vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
Swiss Travel Pass บัตรเดียวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์แบบไร้ขีดจำกัด

Swiss Travel Pass บัตรเดียวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์แบบไร้ขีดจำกัด

schedule
share

Swiss Travel Pass เป็นบัตรเดินทางที่ช่วยให้การท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์สะดวกขึ้นแบบสุด ๆ เพราะใช้ขึ้นรถไฟ รถบัส เรือ และกระเช้าไฟฟ้าได้ไม่จำกัดในระยะเวลาที่เลือก ไม่ว่าจะ 3, 4, 6, 8 หรือ 15 วันติดกัน แถมยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กว่า 500 แห่งฟรี รวมถึงสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกเพียบ เรียกได้ว่าซื้อบัตรเดียวแล้วเที่ยวได้ทั่วประเทศแบบสบายใจสุด ๆ

แต่ไม่ว่าจะแพลนเที่ยวแบบไหน ก็อย่าลืมให้ ประกันเดินทาง เป็นไอเท็มสำคัญติดตัวไว้ เพราะอุบัติเหตุและเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ insurverse ให้คุณเที่ยวสบายใจในราคาสุดคุ้ม เริ่มต้นเพียง 59 บาทต่อทริป พร้อมคุ้มครองทุกจุดหมายทั่วโลก

ความแตกต่างระหว่าง Consecutive Pass และ Flexible Pass

Swiss Travel Pass มีให้เลือกสองประเภทคือ Consecutive Pass และ Flexible Pass ซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องการใช้งาน ใครที่เดินทางแบบจัดเต็มทุกวันควรเลือก Consecutive Pass ส่วนใครที่อยากเที่ยวแบบมีวันพักหรือเดินทางแบบไม่ต่อเนื่องต้องดู Flexible Pass ให้ดี

  • Consecutive Pass เป็นบัตรที่ใช้เดินทางได้ทุกวันต่อเนื่องกันตามจำนวนวัน เช่น ถ้าเลือกแบบ 6 วัน ก็ต้องใช้ 6 วันติดกันแบบไม่มีเว้น เหมาะกับคนที่เดินทางข้ามเมืองทุกวัน
  • Flexible Pass เลือกวันเดินทางได้เองภายใน 1 เดือน เช่น ถ้าซื้อแบบ 4 วัน ก็สามารถเลือกใช้ 4 วันใดก็ได้ภายใน 30 วัน เหมาะกับสายเที่ยวชิลล์ ๆ ที่ต้องการอยู่แต่ละเมืองนาน ๆ

Swiss Travel Pass ใช้กับอะไรได้บ้าง

Swiss Travel Pass ครอบคลุมการเดินทางหลากหลายรูปแบบทั่วสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ เรือ รถบัส รถราง กระเช้าไฟฟ้า และยังให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกมากมาย เหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องคอยซื้อตั๋วทุกครั้ง แค่ถือบัตรนี้ไว้ก็เดินทางได้อย่างอิสระ

  • รถไฟทุกประเภท สามารถใช้กับรถไฟของเครือข่าย SBB (Swiss Federal Railways) ได้ทั้งหมด รวมถึง รถไฟระหว่างเมือง รถไฟด่วน และรถไฟท้องถิ่น เช่น
    • เส้นทางยอดนิยม ซูริก-ลูเซิร์น, อินเตอร์ลาเคน-เซอร์แมท, เบิร์น-เจนีวา
    • รถไฟด่วนพิเศษที่มีวิวสวยที่สุดในโลก เช่น GoldenPass, Luzern-Interlaken Express
  • รถไฟพาโนรามา สามารถใช้ได้กับรถไฟชมวิวชื่อดังหลายสาย แต่บางเส้นทางต้องจองที่นั่งล่วงหน้า เช่น
    • Glacier Express – เส้นทางยอดนิยมที่เชื่อม เซอร์แมท-เซนต์มอริตซ์ วิวอลังการ
    • Bernina Express – รถไฟที่ไต่ผ่านเทือกเขาแอลป์จาก สวิตเซอร์แลนด์ไปอิตาลี
    • Gotthard Panorama Express – เส้นทางที่ผสมการเดินทางด้วยเรือจาก ลูเซิร์นไปลูกาโน
  • เรือโดยสารข้ามทะเลสาบ สามารถใช้ขึ้นเรือโดยสารในทะเลสาบสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์ได้ฟรี เช่น
    • Lake Geneva – เที่ยวรอบทะเลสาบเจนีวาพร้อมวิวสุดโรแมนติก
    • Lake Lucerne – เส้นทางไฮไลต์ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังภูเขาริกิและพิลาทุส
    • Lake Thun & Lake Brienz – เดินทางเชื่อมเมืองอินเตอร์ลาเคนไปยังปราสาท Oberhofen
  • รถบัสและรถรางในเมือง ใช้ได้กับระบบขนส่งสาธารณะในเมืองหลักทั่วประเทศ เช่น ซูริก, ลูเซิร์น, เจนีวา, อินเตอร์ลาเคน, โลซานน์ ช่วยให้การเดินทางในเมืองสะดวกยิ่งขึ้น
  • กระเช้าไฟฟ้าและรถไฟขึ้นเขา Swiss Travel Pass ยังให้สิทธิ์เดินทางขึ้นเขาฟรีในบางเส้นทาง เช่น
    • Rigi, Stoos, และ Stanserhorn – ฟรี! ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
    • Jungfraujoch, Titlis, Matterhorn Glacier Paradise – ได้ส่วนลดพิเศษสูงสุด 50%

บัตรนี้ยังใช้กับ รถไฟและรถบัสบางเส้นทางที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อิตาลี เยอรมนี และลิกเตนสไตน์ ทำให้เดินทางระหว่างประเทศได้อย่างคุ้มค่า

ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าหรือไม่

  • รถไฟทั่วไป ไม่ต้องจองที่นั่ง แค่โชว์บัตร Swiss Travel Pass ก็ขึ้นได้เลย
  • รถไฟพาโนรามา อย่าง Glacier Express, Bernina Express ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า เพราะที่นั่งมีจำนวนจำกัด และมักเต็มเร็ว โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น
  • กระเช้าไฟฟ้าและรถไฟขึ้นภูเขา บางแห่งต้องจองแยกและจ่ายเพิ่ม เช่น Jungfraujoch หรือ Matterhorn Glacier Paradise

วิธีใช้งาน Swiss Travel Pass

Swiss Travel Pass ใช้งานง่ายมาก เพราะเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับทางอีเมลทันทีหลังซื้อ สามารถโชว์ QR Code บนมือถือให้เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วดูได้เลย หากเป็น Flexible Pass ต้องกรอกวันที่จะใช้ก่อนขึ้นรถไฟ แต่ถ้าเป็น Consecutive Pass จะเริ่มนับวันอัตโนมัติตามวันที่ระบุไว้ตอนซื้อตั๋ว

สิทธิพิเศษที่หลายคนไม่รู้

นอกจากการใช้เดินทางอย่างไม่จำกัดแล้ว Swiss Travel Pass ยังให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมที่ช่วยให้การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์คุ้มค่ากว่าเดิม

  • เข้าพิพิธภัณฑ์กว่า 500 แห่งฟรี!
    ถ้าคุณชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ หรืออยากเรียนรู้วัฒนธรรมสวิตเซอร์แลนด์ Swiss Travel Pass ให้สิทธิ์เข้าชมพิพิธภัณฑ์หลายแห่งฟรี เช่น
    • Swiss Museum of Transport (ลูเซิร์น) – พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
    • Château de Chillon (มองเทรอซ์) – ปราสาทเก่าแก่ริมทะเลสาบที่มีวิวสวยมาก
    • Ballenberg Open-Air Museum – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จำลองหมู่บ้านโบราณของสวิตเซอร์แลนด์
  • ส่วนลดการเดินทางขึ้นเขาสูงสุด 50%
    • Jungfraujoch – ขึ้นยอดเขายุโรปสุดฮิตได้ในราคาพิเศษ
    • Titlis – กระเช้า 360 องศา วิวสุดอลัง
    • Gornergrat – จุดชมวิว Matterhorn ที่ดีที่สุด
    • Schilthorn – ตามรอยหนังเจมส์ บอนด์ 007
  • ใช้นั่งเรือฟรีในหลายเส้นทาง
    นักเดินทางที่ชอบบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ สามารถใช้ Swiss Travel Pass นั่งเรือเที่ยวทะเลสาบต่าง ๆ ได้ฟรี เช่น ลูเซิร์น, เจนีวา, อินเตอร์ลาเคน
  • เดินทางฟรีไปเมืองชายแดน
    หลายคนอาจไม่รู้ว่า Swiss Travel Pass ใช้เดินทางไปบางเมืองในประเทศเพื่อนบ้านได้ฟรี เช่น
    • Domodossola (อิตาลี) – เมืองตลาดสุดน่ารักที่สามารถนั่งรถไฟจากสวิตเซอร์แลนด์ไปได้
    • Vaduz (ลิกเตนสไตน์) – เมืองหลวงของประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับสวิตเซอร์แลนด์
  • ใช้กับเส้นทางรถไฟสายเก่าแก่สุดคลาสสิก
    บัตรนี้ให้สิทธิ์เดินทางฟรีกับเส้นทางรถไฟสายคลาสสิกบางแห่งที่เป็นไฮไลต์ของประเทศ เช่น Furka Steam Railway, Pilatus Railway

Swiss Pass ซื้อที่ไหน

สามารถซื้อ Swiss Travel Pass ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น

  • เว็บไซต์ SBB (Swiss Federal Railways)
  • เว็บไซต์ตัวแทนจำหน่าย เช่น Klook หรือ Rail Europe
  • ซื้อที่สถานีรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์ (แต่แนะนำให้ซื้อออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อความสะดวก)

เมื่อลงทะเบียนซื้อบัตรแล้ว จะได้รับตั๋วเป็นแบบดิจิทัล ส่งเป็น PDF พร้อม QR Code สามารถใช้ผ่านมือถือหรือปริ้นออกมาก็ได้

Swiss Pass ชั้น 1 ชั้น 2 ต่างกันอย่างไร

Swiss Travel Pass มีให้เลือกทั้ง ชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งมีความแตกต่างกันเรื่องความสะดวกสบายและบริการที่ได้รับ

  • ชั้น 1 มีที่นั่งกว้างกว่า แถวที่นั่งมีเพียง 3 ที่ต่อแถว (2+1) ทำให้มีพื้นที่เยอะกว่า คนใช้งานน้อยกว่า และเงียบกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
  • ชั้น 2 มีที่นั่ง 4 ที่ต่อแถว (2+2) พื้นที่อาจแคบกว่า แต่ยังสะดวกสบาย และราคาถูกกว่าชั้น 1 มาก

สำหรับรถไฟพาโนรามา เช่น Glacier Express หรือ Bernina Express ที่นั่งชั้น 1 จะอยู่โซนที่มองเห็นวิวได้กว้างกว่าและมีพื้นที่มากขึ้น

วิธีเลือกซื้อให้คุ้มที่สุด

การเลือกซื้อ Swiss Travel Pass ให้คุ้มค่าต้องดูว่าแพลนเที่ยวของตัวเองเป็นแบบไหน ถ้าต้องเดินทางบ่อยและใช้ขนส่งสาธารณะเยอะ การซื้อแบบ Consecutive Pass คุ้มกว่า แต่ถ้าอยากเดินทางแบบมีวันพัก Flexible Pass อาจจะเหมาะกว่า หรือถ้าเดินทางไม่บ่อย ลองดู Swiss Half Fare Card ที่ให้ส่วนลด 50% บนระบบขนส่งแทนได้

Swiss Travel Pass เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้การเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ง่ายและคุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเดินทางข้ามเมือง นั่งรถไฟพาโนรามา หรือล่องเรือในทะเลสาบ เพียงแค่ถือบัตรนี้ ก็สามารถเที่ยวได้อย่างไร้กังวล แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการ เช็กเบี้ยประกันเดินทาง ไว้ก่อนออกทริป insurverse ให้คุณออกเดินทางแบบไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล กระเป๋าหาย หรือไฟล์ทดีเลย์ สนุกกับทริปได้เต็มที่ เพราะมีทีมซัพพอร์ต 24 ชั่วโมง ดูแลคุณทุกจุดหมายปลายทาง

5 คำถามที่พบบ่อย

Swiss Travel Pass ใช้กับสนามบินได้ไหม?

Swiss Travel Pass ใช้ได้กับ รถไฟที่เชื่อมต่อสนามบินหลักของสวิตเซอร์แลนด์ เช่น สนามบินซูริก (ZRH) และสนามบินเจนีวา (GVA) โดยสามารถขึ้นรถไฟจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองหรือเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ได้ฟรีผ่านระบบ SBB

สามารถใช้ Swiss Travel Pass กับรถไฟที่ออกนอกสวิตเซอร์แลนด์ได้หรือไม่?

Swiss Travel Pass ครอบคลุมเส้นทางบางเส้นที่เชื่อมต่อไปยัง อิตาลี เยอรมนี และลิกเตนสไตน์ เช่น

  • Domodossola (อิตาลี) – เส้นทางรถไฟที่ออกจากบริก (Brig)
  • Vaduz (ลิกเตนสไตน์) – สามารถใช้กับรถบัสจากสวิตเซอร์แลนด์เข้าไปได้
  • Basel (เยอรมนี-ฝรั่งเศส) – ใช้ได้กับสถานี Basel SBB ที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

สามารถใช้ Swiss Travel Pass เดินทางตอนกลางคืนได้ไหม?

ใช้ได้! Swiss Travel Pass มีอายุจนถึง 05:00 น. ของวันถัดไป ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณขึ้นรถไฟรอบดึกก่อนเที่ยงคืน บัตรยังคงใช้ได้จนกว่ารถไฟจะถึงปลายทาง หรือจนถึงเวลาสิ้นสุดของบัตร

เด็กต้องใช้ Swiss Travel Pass ไหม หรือเดินทางฟรี?

เด็กอายุ 0-5 ปี เดินทางฟรีโดยไม่ต้องใช้บัตรใด ๆ ส่วนเด็กอายุ 6-15 ปี สามารถเดินทางฟรีได้หากมี Swiss Family Card ซึ่งสามารถขอเพิ่มได้ฟรีเมื่อซื้อ Swiss Travel Pass ของผู้ใหญ่

สามารถซื้อ Swiss Travel Pass ในนาทีสุดท้ายที่สถานีได้ไหม?

สามารถซื้อที่สถานีรถไฟได้ แต่ แนะนำให้ซื้อออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและมั่นใจว่ามีบัตรพร้อมใช้งานทันที โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ และบางโปรโมชันอาจมีเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย