รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วมีกฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างคันหน้าพอสมควรในระยะที่หยุดรถได้โดยปลอดภัย เมื่อจำเป็นต้องหยุดรถ” ซึ่งมาตรานี้ทำให้ผู้ขับขี่ต้องตัดสินใจว่า การเว้นระยะห่างเท่าไหร่ที่เรียกว่าเหมาะสมและจะไม่ชนท้ายรถคันอื่น
แต่หากขับรถชนท้ายขึ้นมา จะใช้เกณฑ์อย่างไรเพื่อพิจารณาดูว่าฝ่ายไหนถูกหรือฝ่ายไหนผิด ดูหลักการพิจารณา 5 ข้อ ดังนี้
ในความเป็นจริงแล้วผู้ขับขี่ที่ชนท้ายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่หากคุณทำประกันภัยรถยนต์อยู่แล้วไม่ต้องกังวล เพราะเมื่อเกิดเหตุสามารถโทรเรียกบริษัทประกันมาตรวจสอบและประเมินค่าเสียหาย (ตามที่กรมธรรม์ระบุไว้) แต่หากเกิดอุบัติเหตุการชนแบบต่อกันเป็นทอดหลายคัน รถคันแรกสุดจะเป็นต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
โดยปกติแล้วประกันชั้น 1 จะให้คุ้มครองค่าเสียหาย/ค่าซ่อม ทั้งคุณและผู้กรณีทั้งหมด (ตามที่กรมธรรม์ระบุ)
ความคุ้มครองเหมือนประกันชั้น 1 คือ คุ้มครองค่าเสียหาย/ค่าซ่อม ทั้งคุณและผู้กรณีทั้งหมด (ตามที่กรมธรรม์ระบุ) แต่คุณจะต้องสามารถระบุคู่กรณีได้และคู่กรณีจะต้องเป็นรถยนต์เท่านั้น ถึงจะได้รับความคุ้มครองค่าซ่อมรถของคุณ
จะคุ้มครองเฉพาะจ่ายค่าเสียหาย/ค่าซ่อมให้กับผู้กรณีที่โดนชน ส่วนรถของคุณจะต้องดูแลค่าเสียหาย/ค่าซ่อมด้วยตัวเอง
หากคุณเป็นฝ่ายถูก แน่นอนว่า ในส่วนค่าเสียหายของรถนั้นทางคู่กรณีต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ส่วนการตกลงค่าเสียหายควรให้ทางประกันเป็นผู้ดำเนินการตกลงกับคู่กรณีให้ เพื่อไม่ให้เราเสียเปรียบ และควรลงบันทึกประจำวันไว้ เผื่อมีปัญหาตามมาภายหลัง
ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะในทางกฎหมายประกันรถยนต์ถือเป็นการทำโดยสมัครใจ ตามแต่ความต้องการของเจ้าของรถว่าจะอยากทำประกันเพื่อคุ้มครองรถยนต์ตนเองหรือไม่
เมื่อรถยนต์ที่ไม่มีประกันคุ้มครองจะมีเรื่องยุ่งยากกว่า เพราะว่าการตกลงค่าเสียหายต่าง ๆ จะต้องตกลงเองและคุณจะต้องเป็นผู้ชดใช้ทั้งหมด ซึ่งนอกจากค่าซ่อมรถแล้วยังรวมถึงค่ารักษาพยาบาลอีกด้วย ฉะนั้นการมีประกันรถยนต์เอาไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน อย่าลืมเช็กวันหมดอายุประกัน และสามารถต่ออายุประกันออนไลน์ได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ผ่าน insurverse.co.th
คุณมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย โดยให้คู่กรณีชดใช้เงินค่าซ่อมและค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บได้ตามค่าใช้จ่ายจริง
ประกันจะไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถ ส่วนความเสียหายของบุคคลภายนอก เช่น ชีวิต ,ทรัพย์สิน และร่างกาย ประกันยังคงต้องรับผิดชอบตามกรมธรรม์กำหนด
เมื่อใดที่เป็นฝ่ายถูกก็ถือว่าหมดกังวลได้เลย เพราะอย่างไรก็สามารถเรียกร้องให้ประกันภัยของคู่กรณีเป็นผู้รับผิดชอบซ่อมรถ/ค่าเสียหาย/ค่ารักษาพยาบาลให้คุณได้เสมอ
ประกันภัยจะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดจากการใช้ของการขับขี่คนใดก็ได้ ที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถหรือเจ้าของกรมธรรม์ โดยเจ้าของกรมธรรม์ไม่จำเป็นต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรก
ถึงแม้ว่าความรับผิดหรือความเสียหายได้เกิดขึ้นในขณะที่มีผู้ขับขี่คนอื่นซึ่งได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยยินยอมแล้วก็ตาม แต่หากบุคคลผู้นั้นไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยจะต้องเข้ามารับผิดในความเสียหายส่วนแรกเอง ดังนี้
หากรถคันหน้านั้นขับขี่ด้วยความประมาท มีอาการมึนเมา หรืออยู่สภาพที่ไม่พร้อม โดยต้องพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากสาเหตุเหล่านั้นจริง คุณจะเป็นฝ่ายถูกและได้รับค่าชดเชยค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากอุบัติเหตุ ฉะนั้นการติดกล้องหน้ารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
สรุป
ขับรถชนท้ายกันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้เสมอ บางครั้งอาจมีเหตุสุดวิสัย แต่ถ้ามีประกันรถยนต์แล้วเกิดขับรถไปชนท้ายคันอื่น อย่างน้อยก็ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าซ่อมรถคู่กรณีเพราะยังไงประกันรถยนต์ก็ให้ความคุ้มครอง แต่ถ้าไม่มีประกันรถยนต์คุ้มครองเลย ก็ต้องจ่ายค่าซ่อมเองทุกบาททุกสตางค์ ใครยังมองหาบริษัทที่จะต่อประกันรถยนต์ ลองเช็กราคาที่ insurverse.co.th ระบบจะเสนอประกันรถที่เหมาะกับคุณมากที่สุดให้
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ไม่อยากเสียสิทธิ์ต้องรีบเช็คสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ใครลงทะเบียนได้บ้าง insurverse พร้อมบอกรายละเอียดขั้นตอนการเตรียมตัวแบบเจาะลึก จบทุกประเด็น
แนะนำกันไปเลย 10 แอพแต่งรูปที่จะทำให้รูปคุณสวยแบบพี่สาวจีน เที่ยวที่ไหนก็มีแต่รูปสวย เหมือนพกช่างภาพส่วนตัวไปแต่งรูปให้ในทุกที่!
เช็คสิทธิ์รับเงินดิจิตอลเฟส 2 ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดูรายละเอียดล่าสุดเกี่ยวกับ digital wallet 10,000 บาทได้ที่นี่