การปรับกระจกมองข้างดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่เชื่อเถอะว่าถ้าปรับผิดชีวิตอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด! การปรับให้เหมาะสมไม่ได้แค่ช่วยให้คุณมองเห็นชัดขึ้น แต่ยังลดจุดบอด เพิ่มความปลอดภัย และช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น ลองมาดูวิธีการปรับกระจกมองข้างที่ถูกต้องกัน
หลายคนขับรถทุกวัน แต่ไม่เคยเช็คเลยว่ากระจกมองข้างที่ใช้อยู่นั้นปรับถูกต้องหรือเปล่า คิดง่าย ๆ ถ้ากระจกปรับมุมไม่พอดี คุณอาจพลาดการมองเห็นรถที่กำลังแซง หรือแม้กระทั่งคนเดินถนนที่อยู่ในมุมอับ การปรับให้ได้องศาที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
ก่อนจะเริ่มปรับกระจก สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งเบาะให้เหมาะกับตัวเองก่อน คุณควรปรับเบาะให้อยู่ในตำแหน่งที่ขับสบายที่สุด หลังพิงพนักพอดี และขาเหยียบเบรกกับคันเร่งได้เต็มที่โดยไม่ต้องยืดหรือเกร็ง
การปรับกระจกฝั่งซ้ายควรเห็นส่วนท้ายรถตัวเองเล็กน้อย เพื่อช่วยกะระยะในขณะขับรถ และพื้นที่ที่เหลือบนกระจกควรเห็นถนนและเลนข้างเคียงอย่างชัดเจน ทำตามนี้ได้เลย
ฝั่งนี้สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นด้านที่คนขับต้องใช้งานบ่อยที่สุด การปรับให้ถูกต้องช่วยลดจุดบอดข้างรถได้มาก ทำตามนี้
แม้กระจกจะช่วยมองได้เยอะ แต่ก็ไม่ครอบคลุมทั้งหมด คุณต้องเช็คจุดบอดด้วยตัวเอง ลองขยับหัวเล็กน้อยมองดูว่ามีพื้นที่ที่คุณมองไม่เห็นหรือเปล่า
การตั้งองศากระจกมองข้างที่ดีควรทำให้มองเห็นรถตัวเองเล็กน้อยในมุมกระจก เพื่อกะระยะได้ และพื้นที่ที่เหลือควรเห็นถนนรอบข้างอย่างชัดเจน
โดยจะต้องปรับกระจกให้อยู่ที่ประมาณ 90 องศา จะทำให้เห็นท้ายรถ 10% และถนนอีก 90% หรือพูดอีกอย่างคือ ให้มองเห็นตัวรถในพื้นที่กระจกแค่ ⅓ เท่านั้น มุมนี้ช่วยลดพื้นที่ของตัวรถในกระจก ทำให้มีพื้นที่สำหรับมองถนนและเลนข้างขวาได้กว้างขึ้น
การตั้งกระจกที่องศา 90 ช่วยลดจุดบอดและเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็น ถ้าคุณยังพลาดเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาประกันรถยนต์จาก insurverse ก็พร้อมดูแล เพราะทุกอู่ในเครือของเราสามารถซ่อมได้เลยโดยไม่ต้องออกเงินก่อน และถ้ามีบาดเจ็บ ทีมเจ้าหน้าที่ก็พร้อมช่วยเหลือถึงที่ทันที
ในช่วงเวลากลางคืน การปรับกระจกมองข้างให้เหมาะสมจะช่วยลดแสงสะท้อนจากไฟหน้าของรถคันหลังที่อาจรบกวนการมองเห็น
กระจกมองหลังควรปรับให้สามารถมองเห็นภาพด้านหลังได้กว้างที่สุด
การปรับกระจกมองข้างไม่ใช่เรื่องเล็ก และถ้าทำได้ถูกต้อง มันช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มหาศาล อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ นี้เด็ดขาด
ตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ระบุว่า รถยนต์ต้องมีอุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วนและใช้งานได้ดี กระจกมองข้างที่ชำรุด แตกร้าว หรือไม่สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
หากตรวจพบว่าอุปกรณ์ส่วนควบของรถ เช่น กระจกมองข้างชำรุด อาจถูกปรับเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 500 บาท
กฎหมายกำหนดให้รถยนต์ต้องติดตั้งกระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวา ตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 6 เพื่อให้สามารถมองเห็นถนนรอบตัวรถได้ครบถ้วน การถอดกระจกข้างหรือขาดกระจกข้างใดข้างหนึ่งออกถือว่าผิดกฎหมายและอาจถูกปรับเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 500 บาท
แม้กฎหมายจะไม่ได้ระบุขนาดของกระจกมองข้างโดยตรง แต่ตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2539) ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ระบุว่า กระจกมองข้างต้องติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม และสามารถให้มุมมองที่เพียงพอสำหรับผู้ขับขี่
การดัดแปลงกระจกมองข้าง เช่น การติดตั้งกระจกที่สะท้อนแสงมากเกินไป หรือเปลี่ยนขนาดจนทำให้การมองเห็นไม่ปลอดภัย อาจขัดกับ กฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2539) ซึ่งระบุว่าการดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบที่ส่งผลต่อความปลอดภัย ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
การมีกระจกมองข้างที่สมบูรณ์ไม่เพียงช่วยให้คุณปลอดภัย แต่ยังช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายด้วย แต่ถ้ารถของคุณเสียหายจากอุบัติเหตุที่ทำให้กระจกมองข้างชำรุด ประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก insurverse ช่วยให้คุณอุ่นใจด้วยอู่ในเครือที่พร้อมซ่อมโดยไม่ต้องออกเงินก่อน แถมยังสามารถปรับแผนความคุ้มครองได้ตามใจ ให้จ่ายเบี้ยประกันเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ
ควรปรับกระจกมองข้างให้เห็นตัวรถเพียงเล็กน้อยประมาณ 10% ของกระจก ส่วนที่เหลืออีก 90% ควรเห็นถนนและเลนข้าง ๆ อย่างชัดเจน หรือให้มีรถในพื้นที่กระจกแค่ 1 ส่วน 3 เท่านั้น เพื่อช่วยลดจุดบอดและเพิ่มการมองเห็นรอบตัว
เริ่มจากนั่งในตำแหน่งที่ขับรถสบายที่สุด จากนั้นปรับกระจกฝั่งคนขับให้เห็นส่วนท้ายรถเล็กน้อย และเหลือพื้นที่ส่วนใหญ่สำหรับถนนด้านข้าง ส่วนกระจกฝั่งผู้โดยสารก็ปรับในลักษณะเดียวกัน
ควรมองกระจกข้างและกระจกหลังทุก ๆ 5-10 วินาที โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยและไม่มีจุดบอดในขณะขับขี่
สำหรับจักรยานยนต์ กระจกมองข้างควรปรับให้เห็นภาพด้านหลังชัดเจน และครอบคลุมเลนทั้งซ้ายและขวาในมุมกว้าง เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบรถคันหลังและรอบข้างได้ตลอดเวลา
องศาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกระจกมองข้างคือประมาณ 90 องศา ทำให้คุณมองเห็นท้ายรถเล็กน้อยและถนนด้านข้างอย่างเต็มที่ ช่วยลดจุดบอดและเพิ่มการมองเห็นในทุกมิติ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง