vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
รถยนต์ไฟฟ้า

รวม 6 รถกระบะไฟฟ้า รุ่นไหนดี? ราคาเท่าไหร่บ้าง

schedule
share
ที่มารูปภาพ : https://pixabay.com/th/photos/รถบรรทก-gmc-ยานพาหนะ-เครองยนต-6815474/

           รถไฟฟ้า หรือ รถ EV ต่างเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันมีแต่จะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เห็นผู้ผลิตรถ EV หลากหลายแบรนด์ต่างเข็นรถที่มีออกมาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถสปอร์ต รถ SUV หรือแม้แต่รถกระบะซึ่งเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เพราะมีความทนทาน บรรทุกสิ่งของและสัมภาระได้ดี ทำให้รถกระบะไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทยที่ต้องการลดการปล่อยมลพิษและที่สำคัญประหยัดค่าน้ำมันลงได้ 

6 อันดับรถกระบะไฟฟ้าน่าใช้ รุ่นไหนดี

  1. Tesla Cybertruck

           หากจะกล่าวถึงรถกระบะไฟฟ้าที่มีกระแสมาแรงคงหนีไม่พ้น Tesla Cybertruckของ อีลอน มัสก์ อย่างแน่นอน Tesla Cybertruckเป็นรถกระบะไฟฟ้าที่มีดีไซน์ล้ำสมัย แข็งแรงทนทาน พร้อมสเปคที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน ทั้งพละกำลังในการขับเคลื่อนและความสะดวกสบายในการใช้งาน มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางในเส้นทางยากลำบาก โดยมีสเปคดังนี้

  • รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 402 กิโลเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. 6.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.รองรับการลากจูงสูงสุด(Towing) 3,402 กิโลกรัม ราคา 2,150,000 บาท
  • รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ( All Wheel Drive) ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 547 กิโลเมตร หากเสริมอุปกรณ์เพิ่มจะได้ระยะทาง755+ km ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. 4.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.รองรับการลากจูงสูงสุด(Towing) 4,990 กิโลกรัมราคา 2,900,000 บาท
  • รุ่น Cyber Beast  (All Wheel Drive) ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 515 กิโลเมตร หากเสริมอุปกรณ์เพิ่มจะได้ระยะทาง 705 +km ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. 2.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 209  กม./ชม.รองรับการลากจูงสูงสุด(Towing) 4,990 กิโลกรัม ราคา 3,600,000 บาท

*ทุกรุ่นราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า

  1. RIDDARA RD6 

           รถ กระบะไฟฟ้า สัญชาติจีน RIDDARA RD6 ที่กำลังเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการรถกระบะในประเทศไทยได้สั่นสะเทือน ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีด้วยกัน 4 รุ่น ประกอบไปด้วย

  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 63 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 373 กิโลเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. 7.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ราคา 899,000 บาท
  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 73 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 461 กิโลเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. 7.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ราคา 999,000 บาท
  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 73 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 424 กิโลเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.ราคา 1,149,000 บาท
  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 86 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 455 กิโลเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. ราคา 1,299,000 บาท
  1. GMC Hummer EV 3X

           รถ EV SUV อเนกประสงค์จากอเมริกา ที่สามารถบรรทุกสิ่งของได้ ที่ใคร ๆ ต่างขนานนามว่าเป็น Super Truck เพราะให้กำลังสูงสุดถึง 1,000 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียงแค่ 3 วินาทีเท่านั้น ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 400 ไมล์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ราคาเริ่มต้นที่ 106,945 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,743,075 บาท 

* ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า

  1. JAC  T8 By THAI EV

           แบรนด์ JAC จากประเทศจีน ที่มี Thai EV เป็นตัวแทนจำหน่าย เป็นรถกระบะไฟฟ้า 4 ประตู ที่มาพร้อมความแข็งแรง ทนทาน รูปลักษณ์ภายนอกให้อารมณ์เหมือนรถกระบะทั่วไป ขับเคลื่อน 2 ล้อ แบตเตอรี่มีขนาด 65.3 kWh ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จประมาณ 330++ กิโลเมตร ทำความเร็วสูงสุด 127 กม./ชม.ราคาเริ่มต้น 1,290,000 บาท

* ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า

  1. BYD Shark 

           มาแล้ว BYD Shark รถกระบะไฟฟ้าจากประเทศจีน หลังจาก BYD ประสบความสำเร็จในรถไฟฟ้าหลากหลายรุ่นในไทย ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวกระบะไฟฟ้า BYD Shark กระบะปลั๊กอินไฮบริด ที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร ที่ได้จากพลังงานแบตเตอรี่ล้วน ๆ ผสมผสานกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร ที่ให้แรงม้ามากถึง 430 ตัว ทำให้เดินทางได้ไกลสูงสุดประมาณ 836 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1ครั้งและน้ำมันเต็มถัง สามารถลากจูงน้ำหนักได้มากถึง 5,512 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นประมาณ 53,938 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,959,028 บาท 

* ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า

  1. Maxus T90 EV (MG Extender)

           MG T90 EV รถกระบะไฟฟ้าสัญชาติจีนที่คาดว่าจะมีแพลนเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย หลังจากรถไฟฟ้ารุ่นเล็กได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตัว MG T90 EV มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 88.5 kWh สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 535 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง คาดว่าราคาขายในประเทศประมาณ 800,000 – 1,200,000 บาท

* ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า

ข้อดีและข้อเสียของการใช้รถกระบะไฟฟ้า

           ข้อดี : รถกระบะไฟฟ้ามีข้อดีที่โดดเด่นในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน ทั้งยังช่วยลดมลพิษทางอากาศและลดมลพิษทางเสียงด้วย 

           ข้อเสีย : ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น เวลาที่ใช้ในการชาร์จ จำนวนสถานีชาร์จที่ยังมีไม่มากพอ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลและที่สำคัญอู่ซ่อมหรือสถานีบริการในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง ยังมีน้อย 

ข้อควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

           แม้ว่ารถไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่ยังมีข้อควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ที่ควรพิจารณาดังนี้

  • ตรวจสอบว่ามีสถานีชาร์จใกล้เคียงหรือไม่ รวมถึงมีตัวเลือกการชาร์จแบบเร็ว (Fast Charging) หรือไม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่ต้องชาร์จระหว่างเดินทาง
  •  รถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นมีระยะการวิ่งที่แตกต่างกันควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
  •  แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานประมาณ 8-10 ปี แต่การใช้งานบ่อยหรือการชาร์จแบบด่วนบ่อย ๆ อาจทำให้อายุแบตเตอรี่สั้นลงได้ 
  • เลือกรถยนต์ที่มีการรับประกันไม่ว่าจะเป็นจากศูนย์หรืออู่ซ่อมที่มีความชำนาญและที่สำคัญประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองด้วย 

ต้นทุนการใช้งานและการบำรุงรักษา

           รถกระบะไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถกระบะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จะมีชิ้นส่วนที่น้อยลง ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า  โดยเฉลี่ยแล้วรถกระบะไฟฟ้าอาจมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาประมาณ 10,000 บาทต่อปี เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาประมาณ 20,000 บาทต่อปี ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการชาร์จขึ้นอยู่กับว่าชาร์จที่บ้านหรือสถานีชาร์จ หากชาร์จไฟที่บ้านค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้า หากชาร์จที่สถานีชาร์จ ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการสถานีชาร์จ

           สรุปโดยรวมแล้วรถกระบะไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงในระยะยาว รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่น้อยกว่าเพราะไม่มีชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนเหมือนรถน้ำมัน แต่อาจมีข้อจำกัดในส่วนของสถานีชาร์จ การเดินทางไกลที่ต้องวางแผนและการนำมาใช้ในเชิงพานิชย์ที่ต้องบรรทุกหนักมาก ๆ อาจให้พละกำลังไม่เทียบเท่ารถใช้น้ำมัน

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)