vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
รวมสิ่งที่ต้องรู้ในการเติมน้ำหม้อน้ำ

รวมสิ่งที่ต้องรู้ในการเติมน้ำหม้อน้ำ

schedule
share

รถความร้อนขึ้นจากหม้อน้ำเดือด (Overheat) คือหนึ่งในปัญหาที่คนใช้รถพบเจอได้บ่อย ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการระบายความร้อนไม่ทัน จากการวิ่งเป็นระยะทางไกล หม้อน้ำรั่วซึม หรือชำรุดเสียหายจนระดับน้ำลดลงผิดปกติ และอีกหนึ่งสาเหตุที่หลายคนมักจะมองข้ามกันก็คือ การเติมน้ำเปล่าแทนการใช้น้ำยาหล่อเย็น หรือ coolant นั่นเอง ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่หลายคนมักพลาด จนทำให้รถระบายความร้อนในการขับขี่ไม่ทันอย่างไม่รู้ตัว เราจะมาอธิบายให้เข้าใจกันว่า เพราะอะไรน้ำหล่อเย็นถึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในรถยนต์ 

ความสำคัญของหม้อน้ำรถยนต์

หม้อน้ำรถยนต์ มีส่วนสำคัญอย่างมากในการระบายความร้อนส่วนเกิน ที่เกิดจากการเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์ โดยมีหลักการทำงานด้วยการใช้น้ำยาหล่อเย็น และพัดลมหม้อน้ำที่ทำหน้าที่ดูดอากาศจากด้านหน้า ผ่านไปยังรังผึ้งหม้อน้ำด้านหลัง หรือเรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความร้อนด้วยอากาศ จึงทำให้น้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำอุณหภูมิลดลง และไหลเวียนเข้าไปสู่โพรงเสื้อสูบห้องเครื่องอีกครั้ง เพื่อทำการระบายความร้อนอยู่เรื่อย ๆ

รู้ได้อย่างไรว่าต้องเติมน้ำหม้อน้ำ

ในส่วนของวิธีการสังเกตก่อนเติมหม้อน้ำรถยนต์นั้นทำได้ง่ายมาก เพราะหม้อน้ำรถยนต์ทุกคันจะมีระดับที่ควรเติมบอกไว้ด้านข้างอยู่แล้ว โดยขีดล่างจะเป็น Min และขีดบนจะเป็น Full ส่วนระดับน้ำหล่อเย็นที่ควรเติมหมอน้ำเพื่อใช้งาน ก็คือระดับพอดีกับขีดด้านบน เพราะหากปล่อยให้น้ำในหม้อน้ำลดต่ำจนเกินไป เครื่องยนต์อาจจะระบายความร้อนไม่ทัน แต่หากเติมเกินขีดด้านบนมากไป ก็อาจจะทำให้น้ำเดือดจนล้นออกมาได้เช่นกัน  

หม้อน้ำรถยนต์ควรใช้อะไรเติม

ในการเติมหม้อน้ำรถยนต์ ถ้าเลือกได้ก็ควรใช้น้ำหล่อเย็นเพียงเท่านั้น เพราะน้ำหล่อเย็นมีจุดเดือดสูงถึง 120-150 องศาเซลเซียส เลยช่วยระบายความร้อนได้ดี และยังไม่ทิ้งคราบตะกอนต่าง ๆ ไว้ในหม้อน้ำ อีกทั้งยังช่วยลดการผุกร่อนที่อาจเกิดขึ้นภายในชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันอีกด้วย จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้น้ำเปล่าในการเติมหม้อน้ำ เพราะน้ำเปล่ามีจุดเดือดเพียง 99 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังอาจมีคราบสกปรกตกตะกอนทิ้งไว้ในรังผึ้ง ซึ่งจะส่งผลต่อการระบายความร้อนในระยะยาว และอาจทำให้หม้อน้ำขึ้นสนิมจนเกิดการรั่วซึมได้ 

น้ำยาหล่อเย็นคืออะไร

น้ำยาหล่อเย็น คือ สารหล่อเย็นที่มีส่วนผสมหลักเป็น “เอทิลีนไกลคอล” กว่า 90% ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันการแข็งตัว และยังมีสารป้องกันการกัดกร่อนผสมรวมอยู่ด้วย จึงช่วยป้องกันการผุกร่อนภายในผ่านการสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิวโลหะ พร้อมกับสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยป้องกันตะกรัน ค่า pH รวมไปถึงสารป้องกันการเกิดฟอง และการใส่สีเพิ่มลงไปเพื่อง่ายต่อการเช็กบริเวณที่รั่วซึม

เติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นได้ไหม

เติมได้ แค่ไม่ควรทำ เพราะน้ำเปล่ามีจุดเดือดที่ต่ำกว่า จึงช่วยระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่ากับน้ำหล่อเย็น และยังมีความเสี่ยงในการเกิดสนิมในหม้อน้ำได้ง่าย เพราะน้ำเปล่าจะมีส่วนผสมของแร่ธาตุรวมอยู่ จึงอาจทำให้เกิดการผุกร่อน และรั่วซึมจนเครื่องยนต์ความร้อนพุ่งขึ้นสูงแบบไม่รู้ตัว แต่หากจำเป็นต้องเติมในสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างการจอดเสียอยู่ข้างทาง ก็สามารถเติมระบายความร้อนก่อนได้ แล้วค่อยไปเปลี่ยนในภายหลัง  

วิธีเติมน้ำหล่อเย็น

วิธีเติมน้ำยาหล่อเย็นที่ทำได้ด้วยตัวเอง

การเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นนั้นทำได้ไม่ยาก เมื่อครบกำหนดตามอายุใช้งาน ก็ควรที่จะเติมของใหม่ลงไปแทน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด เพื่อที่เครื่องยนต์จะได้เกิดการสึกหรอน้อยที่สุด โดยมีวิธีการ ดังนี้ 

  1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม น้ำยาหล่อเย็น กะละมังใบใหญ่ กรวย และผ้าเช็ดอเนกประสงค์
  2. นำกะละมังไปรองข้างใต้รถ พร้อมกับเปิดหางปลาเพื่อถ่ายน้ำเก่าออกให้หมด
  3. ปิดหางปลาหม้อน้ำ พร้อมกับเติมน้ำสะอาดลงไปก่อนปิดฝาหม้อน้ำ แล้วค่อยทำการสตาร์ทรถทิ้งไว้ 5-10 นาที เพื่อเป็นการชะล้างสิ่งสกปรกในหม้อน้ำทั้งหมด
  4. ปล่อยน้ำออก แล้วทำซ้ำอีกรอบ โดยสามารถตรวจดูได้จากสีน้ำที่ไหลออกมาว่าสะอาดดีแล้วหรือยัง 
  5. เติมน้ำยาหล่อเย็นลงไปให้ถึงปากหม้อน้ำ แล้วทำการสตาร์ทรถเพื่อเร่งเครื่องไล่อากาศเบา ๆ แล้วจึงทำการเติมน้ำยาหล่อเย็นลงไปจนเต็ม เมื่อเต็มแล้วจึงทำการปิดฝา ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนทั้งหมด 

น้ำยาหล่อเย็นในการเติมน้ำหม้อน้ำ ผสมกันได้ไหม

การเติมน้ำยาหล่อเย็นผสมกันสามารถทำได้ แต่ก็ไม่ควรทำแม้ว่าส่วนผสมจะเหมือนกันก็ตาม เพราะน้ำยาหล่อเย็นถูกใส่สีมาเพื่อให้เห็นการรั่วซึมได้ชัดเจน การนำมาผสมกันต่างยี่ห้ออาจจะทำให้สังเกตเห็นการรั่วซึมได้ยากขึ้น อีกทั้งยังมีอายุการเปลี่ยนถ่ายตามที่คู่มือกำกับไว้ จึงควรถ่ายของเก่าออกก่อนการเติมลงไปใหม่เพื่อใช้งาน

น้ำยาหล่อเย็น ควรเปลี่ยนตอนไหน

รถยนต์แต่ละรุ่นจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นตามระยะเวลาที่แตกต่างกันไป โดยจะต้องอิงจากคู่มือการใช้งานรถเป็นหลัก ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป ควรจะเปลี่ยนที่ระยะทาง 60,000-150,000 กม. หรือประมาณ 3-10 ปี 

เทคนิคดูแลหม้อน้ำรถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน

หม้อน้ำรถยนต์ เป็นส่วนที่ไม่ได้มีการดูแลบำรุงรักษายาก เพียงแต่ต้องให้ความใส่ใจในการตรวจเช็กบ้างเป็นครั้งคราวในการใช้รถก็เท่านั้น ใครที่ไม่รู้ว่ามีเทคนิคในการดูแลหม้อน้ำอย่างไร เรามีมาฝากกัน 

  • ตรวจระดับน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ : การตรวจเช็กระดับน้ำไม่ให้อยู่ต่ำเกินไปในการใช้งาน จะช่วยให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้ดี และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้เห็นถึงสภาพของน้ำหล่อเย็นด้วยว่ามีคราบตะกรันไหม มีสีที่ขุ่นมัวลงไปหรือเปล่า หรือเกิดการรั่วซึมจากระดับน้ำที่ลดลงเร็วร่วมด้วยไหม 
  • ไม่เติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำ : เพราะน้ำเปล่าจะทำให้หม้อน้ำโดนกัดกร่อน และเกิดสนิมขึ้นจนผุพัง และยังทิ้งคราบตะกรันต่าง ๆ ในแผงระบายจนทำให้รถเกิดความร้อนขึ้นได้ง่ายในระยะยาว 

สรุปรวมสิ่งที่ต้องรู้ในการเติมน้ำหม้อน้ำ

การดูแลหม้อน้ำรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องหมั่นตรวจเช็กก่อนการออกเดินทางบ้างเป็นครั้งคราว รวมไปถึงการเติมน้ำในหม้อน้ำอย่างถูกวิธีด้วยน้ำหล่อเย็น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้อย่างดีโดยไม่พังก่อนเวลาอันควร นอกจากเรื่องของหม้อน้ำที่ต้องไม่ลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นทุก 3 ปีแล้ว การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ แบบออนไลน์ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสุดสะดวก ที่สามารถเช็กดูได้เลยว่า พ.ร.บ. รถยนต์ ราคาเท่าไหร่ ต่อเสร็จก็รับกรมธรรม์แบบออนไลน์ไปต่อภาษีได้ทันที จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ตอบโจทย์คนไม่มีเวลาแบบสุด ๆ

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)