ขึ้นชื่อว่าเป็นรถ ECO Car ที่ประหยัดน้ำมันได้มากแล้ว แต่ถ้าต้องการประหยัดมากขึ้นไปอีกก็ต้องเป็นรถ Hybrid ที่ตอบโจทย์ในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทางใกล้หรือทางไกล โดยวันนี้จะพาไปดูรถ Eco Car ยอดนิยมอย่าง Honda City e:HEVว่าน่าซื้อแค่ไหนไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งหรือมือสอง
Honda City e:HEVถือเป็นรถยนต์ไฮบริดEco Car ขนาดเล็ก เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำจากฮอนด้า ที่ตอบโจทย์ทั้งความประหยัดและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในราคาที่คุ้มค่า Honda City e:HEV จึงเป็นรถที่หลายคนจับตามองในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูง
Honda City e:HEVมีรูปแบบโครงสร้างด้วยกัน 2 แบบคือ แบบ เก๋ง SEDAN และ แบบ HATCHBACK 5 ประตู มาพร้อมเครื่องยนต์ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบ 16 วาล์วi-VTEC 1,498 cc. 98 แรงม้า(PS) ที่ 5,600 – 6,400 รอบ/นาที ที่แรงบิดสูงสุด 127 นิวตัน-เมตร / 4,500 – 5,000 (รอบ/นาที) และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109ps) ที่ 3,500 – 8,000 รอบ/นาที ที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร
ระบบเกียร์ E-CVT (Electrical Continuously Variable Transmission) ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ระบบขับเคลื่อน Full Hybrid e:HEV ของฮอนด้า ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างชาญฉลาด เพื่อการขับขี่ที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมันและตอบสนองได้อย่างมั่นใจ โดยระบบสามารถปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 3 โหมดหลัก ได้แก่
1. โหมดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
เหมาะสำหรับการออกตัวหรือขับขี่ที่ความเร็วต่ำ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนล้อ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขณะเครื่องยนต์หยุดทำงาน มอบการเร่งที่รวดเร็วและเงียบ เหมาะกับการขับขี่ในเมือง
2. โหมดขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าและส่งแรงบิดสูงสุด ตอบสนองการเร่งแซงอย่างทันใจ เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ต้องการความเร็วและกำลัง
3. โหมดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
เครื่องยนต์ส่งกำลังตรงไปยังล้อผ่านระบบล็อกอัพคลัตช์ ลดการสูญเสียพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ที่ความเร็วสูงคงที่
4. โหมดคืนพลังงาน (Regeneration)
ขณะถอนคันเร่งหรือเบรก ระบบจะเปลี่ยนพลังงานจากการชะลอความเร็วเป็นพลังงานไฟฟ้า ชาร์จกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่
จะเห็นว่าเทคโนโลยี Honda City e:HEV จากฮอนด้า ช่วยมอบสมรรถนะที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมันและปรับการทำงานอย่างชาญฉลาด ให้การขับขี่ราบรื่นและมั่นใจในทุกเส้นทาง
Honda City e:HEV มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้แตกต่างจากรุ่นปกติหรือรถคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน ดังนี้
1. อัตราการประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม
City e:HEVสามารถทำอัตราการประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 27.8 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าโดดเด่นอย่างมากเมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปที่ทำได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 กิโลเมตร/ลิตร
2. สมรรถนะการขับขี่ที่ลื่นไหล
ระบบ e:HEV ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล การเร่งเครื่องทันใจและไม่มีอาการกระตุกระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ เนื่องจากใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า E-CVT
3. เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING
City e:HEVมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยล้ำสมัย เช่น
4. ดีไซน์ภายนอกและภายในพรีเมียม
Honda City e:HEV มีดีไซน์สปอร์ตหรูหราทั้งภายในและภายนอก เช่น ไฟหน้า Full LED, กระจังหน้าโครเมียมเงาและเบาะหนังภายในที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม
5. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้วยการปล่อยไอเสียที่น้อยลงและระบบขับเคลื่อนไฮบริด ทำให้ City e:HEV เป็นรถที่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่คุ้มค่าในระยะยาว Honda City e:HEV ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าน้ำมันเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
1. ประหยัดค่าน้ำมัน
ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด e:HEV ช่วยลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถเป็นประจำทุกวัน
2. เทคโนโลยีทันสมัย
ระบบ Honda SENSING และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทำให้ City e:HEV ให้ความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่มากขึ้น
3. ค่าบำรุงรักษาไม่แพงอย่างที่คิด
Honda เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและอะไหล่ที่หาง่าย นอกจากนี้ระบบ e:HEVยังได้รับการออกแบบให้ดูแลรักษาง่าย ไม่ซับซ้อนเหมือนรถไฮบริดบางรุ่น ที่สำคัญมีการรับประกันระบบไฮบริด แบบไม่จำกัดระยะทางมากถึง 5 ปี
4. ราคาขายต่อดี
รถยนต์ Honda มีราคาขายต่อที่ดีในตลาดมือสอง เพราะมีศูนย์บริการจำนวนมาก แทบจะทุกจังหวัดในประเทศไทย ราคาอะไหล่มีความใกล้เคียงกับของเทียบเท่าและคุณภาพของการบริการและความซื่อสัตย์ที่มีต่อลูกค้า ที่หาได้ยากจากอู่ภายนอก ซึ่งทำให้การลงทุนซื้อ City e:HEV คุ้มค่ามากขึ้นในระยะยาว
Honda City e:HEV คือรถยนต์ไฮบริดสุดล้ำที่เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการความประหยัดและสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยี e:HEVที่ผสมผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ทำให้ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่หรูหราและเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ที่ช่วยให้การขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อมีรถเป็นของตัวเองแล้ว อย่าลืมวางแผนการขับขี่อย่างมั่นใจด้วย insureverseอย่าลืมตรวจสอบประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ insureverseมีแผนประกันภัยรถยนต์หลากหลายแบบให้เลือก ในราคาที่คุ้มค่า เช่น ประกันชั้น 3+ รับประกันความคุ้มครองทั้งเจ้าของรถและคู่กรณี พร้อมบริการที่รวดเร็วและสะดวกสบาย สามารถ เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ และดูรายละเอียดเพิ่มเติมและขอใบเสนอราคาได้ที่เว็บไซต์ insureverseเพื่อการขับขี่ที่อบอุ่นใจในทุกเส้นทาง
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
Mazda CX-5 2025 กลับมาในโฉมใหม่ที่จัดเต็มทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะการขับขี่ ไม่ใช่แค่ปรับหน้าตาให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ยังเพิ่มฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ทั้งไฟหน้าโปรเจกเตอร์ LED แบบใหม่ กระจังหน้าดีไซน์เฉียบ กันชนหน้าและหลังที่ออกแบบให้เข้ากับตัวรถมากขึ้น รวมถึงล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าที่เคย ภายในห้องโดยสารก็ได้รับการอัปเกรดให้หรูหราขึ้น ด้วยวัสดุพรีเมียมอย่าง Real Wood และเบาะหนัง Nappa ในรุ่น XDL ให้ความรู้สึกหรูหราแบบที่หารถในระดับเดียวกันได้ยาก นี่คือ SUV ที่ไม่ใช่แค่ขับดี แต่ยังมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมในทุกสัมผัส และเมื่อเลือกรถที่ใช่แล้ว อย่าลืมมองหา ประกันรถชั้น 1 ที่คุ้มค่า ปรับแผนความคุ้มครองได้เอง จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่ต้องเสียเงินกับแพ็กเกจที่ไม่ตอบโจทย์ กับ insurverse ที่ซื้อตรงได้เลย ไม่ต้องผ่านตัวแทน ดีไซน์ภายนอก Mazda CX-5 2025 Mazda CX-5 2025 ได้รับการปรับโฉมให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เปลี่ยนดีไซน์ภายนอก แต่ยังเพิ่มความพรีเมียมให้กับตัวรถ กระจังหน้าได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความเฉียบคมมากขึ้น พร้อมโลโก้ Mazda ที่โดดเด่นตรงกลาง กรอบไฟหน้าปรับเป็น LED… Continue reading Mazda CX-5 2025 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ใครที่กำลังมองหากระบะ 4 ประตูที่แรงขึ้น ขับสนุก และยังประหยัดน้ำมันมากขึ้น Isuzu D MAX 4 ประตู รุ่นใหม่ล่าสุด น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด
Motor Show 2568 กลับมาอีกครั้ง พร้อมความอลังการที่เหนือกว่าทุกปี นี่คืองานที่คนรักรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเวทีที่ค่ายรถชั้นนำระดับโลกขนเอารุ่นใหม่ล่าสุดมาเปิดตัวแบบจัดเต็ม ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า ไฮบริด และซูเปอร์คาร์สุดหรู