Honda Civic feคือเจเนอเรชันที่ 11 ของรถยนต์ซีดานยอดนิยมจาก Honda ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า จึงไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ยังสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้เร้าใจ ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในซีดานที่โดดเด่นที่สุดในตลาด
Honda Civic fe เป็นรถยนต์ซีดานมาพร้อมดีไซน์ที่เน้นความทันสมัยและความสปอร์ตที่ลงตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในทุกมิติ
หนึ่งในจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนของ Honda civic fe คือดีไซน์ภายนอกที่ตัวถังถูกออกแบบดูสปอร์ตและล้ำยุค ฝากระโปรงหน้ายาวขึ้นและเส้นหลังคาที่ลาดเอียงลงเล็กน้อยเพื่อลดการต้านลม ท้ายรถโดดเด่นด้วยไฟท้าย LED และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่ให้ทั้งความแข็งแกร่งและความสวยงาม
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้กว้างขวาง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน ที่แผงคอนโซลมีหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันช่วยเพิ่มความสะดวกในการควบคุมรถ
สมรรถนะหลักของ Honda Civic fe มาจากเครื่องยนต์เบนซินเทคโนโลยี VTEC TURBO ของฮอนด้าเอง ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้ทั้งกำลังและความประหยัดน้ำมัน โดยเทคโนโลยี VTEC TURBO ช่วยเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำและพลังในรอบสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองหรือการเดินทางไกล โดยยังคงรักษาความประหยัดเชื้อเพลิงไว้ได้
ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการตอบสนองของรถได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดน้ำมันในโหมด Eco หรือการขับขี่แบบเร้าใจในโหมด Sport
ในส่วนของช่วงล่างมีการออกแบบระบบกันสะเทือนแบบอิสระทั้งด้านหน้าและด้านหลังช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างแม่นยำและมั่นใจ
เป็นรุ่นย่อยที่สมดุลระหว่างความคุ้มค่าและสมรรถนะ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 178 แรงม้า ไฟหน้า Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว โดยมีระบบความปลอดภัยเฉพาะตัวของ Honda SENSING ครบทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชนพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่คุ้มค่า
เป็นรุ่นไฮบริดที่ใช้เทคโนโลยี e:HEV (Full Hybrid) เน้นทั้งประสิทธิภาพการขับขี่และการประหยัดน้ำมัน รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังเครื่องยนต์ 143 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 184 แรงม้า
โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดของ e:HEV EL+ ช่วยผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีระบบความปลอดภัยเฉพาะตัวของ Honda SENSING ครบทุกฟังก์ชันเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริด ในราคาที่สูงกว่ารุ่นเริ่มต้นไม่มากนัก
เป็นรุ่นท็อปที่มีความสปอร์ต หรูหรา ผสานเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังเครื่องยนต์ 143 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 184 แรงม้า โดยรุ่นนี้จะมีหลังคา Sunroof แบบไฟฟ้าและล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ RS นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเสียงลำโพงระดับพรีเมียม Bose 12 ตำแหน่ง ติดตั้งเทคโนโลยี Honda SENSING ครบชุด เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการความสมบูรณ์แบบครบครัน
Honda civic fe e:HEV เป็นรถไฮบริดที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้ทั้งประสิทธิภาพการขับขี่และประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหารถยนต์สมรรถนะสูงพร้อมทั้งยังประหยัดราคาน้ำมัน
โดยจุดเด่นคือระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร DOHC i-VTEC กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ซึ่งมอบกำลังรวมสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร
ระบบไฮบริดนี้ทำงานโดยสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังไฟฟ้าล้วนในรอบความเร็วต่ำเพื่อความประหยัด หรือการใช้พลังงานผสมในรอบความเร็วสูง สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 25 กิโลเมตรต่อลิตร ตามสเปกที่ Honda ระบุไว้ โดยมีโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ระหว่าง Normal Sport และ Econ เพื่อให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์
ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน Honda civic fe เป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับผู้มองหารถยนต์ซีดานไฮบริดที่ทั้งล้ำสมัยและประหยัดพลังงาน นอกจากสมรรถนะของรถที่ยอดเยี่ยมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการขับขี่รถ นั่นคือการทำ ประกันรถยนต์ ให้กับรถของคุณ โดยเฉพาะหากเป็นรถใหม่ป้ายแดง แนะนำให้ทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อให้ประกันช่วยดูแลไม่ว่ารถจะเกิดความเสียหายจากการชน อุบัติเหตุ ถูกขโมย ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือแม้แต่ประสบกับภัยธรรมชาติ ช่วยให้คุณขับรถสุดรักได้อย่างไร้กังวล
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง