vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ขั้นตอนและข้อมูลที่ต้องรู้สำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

ขั้นตอนและข้อมูลที่ต้องรู้สำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

schedule
share

การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน รอบใหม่ปี 2568 กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมาก เพราะครั้งนี้มาพร้อมกับการทบทวนเกณฑ์และคุณสมบัติใหม่ที่ค่อนข้างละเอียด เพื่อให้ผู้ที่มีรายได้น้อยจริง ๆ ได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือจากรัฐอย่างทั่วถึง โดยกระทรวงการคลังได้กำหนดกรอบเวลาการลงทะเบียนไว้ในเดือนมีนาคม 2568 เรามาเจาะลึกกันว่ามีอะไรที่ต้องเตรียมตัว และข้อมูลสำคัญที่หลายคนอาจยังไม่รู้

การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำได้ที่ไหน?

รอบนี้กระทรวงการคลังได้เพิ่มความสะดวกให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งในระบบ iOS และ Android วิธีการลงทะเบียนก็ง่ายดาย ดังนี้

  1. ดาวน์โหลดแอป “ทางรัฐ”
  2. สมัครสมาชิกและยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน
  3. ตั้งรหัสผ่านและ PIN Code เพื่อความปลอดภัย
  4. เลือกหมวด “สวัสดิการแห่งรัฐ” แล้วกดลงทะเบียน
  5. รอการแจ้งเตือนยืนยันสิทธิ์จากระบบ

นอกจากนี้ หากใครไม่สะดวกใช้แอปพลิเคชัน ยังสามารถลงทะเบียนได้ที่หน่วยงานราชการในพื้นที่ใกล้บ้าน เช่น สำนักงานคลังประจำจังหวัด ธนาคารกรุงไทย หรือศูนย์บริการประชาชนต่าง ๆ

ในยุคที่การลงทะเบียนและตรวจสอบสถานะสิทธิ์ทำได้ง่ายดายผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับการต่อภาษีรถยนต์ที่ต้องใช้ พ.ร.บ. รถยนต์ การเลือกซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ ผ่าน insurverse จะช่วยให้คุณมั่นใจในความถูกต้อง เพราะรายชื่อจะอัปเดตในระบบกรมขนส่งโดยตรง นำไปต่อภาษีออนไลน์ได้เลยทันที

ใครบ้างที่ได้สิทธิ์ลงทะเบียน?

การลงทะเบียนครั้งนี้แบ่งกลุ่มผู้ลงทะเบียนออกเป็นสองกลุ่มหลัก

1. กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ผู้ที่เคยได้รับสิทธิ์ประมาณ 14.5 ล้านคน ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ แต่กระทรวงการคลังจะนำรายชื่อไปคัดกรองคุณสมบัติใหม่อีกครั้ง หากผ่านเกณฑ์จะได้รับสิทธิต่อเนื่องทันที

2. กลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่ ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์มาก่อน เช่น “กลุ่มเปราะบาง” หรือคนที่เพิ่งมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ รวมถึงผู้ที่อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มใหม่นี้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 ล้านคน

เกณฑ์คุณสมบัติสำหรับการลงทะเบียน

การตรวจสอบคุณสมบัติครั้งนี้มีการเพิ่มเงื่อนไขให้ละเอียดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าคนที่ได้รับสิทธิ์คือผู้ที่จำเป็นจริง ๆ โดยเกณฑ์เบื้องต้นมีดังนี้

  • สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
  • รายได้ส่วนบุคคล ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • รายได้เฉลี่ยครัวเรือน ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
  • ทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝาก สลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ รวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
  • อสังหาริมทรัพย์ หากมีกรรมสิทธิ์ต้องไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ห้องชุดไม่เกิน 35 ตร.ม. ที่ดินไม่เกิน 1 ไร่สำหรับการอยู่อาศัย หรือ 10 ไร่สำหรับการเกษตร
  • ไม่มีหนี้สินสูงเกินเกณฑ์ เช่น หนี้บ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และหนี้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท
  • ไม่มีบัตรเครดิต
  • ไม่เป็นบุคคลในกลุ่มยกเว้น เช่น ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จบำนาญ หรือพระภิกษุสงฆ์

วงเงินที่ได้รับจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เมื่อผ่านการลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์แล้ว คุณจะได้รับวงเงินช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งยังคงคล้ายกับรอบก่อนหน้านี้ ได้แก่

  • วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคน ต่อ 3 เดือน
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
  • ค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
  • ค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

รวมวงเงินช่วยเหลือต่อคนสูงสุด 1,545 บาทต่อเดือน

การตรวจสอบสถานะสิทธิ์

หลังการลงทะเบียน คุณสามารถตรวจสอบสถานะสิทธิ์ได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ “welfare.mof.go.th” โดยมีขั้นตอนดังนี้:

  1. เข้าเว็บไซต์ “welfare.mof.go.th”
  2. กรอกหมายเลขบัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิด
  3. กด “ตรวจสอบข้อมูล”
  4. ระบบจะแสดงสถานะสิทธิ์ว่าคุณได้รับการอนุมัติหรือไม่

หากได้รับสิทธิ์ คุณต้องไปยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทยภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้สิทธิ์ถูกยกเลิก

ประเด็นที่หลายคนอาจยังไม่รู้

  1. กลุ่มผู้ที่ไม่ยืนยันตัวตนจะถูกตัดสิทธิ์ ปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับสิทธิ์ประมาณ 1 ล้านคนที่ยังไม่ยืนยันตัวตน หากไม่ดำเนินการภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 สิทธิ์จะถูกยกเลิกทันที
  2. สิทธิ์ไม่สามารถโอนย้ายได้ สิทธิ์จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นสิทธิ์เฉพาะตัว ไม่สามารถโอนให้บุคคลอื่นได้ แม้จะเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันก็ตาม
  3. การตรวจสอบรายได้ของครอบครัว รอบนี้มีการเพิ่มการตรวจสอบรายได้ของครอบครัว เพื่อป้องกันการลงทะเบียนแบบไม่โปร่งใส เช่น หากผู้ลงทะเบียนเป็นแม่บ้านแต่สามีมีรายได้เกินเกณฑ์ ผู้ลงทะเบียนจะไม่ผ่านคุณสมบัติ
  4. การอัปเดตข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลจะใช้ระบบเชื่อมโยงข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การตรวจสอบคุณสมบัติมีความถูกต้องและครอบคลุมมากขึ้น
  5. การพิจารณารายได้จากค่าแรงขั้นต่ำ รอบนี้มีการพิจารณาปรับเกณฑ์รายได้จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ซึ่งอาจทำให้บางกลุ่มหลุดจากเกณฑ์เปราะบาง

การพิจารณารายได้ขั้นต่ำหรือการปรับเกณฑ์คุณสมบัติเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับ insurverse ที่ออกแบบให้สามารถซื้อล่วงหน้าได้ 1 ปี ช่วยให้คุณวางแผนต่อ พ.ร.บ. ล่วงหน้าแบบไม่ต้องกังวลว่าจะหมดอายุในช่วงเวลาสำคัญ อย่าลืม เช็กเบี้ย พ.ร.บ รถยนต์ ที่ insurverse เพื่อมั่นใจว่าจะต่อภาษีทัน

การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปี 2568 ไม่ได้เป็นเพียงการขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือจากรัฐ แต่ยังสะท้อนถึงการจัดการข้อมูลประชาชนให้แม่นยำยิ่งขึ้น การเตรียมตัวให้พร้อมและเข้าใจขั้นตอนทั้งหมดจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมตรวจสอบคุณสมบัติและติดตามกำหนดการลงทะเบียนให้ดี เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ์ที่ควรได้รับ

5 คำถามที่พบบ่อย 

ผู้ถือบัตรเดิมต้องลงทะเบียนใหม่หรือไม่?

ไม่ต้อง หากคุณสมบัติยังผ่านเกณฑ์ กระทรวงการคลังจะคัดกรองสิทธิ์ให้อัตโนมัติ แต่หากคุณสมบัติเปลี่ยนไป สิทธิ์จะถูกตัดออก

ใครบ้างที่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้?

กลุ่มใหม่ เช่น คนที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์มาก่อน หรือผู้ที่อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ในปี 2568

คุณสมบัติที่สำคัญมีอะไรบ้าง?

ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทรัพย์สินทางการเงินไม่เกิน 100,000 บาท ไม่มีบัตรเครดิต หรือกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินเกินเกณฑ์

ต้องยืนยันตัวตนอย่างไร?

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ต้องยืนยันตัวตนผ่านธนาคารกรุงไทย หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด สิทธิ์จะถูกยกเลิก

ใช้สิทธิ์อะไรได้บ้าง?

เช่น ค่าสินค้า 300 บาท ค่าขนส่งสาธารณะ 750 บาท ค่าไฟ 315 บาท และค่าน้ำ 100 บาทต่อเดือน

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย