รู้หรือไม่ว่าการขับรถดีอย่างระมัดระวัง จบปีไม่มีประวัติการเคลม จะทำให้คุณได้รับส่วนลดประวัติดี หากใครยังไม่เคยได้ยินคำนี้ ยังไม่เคยรู้เลยว่าจะทำอย่างไรจึงจะได้ส่วนลดในการซื้อประกันรถยนต์ insurverse จะพาทุกคนไปรู้จักว่าส่วนลดประวัติดีคิดอย่างไร? มีการให้ส่วนลดแบบไหน ถ้าเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ที่ได้ส่วนลดแล้วราคาจะเหลือเท่าไหร่ ไปดูกันได้เลย
ส่วนลดประวัติดีคือข้อบังคับจากคปภ. ที่ระบุไว้ว่า หากทั้งปีที่ผ่านมาผู้เอาประกันที่ไม่มีประวัติการเคลมหรือไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหรือกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจะต้องเป็นฝ่ายถูก จะมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยในปีถัดไป ส่วนจะได้ส่วนลดประวัติดีกี่เปอร์เซ็นต์นั้น จะนับเป็นขั้นๆ ซึ่งจะได้ลดสูงสุดถึง 50% เลยทีเดียว
การจะได้ส่วนลดประวัติดีนั้นไม่ยาก แต่ก็ไม่ถึงกับง่าย เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับประวัติการขับรถของผู้ทำประกัน ที่จะต้องใช้ความระมัดระวัง, ความรอบคอบและสติในการขับรถให้ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎจราจร หากถามว่าเเจ้งเคลมเสียประวัติไหม แน่นอนว่าอาจทำให้เสียสิทธิ์ในส่วนลดตัวนี้ไป
จะคำนวณได้ก็ต่อเมื่อเราไปต่ออายุประกัน ซึ่งจะเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ที่จะจ่ายในปีถัดไป เช่น ค่าเบี้ยประกัน 13,000 บาท ได้ส่วนลด 20% เท่ากับ 13,000×20% = 2,600 เท่ากับต้องจ่ายค่าประกันในปีนั้นเพียง 10,400 บาท
สามารถแจ้งขอใช้ส่วนลดประวัติดีกับบริษัทประกันภัยได้ทุกบริษัทที่จะต่อประกันและส่วนลดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการแจ้งเคลม ซึ่งสามารถรับส่วนลดได้สูงสุดถึง 50% เมื่อเลือกต่อประกันกับบริษัทเดิมอย่างต่อเนื่อง
หากคุณมีประวัติการขับขี่รถที่ดีมาโดยตลอดแบบไม่ได้เคลมในปีที่ผ่านมาเลย เมื่อถึงเวลาต่ออายุประกันแล้วต้องเปลี่ยนบริษัทประกันภัยเจ้าใหม่ คุณสามารถแสดงหลักฐานและประวัติในการทำประกันรถของบริษัทเดิมเพื่อขอส่วนลดกับบริษัทใหม่ได้ แต่บริษัทประกันเจ้าใหม่จะไม่สามารถให้ส่วนลดได้ ในกรณีที่พึ่งทำประกันในปีแรกและเช็คประกันรถยนต์แล้ว ไม่มีหลักฐานหรือประวัติในการทำประกันกับบริษัทอื่นมาก่อน
คงจะเห็นกันแล้วว่าหากขับรถดีไม่มีเคลม คุณก็จะได้รางวัลเป็นส่วนลดประวัติดีที่จะช่วยลดค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในปีถัดไปได้ นอกจากนี้หากคุณย้ายค่ายมาซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ กับ insurverse วันนี้ ยังมีส่วนลดเพิ่ม 10% จากเบี้ยเดิมของคุณอีกด้วย สนใจคลิกดูรายละเอียดเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ชั้น 1 ของ insurverse ได้ที่นี่ ประกันรถยนต์ออนไลน์คุ้มครองทันที สะดวกซื้อ สะดวกเคลม พร้อมดูแลคุณ 24 ชม.
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง