เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก พ.ร.บ.รถยนต์ และประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งประกันทั้งสองประเภทนี้ ต่างก็เป็นประกันภัยที่จะช่วยดูแล เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเช่นเดียวกัน แต่แน่นอนว่าหลักการคุ้มครอง และเงื่อนไขมีความแตกต่างกัน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับประกันภัยทั้งสองแบบให้มากยิ่งขึ้น
อยากที่ทราบกันดีว่า พ.ร.บ.รถยนต์ เป็นประกันรถยนต์ภาคบังคับ ส่วนประกันชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ และนอกจากความแตกต่างระหว่างภาคบังคับกับสมัครใจแล้วนั้น การคุ้มครองของทั้งสองแบบก็มีความแตกต่างกัน
พ.ร.บ.รถยนต์ ย่อมาจาก “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์” โดยจะเป็นหลักประกันให้กับผู้ขับขี่ว่าจะได้รับสิทธิคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็จะได้รับแค่ตัวบุคคลเท่านั้น ส่วนรถยนต์จะไม่ได้รับการคุ้มครองใด ๆ ซึ่งสิทธิคุ้มครองจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่
แต่หากพิสูจน์แล้วว่าคุณเป็นฝ่ายผิด ก็จะได้รับเงินคุ้มครองจากค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเท่านั้น และที่สำคัญคือ จะต้องต่ออายุต่อเนื่องทุกปี ไม่เช่นนั้นจะมีโทษตามกฎหมาย ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และหากขาดต่ออายุเป็นเวลานาน 3 ปี จะทำให้เลขทะเบียนรถของคุณถูกระงับได้
ประกันชั้น 1 เป็นประกันภาคสมัครใจที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมาก ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก พ.ร.บ.รถยนต์ เพราะมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งคนและรถยนต์เลยทีเดียว แต่ก็จะมีค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน
ในการทำประกันชั้น 1 จะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถ ของทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี อุบัติเหตุทั้งหมด ทั้งที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รถมีการสูญหาย หรือถูกโจรกรรม รถไฟไหม้ ภัยธรรมชาติต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม พายุ น้ำท่วม และอุบัติเหตุอื่น ๆ เช่น หนูกัดสายไฟ หินตกใส่หรือกระเด็นใส่รถ เป็นต้น
นอกจากประกันชั้น 1 แล้ว ก็ยังมีประกันให้เลือกได้อีกหลายประเภท เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของคุณมากที่สุด และก่อนที่จะเลือกซื้อประกันให้กับรถยนต์ อย่าลืมเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง
ประกันชั้น 1 หรือชั้นอื่น ๆ เป็นประกันภัยแบบสมัครใจ ไม่ใช่ภาคบังคับเหมือน พ.ร.บ.รถยนต์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับความต้องการความคุ้มครองของแต่ละบุคคลมากกว่า หากต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงตัวรถด้วย ก็สามารถเลือกซื้อประกันชั้น 1 ควบคู่กับ พ.ร.บ.รถยนต์ ได้เช่นกัน
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
พ.ร.บ. ประกันภัยภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคันต้องมี เพื่อคุ้มครองผู้เสียหายจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร และคู่กรณี รวมค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยอื่น ๆ
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่ของคนมีรถยนต์ทุกคน โดยเราต้องต่อภาษีประจำปีและเตรียมเอกสารให้พร้อม ซึ่งรถแต่ละประเภท ก็จะเสียภาษีในราคาที่ต่างกันไปตามข้อกำหนด
สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่าได้กับรถยนต์ทั่วไป เหนือระดับด้วยความเป็น รถไฟฟ้า ev ประหยัดพลังงาน