• บทความ
• keyboard_arrow_right
• ประกันรถยนต์

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี

วิเคราะห์ความคุ้มครองเปรียบเทียบประกันรถยนต์ความแตกต่างของประกันชั้น 1 และ ชั้น 2+ แบบไหนเหมาะกับรถคันใหม่ผ่านการใช้งานไม่ถึง 10 ปี

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจชั้น 1 และ 2+ เป็นประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนรักรถโดยเฉพาะ ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกันมาก จนทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกประกันภัยแบบไหนดี บทความนี้จะมาวิเคราะห์เปรียบเทียบประกันรถยนต์ทั้ง 2 ประเภท ให้เห็นกันชัด ๆ ว่าต่างกันตรงไหนบ้าง พร้อมบอกพิกัดเช็กค่าเบี้ยประกันในราคาดีที่สุด!

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 และ 2+ ต่างกันอย่างไร

ประกันชั้น 1

หากพูดถึงประกันรถยนต์ชั้น 1 หลายคนจะรู้คร่าว ๆ ว่าเป็นประกันที่บริษัทรถยนต์แนะนำให้ซื้อเมื่อถอยรถคันใหม่ป้ายแดง เพราะให้ความคุ้มครองเรื่องรถหาย แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองได้มากกว่าที่คิด ดังนี้

• ความคุ้มครองต่อชีวิตและร่างกาย ประกันชั้น 1 รับผิดชอบในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบุคคลภายนอกและบุคคลที่อยู่ในรถที่ถือกรมธรรม์
• ความคุ้มครองความสูญเสีย หรือเสียหาย รถถูกโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้รถเสียหาย
• คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเฉี่ยวชนพาหนะทางบก หรือสิ่งของ สิ่งกีดขวาง ประกันภัยชั้น 1 ให้ความคุ้มครองด้วยวงเงินชดเชยตามที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์
• ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการสู้คดีความ

ประกันชั้น 2+

คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจประกันชั้น 2+ เพราะรับรู้ข้อมูลว่ามีความใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 มากที่สุด ทำให้หลายคนเลือกต่อประกันชั้น 2+ เพียงเพราะค่าเบี้ยถูกกว่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ประกันรถชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองในเรื่องต่อไปนี้

• ความคุ้มครองต่อชีวิตและร่างกายของผู้ประสบภัยจากรถไม่ว่าจะเป็นผู้เอาประกัน ผู้โดยสาร หรือคู่กรณี
• คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สิน โดยให้ความคุ้มครองเฉพาะการเฉี่ยวชนกับยานพาหนะทางบก ซึ่งต้องหาตัวคู่กรณีได้เท่านั้น
• คุ้มครองความสูญเสีย หรือเสียหายของรถ เนื่องด้วยรถถูกโจรกรรม หรือได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้
• คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี

สรุปข้อเปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 และ 2+

เมื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 และ 2+แล้วพบว่ามีจุดที่ประกันทั้ง 2 ประเภทให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน คือ

• ประกันชั้น 1 เท่านั้นที่สามารถให้ความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์และกระจกรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนกับสิ่งกีดขวาง กำแพง เสา ขอบทาง อื่น ๆ หรือ ถูกชนแล้วคู่กรณีหนีไป ตามตัวไม่ได้
• ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติและน้ำท่วม แต่ประกันชั้น 2+ ไม่มีความคุ้มครองส่วนนี้

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์แบบสมัครใจมากที่สุด ผู้เอาประกันควรพิจารณาความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นสำคัญ เพื่อเลือกแผนประกันที่คุ้มค่าเบี้ยมากที่สุด เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ได้ที่นี่! กับ Insurverse ที่เน้นย้ำเรื่องความยืดหยุ่นในราคาคุ้มค่า