฟฟ้า เพราะรถน้ำมันคือรถพื้นฐานที่คนทุกคนใช้กัน และใช้มาเป็นเวลานาน จึงมีศูนย์บริการที่มากกว่า ไร้กังวลเมื่อรถของคุณเสียกลางทาง
อีกข้อดีของรถน้ำมันคือเรื่องของความจุเชื้อเพลิง เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าแล้ว รถน้ำมันสามารถขับเคลื่อนได้ไกลกว่า
รถไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำให้เสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างจะเบากว่ารถที่ใช้น้ำมันอยู่เยอะ ซึ่งเป็นข้อดีของคนที่ไม่ชอบเสียงดังในการขับรถ และหากรถเกิดเสียงที่ผิดปกติขึ้น เราจะทราบได้ทันทีว่ารถมาปัญหา
ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ส่งมลภาวะที่เป็นพิษสู่โลก ข้อดีของการใช้รถไฟฟ้าคือไม่ส่งมลพิษต่อโลกนั่นเอง
ในอนาคตความต้องการใช้การใช้งานของรถไฟฟ้า จะมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่ปัจจุบัน รถไฟฟ้ายังมีประสิทธิภาพได้ดีไม่เท่ากับรถน้ำมัน จึงยังทำให้คนส่วนใหญ่ยังไม่นิยมใช้งาน แต่ในอนาคตอันใกล้ รถไฟฟ้าจะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน
มีระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่บนรถ ทั้งระบบจอสัมผัส ระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองอัตโนมัติ และอื่น ๆ ที่ในอนาคตรถไฟฟ้าจะถูกพัฒนาโปรแกรมในการขับขี่ได้ดีกว่ารถน้ำมันอย่างแน่นอน
ในปัจจุบันถึงแม้รถไฟฟ้าจะดูไฮเทคและดูใช้งานได้หลาย ๆ อย่างที่รถน้ำมันไม่สามารถทำได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถที่ใช้น้ำมันนั้นใช้งานในชีวิตประจำวันได้ง่ายกว่า ทั้งการบำรุงรักษา และสถานที่เติมน้ำมัน รวมไปถึงการขายต่อ ที่รถใช้น้ำมันยังเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่ารถไฟฟ้า
เรื่องศูนย์บริการสำหรับรถไฟฟ้า ถึงแม้จะเริ่มมีให้บริการตาม ห้างต่าง ๆ แล้ว แต่ก็ยังถือว่าค่อนข้างที่จะหายากในการที่จะชาร์จแบตเตอรี่แต่ละครั้ง ผนวกด้วยการที่รถไม่สามารถขับได้นานนัก เนื่องด้วยปริมาณแบตเตอรี่ที่มี ทำให้ค่อนข้างลำบากในการเดินทางไกล เพราะในต่างจังหวัดนั้นค่อนข้างจะหาศูนย์บริการได้ยาก
ดังนั้น รถน้ำมันจึงยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่า หากคุณต้องการใช้รถในระยะยาว เพราะเราไม่รู้ว่ารถไฟฟ้าในอนาคตจะออกมาในทิศทางไหน แต่สำหรับรถน้ำมัน เราเข้าใจ และสามารถประเมินหลาย ๆ อย่างได้
ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งไฟฟ้าหรือน้ำมัน สิ่งสำคัญที่ต้องมี คือประกันรถยนต์ เพราะรถทุกคันมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเช่นเดียวกัน การมีความคุ้มครองจากประกัน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถของคุณ เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับทาง insurverse พร้อมมอบความคุ้มครองทันทีที่ทำ เคลมง่าย จ่ายเบี้ยถูก และคุ้มครองได้ครอบคลุมที่สุด
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว ลองมาหาไอเดียของขวัญจับฉลากปีใหม่ตามงบ มีงบเท่าไหร่ซื้ออะไรได้บ้างถึงสุขใจคนให้ถูกใจคนรับ
รถไฟฟ้า หรือ รถ EV ต่างเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันมีแต่จะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เห็นผู้ผลิตรถ EV หลากหลายแบรนด์ต่างเข็นรถที่มีออกมาจำหน่าย
ไม่อยากเสียสิทธิ์ต้องรีบเช็คสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ใครลงทะเบียนได้บ้าง insurverse พร้อมบอกรายละเอียดขั้นตอนการเตรียมตัวแบบเจาะลึก จบทุกประเด็น