ประกันรถยนต์ชั้น 1 ซ่อม ศูนย์ คือประกันที่คุ้มครองได้ดี เพราะเจ้าของรถไม่มีทางรู้เลยว่ารถยนต์ของเราจะมีปัญหาเมื่อใด ซึ่งการทำประกันรถยนต์จะทำให้การขับขี่รถสบายใจกว่าเดิม และทำให้ไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป อย่างไรก็ดีคนที่เพิ่งจะถอยรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงแล้วยังไม่รู้ว่าจะทำประกันชั้นใดดี วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ซ่อม ศูนย์ว่ามีข้อดีประการใดบ้าง รวมถึงมีการเปรียบเทียบประกันรถยนต์
สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 ซ่อม ศูนย์ คือการทำประกันรถยนต์ชั้นหนึ่ง ที่เป็นประกันภัยซึ่งมอบความคุ้มครองให้กับคุณมากที่สุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่คาดฝัน ทั้งอุบัติเหตุบนท้องถนน อะไหล่ของรถยนต์เสียหาย ซึ่งเจ้าของรถจะส่งรถไปซ่อมที่ศูนย์ของรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ โดยที่ไม่ต้องออกเงินจ่ายสำรองก่อน
มีวงเงินและการคุ้มครองความเสียหายต่าง ๆ , ค่ารักษาพยาบาล ทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี
การซ่อมศุนย์จะมีความน่าเชื่อและคุณภาพ เจ้าของรถจึงมั่นใจเรื่องคุณภาพของอะไหล่ที่ซ่อมได้
ศูนย์รถจะมีช่างที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจริง ๆ ที่รู้ว่าจุดไหนสำคัญต้องระวังเป็นพิเศษ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 รับผิดชอบความเสียหายรอบด้าน ทั้งจากรถยนต์และบุคคล รับผิดชอบความเสียหายจากไฟไหม้ หรือสูญหายและภัยลมพายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหวและภัยจากลูกเห็บ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและบุคคลภายนอก ให้เจ้าของประกันวางแผนรับมือล่วงหน้ากับอุบัติเหตุได้
กรณีที่ทำประกันชั้น เมื่อรถหายไม่สามารถตามกลับคืนมาได้ จะเคลมได้สูงสุดคือ 80 เปอร์เซ็นต์ของราคารถยนต์ โดยทุนประกันจะถูกกำหนดจากราคารถในวันที่ทำประกัน
ประกันรถชั้น 1 มีรถให้ยืมใช้ในระหว่างที่รอซ่อม โดยต้องสอบถามกับคอลเซนเตอร์ของทางบริษัทประกันภัยเพื่อตรวจสอบว่ามีรถพร้อมใช้งานหรือไม่
และนี่ก็คือข้อดีของประกันชั้น 1 ซ่อมรถยนต์ที่ศูนย์ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหมาะสมกับคนที่ชอบความสะดวกสบาย ประกันรถยนต์ชั้น 1 ซ่อมศูนย์ได้หลายต่อหลายปี สนใจทำประกันรถยนต์ ราคาไม่แพงติดต่อ Insurverse
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่าตัวเลขถังรถกันมาบ้าง แต่หลายคนที่ใช้รถยนต์อาจยังไม่รู้ความหมายว่าคืออะไร? แล้วเลขตัวถังรถอยู่ตรงไหน? ไปดู
คนที่ใช้รถยนต์ทุกคนคงเคยประสบปัญหาคราบติดรถรวมทั้งคราบสิ่งสกปรกต่างๆ หากปล่อยไว้นานๆ ไม่รีบดูแล คราบเหล่านั้นก็จะทำลายสีรถยนต์จนกลายเป็นปัญหา
หนึ่งในเรื่องที่คนใช้รถเคยสงสัยกันก็คือ ทางเอก ทางโท ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ว่าอะไรคือทางเอกและอะไรคือทางโท แล้วจะสังเกตยังไง
