vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ส่อง 12 ที่เที่ยวบอสตัน เมืองแห่งประวัติศาสตร์และความโมเดิร์นที่ต้องไม่พลาด พร้อมเรื่องที่ต้องรู้ก่อนเที่ยว

ส่อง 12 ที่เที่ยวบอสตัน เมืองแห่งประวัติศาสตร์และความโมเดิร์นที่ต้องไม่พลาด พร้อมเรื่องที่ต้องรู้ก่อนเที่ยว

schedule
share

บอสตัน เมืองที่ผสมผสานความคลาสสิกของประวัติศาสตร์เข้ากับเสน่ห์ของความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเดินตามรอยอิฐสีแดงใน Freedom Trail หรือแวะชมพิพิธภัณฑ์สุดล้ำอย่าง MIT Museum บอสตันก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับนักเดินทาง แต่ก่อนจะออกสำรวจทุกซอกซอยของเมืองนี้ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการเช็กเบี้ยประกันเดินทางจาก insurverse ที่มาพร้อมเบี้ยเริ่มต้นเพียง 59 บาทต่อทริป เที่ยวได้แบบสบายใจไม่ต้องห่วงเรื่องไฟล์ทดีเลย์หรือกระเป๋าหาย

1. Freedom Trail

สายเดินชมเมืองต้องไม่พลาด Freedom Trail เส้นทางเดินยาว 4 กิโลเมตรที่พาไปตามรอยประวัติศาสตร์การก่อตั้งสหรัฐฯ ผ่านสถานที่สำคัญถึง 16 แห่ง ตั้งแต่ Boston Common ที่เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของอเมริกา ไปจนถึง Bunker Hill Monument ที่เป็นอนุสรณ์สถานสงครามปฏิวัติ เส้นทางนี้มีเส้นอิฐสีแดงนำทางชัดเจน เดินไปเพลิน ๆ ได้ความรู้แถมได้รูปสวย ๆ อีกด้วย

2. Boston Common

Boston Common เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐฯ ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1634 พื้นที่สีเขียวกลางใจเมืองที่ไม่ว่าจะฤดูไหนก็สวยไปหมด ช่วงหน้าร้อนก็จะมีคนมาปิกนิกหรือนั่งเล่น ส่วนหน้าหนาวก็จะมีลานสเก็ตน้ำแข็งให้สนุกกันแบบชิล ๆ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของ Freedom Trail ด้วย

3. Faneuil Hall Marketplace

ใครสายช้อปหรือชอบเดินเล่นในตลาดต้องแวะ Faneuil Hall Marketplace ตลาดเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1742 ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และแผงขายของมากมาย มีทั้งของท้องถิ่นและของฝากให้เลือกเพียบ แถมยังมีการแสดงสดจากศิลปินริมถนนให้ดูตลอดเวลา

4. Quincy Market

ติดกับ Faneuil Hall เลยคือ Quincy Market ตลาดอาหารที่ขึ้นชื่อของบอสตัน ที่นี่มีร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่อาหารทะเลสด ๆ อย่าง Lobster Roll จนถึงของหวานอย่าง Clam Chowder เสิร์ฟในขนมปังปิ้ง เดินชิมไปเรื่อย ๆ รับรองว่าฟินสุด ๆ

5. New England Aquarium

ใครชอบสัตว์ทะเลต้องไม่พลาด New England Aquarium ที่นี่มีถังปลากลางขนาดยักษ์ที่สูงถึง 4 ชั้นเต็มไปด้วยปลาหลากหลายสายพันธุ์ ไฮไลต์อยู่ที่การแสดงของนกเพนกวินสุดน่ารัก และการสัมผัสปลากระเบนในบ่อสัมผัส เด็ก ๆ ต้องปลื้มแน่นอน

6. Museum of Fine Arts, Boston

สายอาร์ตต้องแวะ Museum of Fine Arts ที่นี่รวบรวมผลงานศิลปะกว่า 450,000 ชิ้น ตั้งแต่ศิลปะอียิปต์โบราณไปจนถึงผลงานของศิลปินโมเดิร์นอย่าง Monet และ Van Gogh นอกจากนี้ยังมีคอลเลกชันศิลปะเอเชียที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาด้วย

7. Boston Public Library

ห้องสมุดสาธารณะบอสตันไม่ได้มีดีแค่หนังสือกว่า 23 ล้านเล่ม แต่ยังเป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามมาก โดยเฉพาะห้อง Bates Hall ที่มีเพดานโค้งและโคมไฟระย้าสุดหรู แถมยังเปิดให้เข้าชมฟรี ใครสายถ่ายรูปไม่ควรพลาด

8. Harvard University

แวะไปเยือนมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกอย่าง Harvard University ที่ Cambridge เดินเล่นในวิทยาเขตสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่และบรรยากาศการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมี Harvard Museum of Natural History ที่จัดแสดงฟอสซิลไดโนเสาร์และสิ่งมีชีวิตหายาก

9. MIT Museum

สำหรับสายเทคโนโลยีต้องไม่พลาด MIT Museum ที่รวบรวมผลงานนวัตกรรมล้ำสมัยจากมหาวิทยาลัย MIT ที่นี่มีทั้งหุ่นยนต์ อินเทอร์แอคทีฟ และการจัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยีสุดล้ำ ใครชอบอะไรที่ล้ำ ๆ ต้องแวะมาดู

10. Fenway Park

แฟนเบสบอลต้องแวะ Fenway Park สนามเหย้าของทีม Boston Red Sox ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1912 สนามนี้เป็นหนึ่งในสนามเบสบอลที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา สามารถจองทัวร์เพื่อเข้าไปชมสนามและห้องเก็บถ้วยรางวัลได้ด้วย

11. Boston Tea Party Ships & Museum

ย้อนกลับไปในช่วงเหตุการณ์ Boston Tea Party หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของการปฏิวัติอเมริกา ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่ให้คุณได้ลองโยนชาลงทะเลเหมือนในอดีตจริง ๆ พร้อมฟังเรื่องราวจากนักแสดงที่แต่งตัวเป็นชาวอาณานิคม

12. Isabella Stewart Gardner Museum

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้สร้างขึ้นในรูปแบบของพระราชวังเวนิส ที่เต็มไปด้วยคอลเลกชันศิลปะจากทั่วโลก ไฮไลต์คือสวนในร่มที่เปลี่ยนธีมไปตามฤดูกาล ที่นี่เคยเกิดคดีโจรกรรมศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาผลงานที่หายไปกลับมาได้

10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวบอสตัน

  1. ฤดูไหนเหมาะกับการเที่ยวบอสตันที่สุด
    บอสตันมี 4 ฤดูที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ถ้าไม่ชอบอากาศหนาวจัด ให้เลี่ยงช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) เพราะหิมะตกหนักและลมแรง ช่วงที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-มิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ที่อากาศเย็นสบายและมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม
  2. การเดินทางในเมืองสะดวกด้วย MBTA
    MBTA หรือ The T เป็นระบบขนส่งมวลชนที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา ครอบคลุมทั้งรถไฟใต้ดิน รถประจำทาง และเรือข้ามฟาก บัตร CharlieCard เป็นบัตรโดยสารแบบเติมเงินที่ช่วยประหยัดค่าเดินทาง และสามารถใช้ได้กับทุกประเภทของขนส่ง
  3. บอสตันเป็นเมืองเดินได้ (Walkable City)
    แม้จะมีระบบขนส่งดีเยี่ยม แต่บอสตันก็เป็นเมืองที่สามารถเดินเที่ยวได้สบาย ๆ โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง เช่น Back Bay และ Beacon Hill ที่เต็มไปด้วยถนนหินกรวดและอาคารเก่าแก่
  4. ภาษีการขายไม่แพงอย่างที่คิด
    ภาษีการขายในบอสตัน (รัฐแมสซาชูเซตส์) อยู่ที่ 6.25% ซึ่งต่ำกว่าหลายรัฐในสหรัฐฯ แต่ที่น่าสนใจคือไม่มีภาษีสำหรับเสื้อผ้าที่มีราคาต่ำกว่า 175 ดอลลาร์ ทำให้การช้อปปิ้งเสื้อผ้าถูกลงพอสมควร
  5. ห้ามพลาดลองอาหารท้องถิ่น
    บอสตันขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล โดยเฉพาะ New England Clam Chowder และ Lobster Roll นอกจากนี้ยังมีขนม Cannoli จากย่าน North End ที่คนท้องถิ่นแนะนำให้ลองมากกว่าแค่ถ่ายรูป
  6. ปลอดภัยแค่ไหนในการเดินเที่ยวบอสตัน
    โดยรวมแล้วบอสตันเป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในย่านท่องเที่ยวหลัก ๆ อย่าง Downtown, Back Bay และ Cambridge แต่ควรระวังในย่านที่มีชื่อเสียงในด้านความไม่ปลอดภัย เช่น Roxbury หรือ Dorchester ในช่วงเวลากลางคืน
  7. อย่าลืมทิปเมื่อใช้บริการ
    ในบอสตัน (รวมถึงทั่วอเมริกา) การให้ทิปเป็นเรื่องปกติและคาดหวังสำหรับการบริการ เช่น ร้านอาหารควรให้ทิปประมาณ 15-20% ของบิลค่าอาหาร ส่วนคนขับแท็กซี่หรือพนักงานโรงแรมควรให้ทิปตามความเหมาะสม
  8. การใช้บัตรเครดิตเป็นเรื่องง่าย
    บอสตันเป็นเมืองที่เกือบทุกที่สามารถใช้บัตรเครดิตได้ แม้แต่ในตลาดสดหรือร้านเล็ก ๆ แต่ควรพกเงินสดเล็กน้อยสำหรับการใช้จ่ายจิปาถะ เช่น ค่ารถบัสหรือค่าเข้าชมบางสถานที่
  9. Wi-Fi ฟรีมีให้ใช้ทั่วเมือง
    บอสตันมีบริการ Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะหลายแห่ง เช่น Boston Common, Copley Square และภายในร้านกาแฟหรือร้านอาหารเกือบทุกแห่ง นอกจากนี้ห้องสมุดสาธารณะก็มี Wi-Fi ฟรีให้ใช้ด้วย
  10. การวางแผนเที่ยวแบบประหยัดเวลา
    บอสตันเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอยู่ใกล้กัน แนะนำให้วางแผนเที่ยวตามย่านเพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินทาง เช่น เที่ยว Freedom Trail ในวันเดียว หรือจัดวันสำหรับเที่ยว Cambridge แยกออกมาโดยเฉพาะ

หลังจากตะลุยบอสตันกันมาจนครบทุกมุม ทั้งประวัติศาสตร์ ศิลปะ และนวัตกรรม บอกเลยว่าเมืองนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แต่การเดินทางไกลขนาดนี้อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย insurverse ประกันเดินทางที่คุ้มครองคุณตลอดทริป ไม่ว่าจะเที่ยวบ่อยแค่ไหนก็อุ่นใจ เพราะ insurverse มีประกันรายปีที่คุ้มครองได้ทั่วโลก พร้อมให้คุณลุยได้เต็มที่ในทุกการเดินทางแบบไร้กังวล!

5 คำถามที่พบบ่อย

ควรใช้เวลากี่วันถึงจะเที่ยวบอสตันได้ครบ?

ถ้าอยากเก็บสถานที่สำคัญ ๆ อย่าง Freedom Trail, Harvard, และพิพิธภัณฑ์หลัก ๆ ให้ครบ ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 3-4 วัน แต่ถ้าอยากดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองแบบไม่เร่งรีบ แนะนำให้วางแผนเที่ยว 5-6 วัน จะได้มีเวลาสำหรับช้อปปิ้งและลองอาหารท้องถิ่นด้วย

บอสตันมีพาสสำหรับนักท่องเที่ยวไหม?

มี Go Boston Card ที่สามารถใช้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ หลายแห่งในราคาประหยัด รวมถึงมีบัตรสำหรับทัวร์รถบัส Hop-On Hop-Off ที่พาเที่ยวรอบเมืองได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบคุ้มค่า

สถานที่เที่ยวไหนในบอสตันเหมาะสำหรับเด็ก ๆ บ้าง?

New England Aquarium และ Boston Children’s Museum เป็นสถานที่ที่เด็ก ๆ จะสนุกสนาน นอกจากนี้ Boston Common ก็มีสนามเด็กเล่นและลานสเก็ตน้ำแข็งในฤดูหนาว ส่วนสวนสัตว์ Franklin Park Zoo ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัว

ย่านไหนในบอสตันเหมาะสำหรับการพักค้างคืน?

ย่าน Back Bay เป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารมากมาย ถ้าอยากพักในบรรยากาศที่เงียบสงบและคลาสสิก ลองพิจารณา Beacon Hill ส่วน Cambridge ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากใกล้กับ Harvard และ MIT

ช่วงไหนในปีที่บอสตันมีเทศกาลน่าสนใจ?

ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีเทศกาล Boston Marathon ที่ดึงดูดนักวิ่งจากทั่วโลก ส่วนฤดูใบไม้ร่วงมี Head of the Charles Regatta การแข่งขันพายเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และถ้ามาในช่วงปลายปี จะมี Boston Christmas Festival ที่เต็มไปด้วยของตกแต่งและบรรยากาศคริสต์มาสสุดอบอุ่น

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย