รถความร้อนขึ้นจากหม้อน้ำเดือด (Overheat) คือหนึ่งในปัญหาที่คนใช้รถพบเจอได้บ่อย ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการระบายความร้อนไม่ทัน จากการวิ่งเป็นระยะทางไกล หม้อน้ำรั่วซึม หรือชำรุดเสียหายจนระดับน้ำลดลงผิดปกติ และอีกหนึ่งสาเหตุที่หลายคนมักจะมองข้ามกันก็คือ การเติมน้ำเปล่าแทนการใช้น้ำยาหล่อเย็น หรือ coolant นั่นเอง ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่หลายคนมักพลาด จนทำให้รถระบายความร้อนในการขับขี่ไม่ทันอย่างไม่รู้ตัว เราจะมาอธิบายให้เข้าใจกันว่า เพราะอะไรน้ำหล่อเย็นถึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในรถยนต์
หม้อน้ำรถยนต์ มีส่วนสำคัญอย่างมากในการระบายความร้อนส่วนเกิน ที่เกิดจากการเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์ โดยมีหลักการทำงานด้วยการใช้น้ำยาหล่อเย็น และพัดลมหม้อน้ำที่ทำหน้าที่ดูดอากาศจากด้านหน้า ผ่านไปยังรังผึ้งหม้อน้ำด้านหลัง หรือเรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความร้อนด้วยอากาศ จึงทำให้น้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำอุณหภูมิลดลง และไหลเวียนเข้าไปสู่โพรงเสื้อสูบห้องเครื่องอีกครั้ง เพื่อทำการระบายความร้อนอยู่เรื่อย ๆ
ในส่วนของวิธีการสังเกตก่อนเติมหม้อน้ำรถยนต์นั้นทำได้ง่ายมาก เพราะหม้อน้ำรถยนต์ทุกคันจะมีระดับที่ควรเติมบอกไว้ด้านข้างอยู่แล้ว โดยขีดล่างจะเป็น Min และขีดบนจะเป็น Full ส่วนระดับน้ำหล่อเย็นที่ควรเติมหมอน้ำเพื่อใช้งาน ก็คือระดับพอดีกับขีดด้านบน เพราะหากปล่อยให้น้ำในหม้อน้ำลดต่ำจนเกินไป เครื่องยนต์อาจจะระบายความร้อนไม่ทัน แต่หากเติมเกินขีดด้านบนมากไป ก็อาจจะทำให้น้ำเดือดจนล้นออกมาได้เช่นกัน
ในการเติมหม้อน้ำรถยนต์ ถ้าเลือกได้ก็ควรใช้น้ำหล่อเย็นเพียงเท่านั้น เพราะน้ำหล่อเย็นมีจุดเดือดสูงถึง 120-150 องศาเซลเซียส เลยช่วยระบายความร้อนได้ดี และยังไม่ทิ้งคราบตะกอนต่าง ๆ ไว้ในหม้อน้ำ อีกทั้งยังช่วยลดการผุกร่อนที่อาจเกิดขึ้นภายในชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันอีกด้วย จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้น้ำเปล่าในการเติมหม้อน้ำ เพราะน้ำเปล่ามีจุดเดือดเพียง 99 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังอาจมีคราบสกปรกตกตะกอนทิ้งไว้ในรังผึ้ง ซึ่งจะส่งผลต่อการระบายความร้อนในระยะยาว และอาจทำให้หม้อน้ำขึ้นสนิมจนเกิดการรั่วซึมได้
น้ำยาหล่อเย็น คือ สารหล่อเย็นที่มีส่วนผสมหลักเป็น “เอทิลีนไกลคอล” กว่า 90% ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันการแข็งตัว และยังมีสารป้องกันการกัดกร่อนผสมรวมอยู่ด้วย จึงช่วยป้องกันการผุกร่อนภายในผ่านการสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิวโลหะ พร้อมกับสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยป้องกันตะกรัน ค่า pH รวมไปถึงสารป้องกันการเกิดฟอง และการใส่สีเพิ่มลงไปเพื่อง่ายต่อการเช็กบริเวณที่รั่วซึม
เติมได้ แค่ไม่ควรทำ เพราะน้ำเปล่ามีจุดเดือดที่ต่ำกว่า จึงช่วยระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่ากับน้ำหล่อเย็น และยังมีความเสี่ยงในการเกิดสนิมในหม้อน้ำได้ง่าย เพราะน้ำเปล่าจะมีส่วนผสมของแร่ธาตุรวมอยู่ จึงอาจทำให้เกิดการผุกร่อน และรั่วซึมจนเครื่องยนต์ความร้อนพุ่งขึ้นสูงแบบไม่รู้ตัว แต่หากจำเป็นต้องเติมในสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างการจอดเสียอยู่ข้างทาง ก็สามารถเติมระบายความร้อนก่อนได้ แล้วค่อยไปเปลี่ยนในภายหลัง
การเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นนั้นทำได้ไม่ยาก เมื่อครบกำหนดตามอายุใช้งาน ก็ควรที่จะเติมของใหม่ลงไปแทน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด เพื่อที่เครื่องยนต์จะได้เกิดการสึกหรอน้อยที่สุด โดยมีวิธีการ ดังนี้
การเติมน้ำยาหล่อเย็นผสมกันสามารถทำได้ แต่ก็ไม่ควรทำแม้ว่าส่วนผสมจะเหมือนกันก็ตาม เพราะน้ำยาหล่อเย็นถูกใส่สีมาเพื่อให้เห็นการรั่วซึมได้ชัดเจน การนำมาผสมกันต่างยี่ห้ออาจจะทำให้สังเกตเห็นการรั่วซึมได้ยากขึ้น อีกทั้งยังมีอายุการเปลี่ยนถ่ายตามที่คู่มือกำกับไว้ จึงควรถ่ายของเก่าออกก่อนการเติมลงไปใหม่เพื่อใช้งาน
รถยนต์แต่ละรุ่นจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นตามระยะเวลาที่แตกต่างกันไป โดยจะต้องอิงจากคู่มือการใช้งานรถเป็นหลัก ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป ควรจะเปลี่ยนที่ระยะทาง 60,000-150,000 กม. หรือประมาณ 3-10 ปี
หม้อน้ำรถยนต์ เป็นส่วนที่ไม่ได้มีการดูแลบำรุงรักษายาก เพียงแต่ต้องให้ความใส่ใจในการตรวจเช็กบ้างเป็นครั้งคราวในการใช้รถก็เท่านั้น ใครที่ไม่รู้ว่ามีเทคนิคในการดูแลหม้อน้ำอย่างไร เรามีมาฝากกัน
การดูแลหม้อน้ำรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องหมั่นตรวจเช็กก่อนการออกเดินทางบ้างเป็นครั้งคราว รวมไปถึงการเติมน้ำในหม้อน้ำอย่างถูกวิธีด้วยน้ำหล่อเย็น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้อย่างดีโดยไม่พังก่อนเวลาอันควร นอกจากเรื่องของหม้อน้ำที่ต้องไม่ลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นทุก 3 ปีแล้ว การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ แบบออนไลน์ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสุดสะดวก ที่สามารถเช็กดูได้เลยว่า พ.ร.บ. รถยนต์ ราคาเท่าไหร่ ต่อเสร็จก็รับกรมธรรม์แบบออนไลน์ไปต่อภาษีได้ทันที จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ตอบโจทย์คนไม่มีเวลาแบบสุด ๆ
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง