vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า

ประกันรถยนต์ไฟฟ้า เกณฑ์ใหม่ปี 2569 สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อประกัน EV

schedule
share

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักของคนใช้รถยุคใหม่ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือ ประกันรถยนต์ไฟฟ้าไม่เหมือนประกันรถยนต์ทั่วไปอีกต่อไป โดยเฉพาะในช่วงปี 2569 ที่มีการปรับเกณฑ์ประกันใหม่ ครอบคลุมทั้งเรื่องผู้ขับขี่ แบตเตอรี่ อุปกรณ์ชาร์จ และโครงสร้างเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า
หากกำลังคิดจะซื้อหรือใช้งานรถ EV บทความนี้คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

กฎเกณฑ์ใหม่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าปี 2569

ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2568 ต่อเนื่องถึง 2569 บริษัทประกันได้ปรับเกณฑ์การรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับความเสี่ยงจริงของการใช้งาน EV ซึ่งแตกต่างจากรถสันดาปแบบเดิมอย่างชัดเจน โดยประเด็นสำคัญมีดังนี้

  1. การประเมินความเสี่ยงจากผู้ขับขี่ (Driver-based มากขึ้น)
    • พฤติกรรมการขับขี่ถูกนำมาใช้ประเมินเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เช่น อายุผู้ขับ ประสบการณ์ และประวัติการเคลม
    • รถ EV ที่แรงบิดสูง อัตราเร่งเร็ว มีความเสี่ยงอุบัติเหตุในช่วงออกตัว บริษัทประกันจึงให้ความสำคัญกับ “ใครเป็นคนขับ” มากกว่าเดิม
  2. ความคุ้มครองแบตเตอรี่แยกชัดเจนกว่าเดิม
    • แบตเตอรี่ถูกแยกเป็นหัวใจหลักของความเสี่ยง เนื่องจากมีมูลค่าสูงมาก
    • ความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ หรือระบบไฟฟ้าลัดวงจร จะมีเงื่อนไขเฉพาะ
    • บางกรณี ไม่คุ้มครองการเสื่อมตามอายุการใช้งาน ต้องดูรายละเอียดแผนอย่างรอบคอบ
  3. อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) เริ่มมีผลต่อความคุ้มครอง
    • เครื่องชาร์จที่ติดตั้งในบ้าน (Wall Charger) ถูกนำมาพิจารณาความเสี่ยง
    • หากติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลต่อการรับประกันกรณีไฟไหม้หรือระบบไฟฟ้าเสียหาย
    • บางบริษัทประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีความคุ้มครองอุปกรณ์ชาร์จเป็น Option เสริม
  4. การซ่อมต้องใช้ศูนย์เฉพาะทางมากขึ้น
    • รถ EV ต้องซ่อมกับศูนย์หรืออู่ที่ผ่านมาตรฐานด้านไฟฟ้าแรงสูง
    • บริษัทประกันจึงกำหนดเครือข่ายอู่ชัดเจนกว่ารถทั่วไป
    • ส่งผลต่อค่าเบี้ยและเงื่อนไขการเคลม
  5. โครงสร้างส่วนลดเบี้ยประกันเปลี่ยนไป
    • ส่วนลดจากประวัติไม่เคลม (No Claim Discount) ยังมี แต่ถูกคำนวณละเอียดขึ้น
    • บางรุ่น บางยี่ห้อ อาจไม่ได้รับส่วนลดเท่ารถสันดาป เนื่องจากต้นทุนซ่อมสูง
    • รถ EV ใหม่บางรุ่นอาจมีเบี้ยสูงในช่วงแรก ก่อนจะปรับลดเมื่อมีข้อมูลการใช้งานมากขึ้น

ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2569 เป็นการปรับระบบคิดเบี้ยและความคุ้มครองใหม่ทั้งชุด เพื่อรับมือกับเทคโนโลยีและต้นทุนที่แตกต่าง

ทำไมต้องมีประกันรถยนต์ไฟฟ้า?

  • มูลค่าแบตเตอรี่สูงมาก หากเสียหาย ค่าเปลี่ยนอาจสูงถึงหลักแสน–หลักล้านบาท
  • ระบบไฟฟ้าแรงสูงมีความซับซ้อน ต้องใช้ศูนย์ซ่อมเฉพาะทาง ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถทั่วไป
  • อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าหรือไฟไหม้ มีความเสี่ยงและผลกระทบรุนแรงกว่า
  • รถ EV รุ่นใหม่มีเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ซ่อมแพง
  • ประกันช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน และทำให้การใช้รถ EV เป็นเรื่องสบายใจมากขึ้นในระยะยาว

ประกันรถยนต์ไฟฟ้า เหมาะกับใคร?

ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเหมาะกับใคร

ถ้าคุณใช้รถ EV ประกันรถยนต์ไฟฟ้าคือของจำเป็น

  • ผู้ที่ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นรถหลักในชีวิตประจำวัน ขับบ่อย ใช้งานจริง
  • เจ้าของรถ EV รุ่นใหม่หรือรถมูลค่าสูง ที่ค่าแบตเตอรี่และค่าอะไหล่ซ่อมแพง
  • คนที่ชาร์จรถที่บ้านหรือคอนโด และมีอุปกรณ์ชาร์จไฟเป็นของตัวเอง
  • ผู้ที่กังวลความเสี่ยงด้านระบบไฟฟ้า แบตเตอรี่ หรืออุบัติเหตุที่ซ่อมยาก
  • คนที่อยากควบคุมค่าใช้จ่ายระยะยาว และไม่อยากเจอค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว

เลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้ายังไง ให้เหมาะกับรถของคุณ

ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าไม่ควรเลือกแบบ ใช้เกณฑ์รถน้ำมันมาเทียบ เพราะความเสี่ยงของ EV อยู่ที่แบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้า และต้นทุนซ่อมที่ต่างออกไป การเลือกให้เหมาะตั้งแต่แรก จะช่วยลดปัญหาเวลาเคลมในอนาคตได้เยอะมาก

ดูความคุ้มครองแบตเตอรี่ให้ชัดเจน

แบตเตอรี่คือหัวใจและต้นทุนหลักของรถ EV ควรตรวจสอบว่าคุ้มครองกรณีใดบ้าง เช่น อุบัติเหตุ ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม และมีข้อยกเว้นเรื่องการเสื่อมสภาพหรือไม่ อ่านตรงนี้ไม่ชัด เท่ากับเสี่ยงเจอค่าใช้จ่ายหลักแสน–หลักล้านเอง

เช็กเงื่อนไขอู่ซ่อมและศูนย์บริการ

รถ EV ต้องซ่อมกับอู่หรือศูนย์ที่ผ่านมาตรฐานไฟฟ้าแรงสูง ควรเลือกประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเครือข่ายอู่ EV รองรับจริง ไม่ใช่คุ้มครองบนกระดาษแต่ซ่อมยากในชีวิตจริง จุดนี้มีผลทั้งคุณภาพการซ่อมและระยะเวลาเคลมโดยตรง

พิจารณาอุปกรณ์ชาร์จและการใช้งานจริง

ถ้าคุณมีเครื่องชาร์จที่บ้าน หรือชาร์จในพื้นที่ส่วนตัว ควรดูว่าประกันครอบคลุมความเสียหายจากระบบไฟฟ้า หรือเหตุที่เกี่ยวข้องกับการชาร์จหรือไม่ เพราะอุบัติเหตุจากไฟฟ้า เป็นความเสี่ยงเฉพาะของรถ EV ที่รถทั่วไปไม่มี

ตรวจสอบเงื่อนไขอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า

หากคุณมีเครื่องชาร์จติดตั้งที่บ้านหรือคอนโด ควรดูว่าประกันคุ้มครองความเสียหายจากอุปกรณ์ชาร์จหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีไฟฟ้าลัดวงจร หรือเหตุที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ซึ่งเริ่มมีผลต่อการพิจารณาเคลมมากขึ้น

ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า คุ้มครองครบทุกเหตุไม่คาดคิด

รถยนต์ไฟฟ้าอาจช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงในระยะยาว แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายกับแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าที่คิดหลายเท่า

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ดี จึงไม่ใช่แค่ “มีชื่อว่า EV Insurance” แต่ต้องคุ้มครองได้จริง ทั้งตัวรถ แบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้า อุปกรณ์ชาร์จ และขั้นตอนการซ่อมที่เหมาะกับ EV

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)