กระแสโลกออนไลน์เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายสินค้าระหว่างประเทศ บวกกับปัจจุบันนี้มีคนไทยที่ย้ายถิ่นฐานไปแดนไกลเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้การส่งของไปต่างประเทศได้รับความสนใจจากผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าการส่งของไปต่างประเทศต้องทำอย่างไรบ้าง ตามไปเจาะลึกการส่งพัสดุกันเลย
1. เลือกประเทศปลายทางที่ต้องการจะส่งของไปต่างประเทศ
2. เตรียมนำพัสดุใส่ซองหรือแพ็กใส่กล่องเพื่อให้พร้อมต่อการจัดส่ง จากนั้นชั่งน้ำหนักของพัสดุให้เรียบร้อย วัดขนาดกล่องเพื่อเอาไว้ใช้คำนวณว่า ถ้าต้องการส่งพัสดุแบบไหน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการส่งครั้งนี้จำนวนเท่าไหร่ จะทำให้คำนวณค่าใช้จ่ายในการจัดส่งได้ง่าย
3. นำสิ่งของที่ต้องการส่งของไปต่างประเทศ ไปส่งที่ไปรษณีย์หรือทางบริษัทส่งพัสดุที่ต้องการ จากนั้นแจ้งทางบริษัทว่าต้องการส่งแบบไหน กรอกรายละเอียดที่อยู่พร้อมตรวจสอบความถูกต้อง แล้วชำระเงินให้เรียบร้อย
4. เก็บใบเสร็จไว้เพื่อติดตามสถานะ การขนส่งพัสดุจนไปถึงปลายทาง
1. สำหรับการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ หากเป็นซองเอกสารห้ามผนึกซองด้วยกาวเด็ดขาด ควรใช้เป็นแม็กเย็บกระดาษแทน ส่วนการส่งพัสดุที่เป็นแบบกล่องให้ใช้เชือกผูกเท่านั้นห้ามปิดกล่องด้วยเทปหรือกาวเด็ดขาด
2. ส่งของไปต่างประเทศห้ามอะไรบ้าง? ประกอบไปด้วย อาหารสด, ธนบัตร, พืชและสิ่งมีชีวิตทุกชนิด, ยาบางชนิด, ของมีคม, วัตถุอันตราย, อาวุธทุกชนิด, วัตถุไวไฟตลอดจนสินค้าผิดกฎหมายทุกประเภท
3. เงื่อนไขที่ต้องรู้คือ กรณีกรมศุลกากรประเทศปลายทางเก็บค่าภาษีนำเข้า ผู้รับปลายทางต้องเป็นผู้เสียภาษีเอง
4. สินค้าบางประเภท จำเป็นต้องใช้เอกสารเพื่อแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม จึงจะสามารถส่งออกได้ อาทิ เครื่องสำอาง, อาหาร, ยาและสารเคมีบางชนิด รวมถึงเสื้อผ้าที่ขนส่งไปยังประเทศที่อยู่ในโซนยุโรป ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดให้แน่ชัด ไม่เช่นนั้นอาจมีโอกาสสูงมาก ที่จะทำให้การขนส่งสินค้าไปต่างประเทศครั้งนี้ ถูกประเทศปลายทางตีกลับมา
เมื่อทราบวิธีขนส่งของไปต่างประเทศแล้ว เราก็จะสามารถส่งพัสดุไปได้ทุกที่ตามที่ต้องการ แต่สำหรับของบางอย่าง ที่เราต้องการส่งมอบด้วยตนเองที่ต่างประเทศเพื่อให้ผู้รับประทับใจ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเดินทางไปต่างประเทศแล้วพกของที่ต้องการส่งเป็นห่อของขวัญ ก็จะเป็นวิธีการจัดส่งที่ทำให้ผ่านเข้าเมืองได้ง่ายเช่นกัน แต่เพื่อความปลอดภัยผู้เดินทางเองควรมีประกันติดตัวเอาไว้ด้วย จะทำให้อุ่นใจทุกเส้นทางการเดินทาง คลิกเลือกแผนความคุ้มครองประกันเดินทางต่างประเทศ insurverse ได้เลยที่นี่ เพื่อรับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมแบบจัดเต็ม
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
วันปลอดรถยนต์โลก (World Car Free Day) เป็นวันสำคัญที่หลายประเทศรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคัน หันมาใช้รถสาธารณะเพื่อลดการปล่อยไอเสีย
การได้รับบาดเจ็บ, สูญเสียอวัยวะหรือชีวิตเพราะโดนรถชนไม่ใช่เหตุการณ์ที่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น! แต่อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากมากๆ
ใครตกรถไม่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐเชิญทางนี้! เพราะ insurverse ผู้นำด้านการต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ จะมาบอกข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องรู้! ตั้งแต่เริ่ม