vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งภูเขา ธรรมชาติ และเมืองสวยระดับโลก

สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งภูเขา ธรรมชาติ และเมืองสวยระดับโลก

schedule
share

คิดจะเที่ยวทั้งที ทำไมต้องธรรมดา? สวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่แค่ประเทศที่มีภูเขาหิมะ แต่คือแลนด์มาร์กแห่งความเป๊ะปัง ธรรมชาติสุดอลังและวัฒนธรรมที่ทำให้ใจละลาย ใครชอบวิวสุดปัง น้ำตกอลังการ หรือหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากโปสต์การ์ด คุณอาจต้องรีบลิสต์จุดเช็กอินในสวิตเซอร์แลนด์ไว้แบบด่วน ๆ เพราะแต่ละที่นี่แหละที่ทำให้คนตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น

10 สถานที่ท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์

1. ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch)

สถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็น “Top of Europe” ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาแอลป์ และสูงถึง 3,454 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไฮไลต์ของจุงเฟราคือสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป คุณจะได้สัมผัสกับธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ซึ่งยาวถึง 22 กิโลเมตร และยังเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของ UNESCO อีกด้วย ถ้าชอบความแอดเวนเจอร์ ที่นี่มีอุโมงค์น้ำแข็งและกิจกรรมสโนว์ฟันให้ลอง

2. ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva)

ทะเลสาบที่ใหญ่อันดับสองของยุโรปตะวันตก จุดเด่นคือรูปร่างของทะเลสาบที่คล้ายดวงพระจันทร์เสี้ยว มีวิวภูเขาและเมืองเล็ก ๆ รายล้อมรอบทะเลสาบ เช่น เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) ที่โด่งดังเรื่องเทศกาลดนตรีแจ๊ส และเมืองโลซานน์ (Lausanne) ที่มีพิพิธภัณฑ์โอลิมปิกซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิกครบทุกมิติ

3. มัทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn)

ยอดเขาไอคอนของสวิตเซอร์แลนด์ รูปทรงพีระมิดที่สวยงามแห่งนี้สูง 4,478 เมตร เป็นหนึ่งในจุดปีนเขาที่ท้าทายที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านเซอร์แมท (Zermatt) อยู่ใกล้ ๆ ที่นี่ไม่มีรถยนต์วิ่ง ทำให้อากาศสดชื่น และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการนั่งรถไฟ Gornergrat Bahn ที่พาคุณขึ้นไปชมวิวพาโนรามาของยอดเขาได้แบบจัดเต็ม

ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์นขึ้นชื่อเรื่องความท้าทายและวิวอลังการ แต่ความสูง 4,478 เมตร มาพร้อมความเสี่ยงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากเกิดอุบัติเหตุขณะเที่ยวเขา ประกันเดินทางต่างประเทศ จาก insurverse ที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยดูแลคุณในสถานการณ์ไม่คาดฝัน

4. สะพานชาเปล (Chapel Bridge)

สะพานไม้โบราณในเมืองลูเซิร์น (Lucerne) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1333 ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ไฮไลต์อยู่ที่ภาพวาดใต้หลังคาของสะพานที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์น นอกจากนี้ยังมีหอคอยน้ำ (Water Tower) ที่ตั้งอยู่กลางสะพานซึ่งเคยใช้เป็นคุกและคลังเก็บสมบัติในอดีต

5. น้ำตกไรน์ (Rhine Falls)

น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ระหว่างเมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) และเมืองซูริก น้ำตกมีความกว้างถึง 150 เมตร และสูง 23 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปชมใกล้ ๆ น้ำตก หรือขึ้นจุดชมวิวบนปราสาท Laufen ที่มองเห็นน้ำตกแบบเต็มตา ใครที่มาในช่วงหน้าร้อนจะได้เห็นปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากหิมะที่ละลาย

น้ำตกไรน์ไม่เพียงแค่ใหญ่ที่สุดในยุโรป แต่ยังมีความสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก การล่องเรือใกล้น้ำตกอาจทำให้คุณต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น อุปกรณ์พังหรือกระเป๋าเปียก อย่าลืม เช็กเบี้ยประกันเดินทางจาก insurverse เพื่อให้คุณสนุกกับประสบการณ์โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความเสียหาย

6. หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen)

หมู่บ้านในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชันและน้ำตกกว่า 72 แห่ง หนึ่งในน้ำตกที่โดดเด่นคือ Staubbach Falls ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงถึง 300 เมตร หมู่บ้านนี้ยังเป็นทางเข้าของยอดเขา Schilthorn ที่มีร้านอาหาร Piz Gloria ซึ่งเคยเป็นฉากในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์

7. เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken)

เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบบริเอนซ์ (Lake Brienz) เมืองนี้เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น พาราไกลด์ดิ้ง เดินป่า และล่องเรือในทะเลสาบ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปยังยอดเขา Jungfraujoch อีกด้วย

8. เมืองเบิร์น (Bern)

เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO จุดเด่นคือหอนาฬิกา Zytglogge ซึ่งมีอายุกว่า 800 ปี และระบบกลไกนาฬิกาที่ยังใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีตลาดขายของท้องถิ่นและร้านค้าที่ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ในเขตเมืองเก่า

9. ธารน้ำแข็งอาเล็ทช์ (Aletsch Glacier)

ธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 23 กิโลเมตร จุดชมวิวที่ดีที่สุดคือบริเวณ Eggishorn ซึ่งสามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งและภูมิประเทศโดยรอบ ธารน้ำแข็งแห่งนี้ยังมีความสำคัญต่อระบบนิเวศของยุโรป เพราะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุด

10. สวนสาธารณะซิกริสวิล (Sigriswil Panorama Bridge)

สะพานแขวนยาว 340 เมตรในเขตทะเลสาบทูน เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตเพราะมีวิวที่ตัดระหว่างทะเลสาบและภูเขาเบิร์นีสแอลป์ นอกจากนี้สะพานยังเชื่อมเส้นทางเดินป่าที่ทอดผ่านธรรมชาติสวย ๆ เหมาะสำหรับคนรักการเดินทางแบบใกล้ชิดธรรมชาติ

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Switzerland-4978923_1280.jpg

10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์

สวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้มีแค่หิมะ

ถึงแม้ภาพจำของสวิตเซอร์แลนด์จะเต็มไปด้วยภูเขาหิมะและลานสกี แต่ความจริงคือที่นี่มีอากาศอบอุ่นในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในเมืองอย่างลูเซิร์นหรือเจนีวา อุณหภูมิกลางวันอาจขึ้นไปถึง 25 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ช่วงนี้เหมาะสำหรับการปีนเขา พายเรือในทะเลสาบ หรือปิกนิกริมแม่น้ำ

รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ใช่แค่การเดินทาง

การนั่งรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องลอง ไม่ว่าจะเป็น Glacier Express ที่ได้ฉายาว่า “รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก” หรือ Bernina Express ที่พาดผ่านวิวธารน้ำแข็งและหุบเขา แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ คุณสามารถใช้ Swiss Travel Pass ซื้อตั๋วแบบเหมาจ่ายและขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัด รวมถึงรถเมล์และเรือด้วย

น้ำพุในเมือง ดื่มได้จริง

สวิตเซอร์แลนด์มีน้ำพุสาธารณะอยู่ทั่วประเทศ และน้ำในน้ำพุเหล่านี้สะอาดจนสามารถดื่มได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้น บางแห่งยังมีดีไซน์เก๋ไก๋จนเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต เช่น น้ำพุในเมืองซูริคและลูเซิร์น แต่ถ้าเจอน้ำพุที่มีป้าย “ไม่ควรดื่ม” ก็อย่าพุ่งไปลิ้มลองนะ

ค่าใช้จ่ายสูง แต่มีทางเซฟ

สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องค่าครองชีพที่สูง แต่ถ้าอยากประหยัดก็ไม่ใช่เรื่องยาก ลองแวะซื้ออาหารในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Coop หรือ Migros ที่มีชุดอาหารพร้อมทานในราคาประหยัด หรือจะเลือกพักโฮสเทลที่มีครัวให้ใช้ก็ช่วยลดค่าอาหารได้เยอะ

ภาษามีหลายสำเนียง

สวิตเซอร์แลนด์มีภาษาราชการถึง 4 ภาษา ได้แก่ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และโรมานซ์ เมืองใหญ่ ๆ มักใช้ภาษาเยอรมัน แต่ถ้าคุณเดินทางไปเจนีวาจะได้ยินภาษาฝรั่งเศส ส่วนในลูกาโนเป็นภาษาอิตาลี ฟังดูหลากหลาย แต่ทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก

ปลั๊กไฟแบบสามขา

ปลั๊กไฟในสวิตเซอร์แลนด์เป็นแบบ Type J ซึ่งมีสามขาและไม่เหมือนกับประเทศอื่นในยุโรป อย่าลืมพกอะแดปเตอร์ติดตัวไปด้วย เพื่อให้ชาร์จแบตอุปกรณ์ได้แบบไม่สะดุด

ไม่ต้องให้ทิป

การให้ทิปในร้านอาหารหรือคาเฟ่ไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะค่าบริการได้รวมอยู่ในบิลแล้ว แต่ถ้าคุณอยากให้เพราะบริการดีจริง ก็ถือเป็นเรื่องน่ารักที่พนักงานจะชื่นชอบ

อากาศเปลี่ยนไวมาก

การเดินทางไปเที่ยวภูเขาอย่างแมทเทอร์ฮอร์นหรือจุงเฟรา ควรเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บางครั้งคุณอาจเริ่มต้นวันด้วยแดดจ้า แต่จบวันด้วยหิมะตก อย่าลืมพกแจ็กเก็ตกันลมและเสื้อผ้ากันฝนติดกระเป๋า

สวิตเซอร์แลนด์รักธรรมชาติ

ที่นี่มีกฎหมายคุ้มครองธรรมชาติอย่างเคร่งครัด ห้ามเก็บดอกไม้ป่า ห้ามทิ้งขยะในป่า หรือแม้แต่ให้อาหารสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ใครที่รักธรรมชาติและอยากสัมผัสความสวยงามแบบแท้จริง ต้องเคารพกฎระเบียบเหล่านี้

เวลาเปิด-ปิดร้านค้าไม่เหมือนที่อื่น

ร้านค้าในสวิตเซอร์แลนด์มักปิดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองเล็ก ๆ ร้านส่วนใหญ่จะปิดประมาณ 6 โมงเย็น และในวันอาทิตย์ร้านแทบทั้งหมดจะปิด ดังนั้น วางแผนช้อปปิ้งให้ดี ไม่งั้นอาจพลาดซื้อของที่อยากได้

5 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์

ควรไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ช่วงเดือนไหนถึงจะดีที่สุด?

ช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปีนเขาและพายเรือ ส่วนฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม) เหมาะกับการเล่นสกีและชมวิวหิมะ

ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างในการสมัครวีซ่าท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์?

เอกสารสำคัญ ได้แก่ พาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน รูปถ่ายตามมาตรฐาน สเตทเมนต์การเงินย้อนหลัง 6 เดือน ประกันเดินทาง และเอกสารจองที่พัก

สามารถใช้ Swiss Travel Pass ในการเดินทางอะไรได้บ้าง?

Swiss Travel Pass ใช้เดินทางได้ทั้งรถไฟ รถบัส และเรือ รวมถึงเข้าชมพิพิธภัณฑ์บางแห่งฟรี

ควรแลกเงินฟรังก์สวิส (CHF) ล่วงหน้าหรือใช้บัตรเครดิตดีกว่า?

ควรแลกเงินฟรังก์สวิสไว้สำหรับใช้ในพื้นที่ชนบทเล็กน้อย ส่วนในเมืองใหญ่ บัตรเครดิตสามารถใช้จ่ายได้เกือบทุกที่

สวิตเซอร์แลนด์มีความปลอดภัยในการเดินทางมากน้อยแค่ไหน?

สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง แต่ควรระวังทรัพย์สินในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน และพก ประกันเดินทางต่างประเทศ เพื่อความมั่นใจในกรณีฉุกเฉิน

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย