vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
สายการบิน Full Service ต่างจาก Low Cost ยังไง? เลือกแบบไหนดี

สายการบิน Full Service ต่างจาก Low Cost ยังไง? เลือกแบบไหนดี

schedule
share

การเดินทางทางอากาศมีตัวเลือกมากมาย ทั้งสายการบิน Full Service และ Low Cost แต่ละแบบมีข้อดีต่างกัน ขึ้นอยู่กับสไตล์การเดินทางของแต่ละคน บางคนชอบความสะดวกสบายแบบครบวงจร บางคนเน้นราคาประหยัดและเลือกเฉพาะสิ่งที่จำเป็น แต่ไม่ว่าจะเลือกบินแบบไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ประกันเดินทาง ที่ช่วยให้ทริปของคุณอุ่นใจ ไม่ต้องกลัวเรื่องไฟลท์ดีเลย์ กระเป๋าหาย หรือค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด insurverse จัดให้แบบคุ้ม ๆ เริ่มต้นแค่ 59 บาท ครอบคลุมทั่วโลก เที่ยวได้แบบไร้กังวล

สายการบิน Full Service มีอะไรให้บ้าง

Full Service Airline หรือสายการบินบริการครบวงจรเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากได้ทุกอย่างจบในตั๋วเดียว ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง และได้รับบริการที่ค่อนข้างพรีเมียมกว่า ทั้งเรื่องของสิทธิพิเศษ การดูแลผู้โดยสาร และมาตรฐานการบินต่าง ๆ

  • โหลดกระเป๋าฟรี
    ส่วนใหญ่จะให้ตั้งแต่ 20-30 กิโลกรัม หรือถ้าบิน Business หรือ First Class ก็จะได้มากขึ้นอีก บางสายการบินมีสิทธิพิเศษให้สมาชิกสะสมไมล์เพิ่มน้ำหนักกระเป๋าได้ด้วย
  • เลือกที่นั่งได้ฟรี
    ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม อยากนั่งติดหน้าต่าง นั่งทางออกฉุกเฉิน หรือนั่งคู่กับเพื่อนก็เลือกได้สบาย ๆ
  • มีอาหารและเครื่องดื่มบริการตลอด
    อาหารจะขึ้นอยู่กับเส้นทางและระดับชั้นโดยสาร บางสายการบินเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส มีทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย
  • มีระบบบันเทิงส่วนตัว
    ไม่ต้องกังวลเรื่องความน่าเบื่อบนเครื่อง เพราะมีจอทีวีให้ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม แถมบางสายการบินยังมี Wi-Fi ให้ใช้ (บางครั้งฟรี บางครั้งเสียเงิน)
  • ห้องรับรองสนามบินสุดหรู
    ผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งสามารถเข้าใช้บริการเลานจ์ของสายการบินได้ ซึ่งมีอาหาร เครื่องดื่ม พื้นที่พักผ่อน รวมถึงห้องอาบน้ำ
  • สะสมไมล์แลกของรางวัล
    บินกับสายการบินกลุ่มพันธมิตรบ่อย ๆ สะสมแต้มแลกตั๋ว หรืออัปเกรดที่นั่งได้
  • มีบริการหลังการขายที่ดีกว่า
    สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ง่ายกว่า ขอคืนเงินได้ในบางเงื่อนไข และมีบริการช่วยเหลือผู้โดยสารครบวงจร

สายการบิน Low Cost เป็นยังไง?

Low Cost Airline หรือสายการบินต้นทุนต่ำ เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการราคาตั๋วถูกที่สุด และพร้อมจ่ายเฉพาะสิ่งที่ต้องการเท่านั้น ไม่มีบริการพิเศษติดมาให้ ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องซื้อเพิ่มทั้งหมด

  • ไม่มีโหลดกระเป๋าฟรี
    กระเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่องได้ตามที่กำหนด ถ้าอยากโหลดใต้เครื่องต้องจ่ายเพิ่ม โดยราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักและเส้นทาง
  • เลือกที่นั่งเสียเงิน
    ถ้าไม่จ่ายเพิ่ม ระบบจะสุ่มที่นั่งให้ แต่ถ้าอยากนั่งแถวหน้า นั่งติดทางออกฉุกเฉิน หรือนั่งข้างเพื่อน ต้องเสียเงินเพิ่ม
  • ไม่มีอาหารฟรี
    ต้องซื้อแยก หรือถ้าอยากประหยัดสุด ๆ ก็นำอาหารขึ้นไปกินเอง (บางสายการบินมีกฎห้ามนำอาหารภายนอกขึ้นเครื่อง)
  • ไม่มีจอทีวีส่วนตัว
    บางสายการบินมี Wi-Fi แต่ต้องเสียเงิน ส่วนหนัง เพลง หรือเกม ไม่มีให้ดูเหมือน Full Service
  • ไม่มีเลานจ์สนามบิน
    ถ้าอยากใช้ต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่ม หรือใช้เลานจ์ของสนามบินแทน
  • สะสมไมล์ไม่ได้
    ส่วนใหญ่ไม่มีโปรแกรมสะสมแต้ม หรือถ้ามีก็มักใช้กับเครือข่ายของสายการบินนั้น ๆ เท่านั้น
  • เปลี่ยนตั๋วหรือคืนเงินยาก
    ถ้าตั๋วราคาถูกสุดมักจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ หรือถ้าเปลี่ยนได้จะมีค่าธรรมเนียมสูงมาก

ราคาและความคุ้มค่า เลือกแบบไหนดี

ตั๋ว Low Cost อาจดูถูกตอนแรก แต่พอเริ่มบวกค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น ค่ากระเป๋า ค่าอาหาร ค่าที่นั่ง ราคาก็อาจจะพอ ๆ กับ Full Service ได้เหมือนกัน ถ้าอยากเลือกแบบคุ้มสุด ต้องดูว่าเดินทางยังไง ต้องการบริการอะไรบ้าง

  • บินใกล้ ๆ ไม่นาน เช่น กรุงเทพ-เชียงใหม่ Low Cost อาจเหมาะกว่า เพราะไม่ต้องการบริการพิเศษ
  • บินไกล ๆ หลายชั่วโมง เช่น กรุงเทพ-ลอนดอน Full Service คุ้มกว่าเพราะมีอาหารฟรี ที่นั่งสบาย และสะสมไมล์ได้
  • ถ้ามีสัมภาระเยอะ ลองคำนวณดูว่าค่ากระเป๋า Low Cost รวมแล้วจะแพงกว่าตั๋ว Full Service หรือเปล่า
  • ถ้าต้องการความสะดวกสบาย ไม่อยากจ่ายเพิ่มทีละอย่าง Full Service คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
  • ถ้าต้องการประหยัดจริง ๆ และรับได้กับข้อจำกัด Low Cost ก็ตอบโจทย์

เคล็ดลับจองตั๋วให้ได้ราคาดีที่สุด

  • จองล่วงหน้าให้เร็วที่สุด
    โดยเฉพาะสายการบิน Low Cost ถ้าจองล่วงหน้า 3-6 เดือน จะได้ราคาถูกกว่าจองกระชั้นชิด
  • สมัครสมาชิกสะสมไมล์
    สายการบิน Full Service มักมีโปรพิเศษให้สมาชิก บางครั้งมีส่วนลดค่าตั๋ว
  • เช็คราคาหลายแพลตฟอร์มก่อนจอง
    ใช้เว็บเปรียบเทียบราคาตั๋ว และดูจากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์สายการบิน และเอเจนซี่ออนไลน์
  • ใช้บัตรเครดิตที่ร่วมโปรโมชั่น
    บางบัตรมีส่วนลดพิเศษ หรือสามารถผ่อน 0% ได้
  • บินวันธรรมดาถูกกว่าวันหยุด
    หลีกเลี่ยงบินวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะราคามักจะสูงกว่าวันจันทร์-พฤหัสบดี

เลือกสายการบินที่ใช่ แล้ววางแผนให้รอบคอบก่อนจอง จะช่วยให้ทริปของคุณคุ้มค่ามากขึ้น ไม่ว่าจะเลือก Full Service หรือ Low Cost ก็ต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ เช็กเบี้ยประกันเดินทาง กับ insurverse ไว้ล่วงหน้า จะเดินทางกี่ครั้งต่อปีก็เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ ไม่ต้องจ่ายเกินความจำเป็น สนุกทุกทริปแบบไร้กังวล

5 คำถามที่พบบ่อย

สายการบิน Full Service กับ Low Cost ต่างกันตรงไหนบ้าง?

Full Service ให้บริการครบวงจร รวมค่าโหลดกระเป๋า อาหาร เครื่องดื่ม และเลือกที่นั่งฟรี ส่วน Low Cost ราคาตั๋วถูกกว่า แต่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับบริการเสริม เช่น โหลดกระเป๋า อาหาร หรือเลือกที่นั่ง

ตั๋ว Low Cost ถูกกว่าจริงหรือเปล่า?

ตั๋วอาจดูถูกตอนแรก แต่ถ้าต้องเพิ่มค่ากระเป๋า ค่าอาหาร หรือค่าเลือกที่นั่ง อาจรวมแล้วใกล้เคียงกับ Full Service ควรคำนวณให้ดีก่อนจอง

เดินทางไกลควรเลือกสายการบินแบบไหนดี?

ถ้าบินระยะไกล เช่น บินข้ามทวีป Full Service คุ้มกว่า เพราะที่นั่งกว้างกว่า มีอาหารบริการ และไม่ต้องจ่ายเพิ่มทีละอย่าง แต่ถ้ารับได้กับข้อจำกัด Low Cost ก็เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่า

จองตั๋วแบบไหนให้ได้ราคาถูกที่สุด?

จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน เช็คราคาจากหลายแพลตฟอร์ม ใช้โปรโมชั่นจากบัตรเครดิต และเลือกบินวันธรรมดาเพื่อลดค่าใช้จ่าย

Low Cost ไม่มีโหลดกระเป๋าฟรี แล้วสามารถถือขึ้นเครื่องได้เท่าไหร่?

แต่ละสายการบินมีกฎต่างกัน ส่วนใหญ่จะให้กระเป๋าถือขึ้นเครื่องฟรีไม่เกิน 7-10 กิโลกรัม ควรเช็คเงื่อนไขก่อนเดินทางเพื่อเลี่ยงค่าปรับเพิ่มเติม

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)