vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ป้ายจราจรทั้งหมด

ป้ายจราจรทั้งหมดมีอะไรบ้าง สิ่งสำคัญที่คนใช้รถใช้ถนนต้องรู้

schedule
share

      ป้ายจราจรทั้งหมด หรือ Traffic Sign คือ เครื่องหมายสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้รถใช้ถนนและควบคุมการจราจรบนท้องถนนเพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกัน โดยจะติดตั้งอยู่ตามบริเวณต่างๆ ในเขตทางหลวงเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสัญลักษณ์จราจรทั้งหมดจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป insurverse จึงได้รวบรวมป้ายจราจรทั้งหมดพร้อมความหมายที่จำเป็นต้องรู้มาบอกกัน ทุกคนจะได้ขับรถอย่างถูกต้อง เกิดความเป็นระเบียบและเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ไม่เสี่ยงต้องเคลมประกันรถยนต์! นอกจากนี้ป้ายจราจรทั้งหมดพร้อมความหมายยังเกี่ยวเนื่องกับข้อบังคับทางกฎหมายด้วยนะคะ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับตามกฎหมายกำหนด ซึ่งโทษจะมากหรือน้อย จะโดนใบสั่งค่าปรับจราจรกันเท่าไหร่ก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละกรณีความผิด บอกเลยว่าไม่ได้มีแค่โทษปรับเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีโทษทั้งจำทั้งปรับด้วย แล้วสัญลักษณ์จราจรบนถนนและเครื่องหมายจราจรทั้งหมดที่ควรรู้มีอะไรบ้าง? มีทั้งหมดกี่ประเภท? insurverse จะพาไปดูเองค่ะ    

ป้ายจราจร

สารบัญบทความ

ป้ายจราจรทั้งหมดมีกี่ประเภท

      เวลาที่คุณใช้รถใช้ถนนจะเห็นป้ายจราจรทั้งหมดที่แตกต่างกันออกไป เช่น ป้ายสัญลักษณ์จราจรสามเหลี่ยม, เครื่องหมายจราจรสีน้ำเงินหรือป้ายจราจรสีฟ้า เป็นต้น ซึ่งความหมายป้ายจราจรแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน มีไว้ช่วยอำนวยความสะดวกและควบคุมการจราจรแบบ Case by case ตามมาตรฐานสากล เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ป้ายจราจรมีกี่ประเภทจำแนกอย่างไร? ป้ายจราจรพร้อมความหมายต่างๆ หมายความว่าอย่างไร? ตามมาดูข้อมูลป้ายจราจรทั้งหมด 3 ประเภทกับ insurverse กันได้เลยค่ะ

เครื่องหมายจราจรประเภทป้ายบังคับ

      ป้ายจราจรทั้งหมดประเภทที่ 1 คือ เครื่องหมายจราจรประเภทป้ายบังคับ หรือ Regulatory Signs ความหมายป้ายจราจรประเภทนี้ มีจุดประสงค์ในการควบคุมและบังคับ คุณจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามป้ายจราจรทั้งหมดอย่างเคร่งครัด! ห้ามฝ่าฝืนเพราะจะมีโทษทางกฎหมาย ซึ่งป้ายประเภทบังคับนั้นจะแยกย่อยออกมาอีก ถามว่าป้ายจราจรมีกี่ประเภท สำหรับประเภทที่ 1 ก็จะมีตามนี้เลยค่ะ  

ป้ายจราจรทั้งหมด
  1. ป้ายบังคับประเภทกำหนดสิทธิ์ หรือ Priority Regulating Signs เช่น ป้ายหยุด, ป้ายหยุด STOP, ป้ายให้ทาง, ป้ายให้ทาง GIVE WAY และป้ายให้รถสวนทาง เป็นต้น
  2. ป้ายบังคับประเภทห้ามหรือจำกัดสิทธิ์ หรือ Prohibitory or Restrictive Signs เช่น ป้ายห้ามแซง, ป้ายห้ามเลี้ยวขวา, ป้ายห้ามเข้า, ป้ายห้ามรถบรรทุกผ่าน, ป้ายห้ามหยุดรถและป้ายห้ามจอดรถ เป็นต้น
  3. ป้ายบังคับประเภทคำสั่ง หรือ Mandatory Signs เช่น ป้ายให้เดินรถทางเดียว, ป้ายชิดขวา, ป้ายวงเวียน, ป้ายให้เลี้ยวขวาและป้ายให้เลี้ยวซ้าย เป็นต้น
  4. ป้ายอื่น ๆ เช่น ป้ายสุดเขตบังคับและป้ายให้ขับช้าๆ เป็นต้น

      สำหรับลักษณะสัญลักษณ์จราจรบนถนนจะเป็นป้ายทรงกลม มีส่วนประกอบของสัญลักษณ์ต่างๆ, เครื่องหมาย, ตัวเลขและตัวอักษรอยู่ภายในป้าย ซึ่งสีป้ายจราจรทั้งหมดจะประกอบไปด้วย สีดำ, สีขาวและสีแดง ยกเว้นป้ายบังคับ 5 ประเภท ที่จะมีลักษณะแตกต่างออกไปเล็กน้อย ดังนี้ค่ะ

  1. ป้ายหยุด Stop Sign เป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม
  2. ป้ายให้ทาง Give Way Sign เป็นรูปทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า
  3. ป้ายห้ามจอดหรือห้ามหยุดรถ เป็นรูปทรงกลมแต่มีพื้นผิวสีน้ำเงิน
  4. ป้ายบังคับข้อความ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม
  5. ป้ายประกอบ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม

      เหตุผลที่ต้องมีเครื่องหมายจราจรประเภทป้ายบังคับและเครื่องหมายจราจรทั้งหมด ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนนั่นเองค่ะ หากไม่ปฏิบัติตาม อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายบนท้องถนนและเกิดเหตุร้ายแรงอย่างการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นมาจากสาเหตุการทำผิดกฎจราจรนั่นเองค่ะ ถ้าทุกคนเคารพและปฏิบัติตามป้ายจราจรทั้งหมดอย่างเคร่งครัด ก็จะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยและเกิดความเป็นระเบียบของการจราจรมากขึ้น เพียงแค่เพิ่มวินัยจราจรและใช้รถใช้ถนนร่วมกันอย่างระมัดระวัง เพียงเท่านี้ก็ลดการเกิดอุบัติเหตุและช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นแล้วค่ะ

เครื่องหมายจราจรประเภทป้ายเตือน

      ป้ายจราจรทั้งหมดประเภทที่ 2 คือ เครื่องหมายจราจรประเภทป้ายเตือน หรือ Warning Signs มีจุดประสงค์ในการเตือนภัย เพื่อบอกข้อมูลที่เส้นทางข้างหน้าว่าอาจมีอันตรายหรือต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สามารถพบเห็นได้บ่อยตามเส้นทางที่เป็นป่าเขาหรือเส้นทางที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ที่ไม่ชำนาญทางค่ะ ทั้งนี้ป้ายประเภทนี้มีไว้สำหรับป้องกันความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ดังนั้นเมื่อมองเห็นป้ายประเภทนี้แล้ว แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่พร้อมกับลดความเร็วรถลงทันทีเลยนะคะ เช่น ป้ายทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวซ้าย, ป้ายทางคดเคี้ยวเริ่มขวา, ป้ายวงเวียนข้างหน้า, ป้ายเตือนสะพานแคบและป้ายทางแคบลงทั้งสองด้าน เป็นต้น

      เครื่องหมายจราจรทั้งหมดของป้ายประเภทนี้ จะมีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสตั้งมุม คล้ายสัญลักษณ์จราจรสามเหลี่ยมสีเหลืองสะท้อนแสงหรือสีส้ม เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น นอกจากนี้ป้ายจราจรทั้งหมดประเภทนี้ ยังสามารถพบเห็นได้บ่อยบริเวณทางโค้ง, ทางแยก, จุดแสดงไฟจราจร, ทางลาดชัน, บริเวณที่ผิวถนนไม่ปกติ, มีสิ่งกีดขวางและมีเส้นทางรถไฟผ่าน เป็นต้นค่ะ 

เครื่องหมายจราจรป้ายแนะนำ 

      ป้ายจราจรทั้งหมดประเภทที่ 3 คือ เครื่องหมายจราจรป้ายแนะนำ หรือ Guide Signs มีจุดประสงค์เพื่อเป็นประโยชน์และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ขับขี่ ช่วยให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น เช่น ป้ายบอกระยะทาง, ป้ายบอกสถานที่, ป้ายแสดงจุดกลับรถ, ป้ายสิ้นสุดทางด่วนและป้ายแสดงสถานีตรวจสอบน้ำหนัก เป็นต้นค่ะ ซึ่งป้ายจราจรพร้อมความหมายประเภทนี้จะแยกออกเป็น 2 ประเภท ประกอบไปด้วยป้ายแนะนำทั่วไป หรือ Guide Sign-Conventional Highways และป้ายแนะนำบนทางหลวงพิเศษ หรือ Guide Sign-Freeways and Expressways ใช้เป็นเครื่องหมายจราจรสีน้ำเงินหรือสีขาว ป้ายจราจรทั้งหมดของประเภทนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ดังนี้ค่ะ

  1. รูปแบบที่ 1 คือ ป้ายบอกระยะทาง, จุดหมายปลายทาง, สถานที่และหมายเลขทางด่วน ลักษณะจะเป็นป้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาว ระบุข้อมูลด้วยเครื่องหมาย, ตัวเลข, สัญลักษณ์และตัวอักษรสีดำ ทำให้ป้ายจราจรทั้งหมดนั้นง่ายต่อการมองเห็น  
  2.  รูปแบบที่ 2 คือ ป้ายบอกข้อมูลข่าวสารและการบริการ เช่น ตำแหน่งห้างสรรพสินค้า, ตำแหน่งโรงพยาบาล, ตำแหน่งจุดพักรถและเป้าหมายเลขทางหลวง เป็นต้น ลักษณะจะเป็นป้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีน้ำเงิน
  3. รูปแบบที่ 3 คือ ป้ายแสดงสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น อุทยาน, ที่สำหรับ Hiking, แหล่งชุมชนและน้ำตก เป็นต้น ลักษณะจะเป็นป้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งสีน้ำเงิน
  4. รูปแบบที่ 4 คือ ป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวโบราณ เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, ที่เที่ยวประวัติศาสตร์, ที่เที่ยวโบราณและศาสนสถานต่างๆ เป็นต้น ลักษณะของป้ายจราจรทั้งหมดจะเป็นป้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งสีขาว

ป้ายจราจรสีฟ้า คืออะไร?

      ป้ายจราจรสีฟ้า คือ เครื่องหมายจราจรที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินทาง ย้อนกลับไปในขณะที่ยังไม่มี GPS เหมือนปัจจุบัน การเดินทางจะใช้ป้ายจราจรสีฟ้าเป็นตัวช่วยในการเดินทางไปยังที่หมาย ป้ายจราจรทั้งหมดจะมีข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ในเชิงให้ความรู้และข่าวสารรวมถึงบริการ จึงต้องใช้สีที่โดดเด่นและสะดุดตา ทำให้ง่ายต่อการมองเห็นระหว่างใช้รถใช้ถนน ป้ายจราจรทั้งหมดจะพบเจอได้บ่อยบนทางหลวงสัมปทาน, ถนนเขตในเมือง, ทางหลวงพิเศษและทางด่วนของแต่ละพื้นที่ เช่น ป้ายฉุกเฉิน SOS, ป้ายร้านอาหาร, ป้ายแสดงการให้บริการสุขา, ป้ายแสดงบริการ Wi-Fi และ Internet, ป้ายแสดงสถานีบริการน้ำมันและป้ายแสดงการให้บริการร้านสะดวกซื้อ เป็นต้นค่ะ ป้ายจราจรสีฟ้ารูปทรงสี่เหลี่ยมมีขนาดใหญ่ ต่างจากสัญลักษณ์จราจรสามเหลี่ยมซึ่งเป็นป้ายเตือนในการใช้รถใช้ถนน

ป้ายจราจร ในการใช้ถนน

สรุป 

      ถ้าหากคุณเป็นอีก 1 คนที่ใช้รถใช้ถนน เรื่องป้ายจราจรทั้งหมดต้องให้ความสำคัญ ควรศึกษาทำความเข้าใจและเรียนรู้ความหมายของสัญลักษณ์จราจรทั้งหมดจะได้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องใส่ใจเกี่ยวกับเทคนิคการขับขี่ที่ปลอดภัยและไม่ผิดกฎจราจร มีสติรู้ตัวอยู่เสมอขับรถโดยไม่ประมาทเพื่อป้องกันความเสี่ยงทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขับรถ รวมทั้งอย่ามองว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องไกลตัว ถ้าขับขี่รถต้องเสริมตัวช่วยป้องกันภัยด้วย ตรวจเช็คว่ามีประกันรถยนต์ชั้น 1 ติดรถแล้วหรือยัง? หากยังไม่มีหรือใกล้หมดอายุแล้วนะคะ แนะนำเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ insurverse ได้เลยนะคะ จะเส้นทางใกล้หรือไกลก็อุ่นใจทุกเวลายิ่งกว่าเดิม เดินทางปลอดภัยได้ทุกที่ ชีวิตอุ่นใจไปกับแผนประกันที่ราคาคุ้มค่า! รองรับทุกความเสี่ยงอย่างครอบคลุม ช่วยรับมือกับทุกสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้จริงในทุกค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุ ที่สำคัญทำประกันได้ง่าย! ทำผ่านออนไลน์ได้เลย! ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล! พร้อมดูแลคุ้มครองแม้เกิดเหตุฉุกเฉิน หากมีปัญหาเมื่อไหร่ก็ติดต่อขอความช่วยเหลือกับ insurverse ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ! ดีแบบนี้ต้องมีแล้วไหม? กับประกันที่ดีที่สุดที่คู่ควรติดรถคุณ!

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย