เอ็นไขว้หน้าขาดเป็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บที่ไม่มีใครอยากเจอ โดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬา คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือแม้แต่คนทั่วไปก็มีโอกาสเสี่ยงได้จากอุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน อาการนี้ไม่เพียงทำให้เจ็บปวดรุนแรงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิต ทั้งเรื่องการเดิน การทำกิจกรรมต่าง ๆ และอาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูยาวนานกว่าจะกลับมาใช้งานข้อเข่าได้ตามปกติ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็อาจเป็นภาระที่หนักเกินไป การเช็กเบี้ยประกันอุบัติเหตุจาก insurverse จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้มั่นใจได้ว่า หากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น เอ็นไขว้หน้าขาด จะสามารถเคลมค่าใช้จ่ายในการรักษาตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ได้ ลดภาระค่าใช้จ่าย และช่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้อย่างสบายใจ
เอ็นไขว้หน้า (Anterior Cruciate Ligament หรือ ACL) เป็นเส้นเอ็นที่มีหน้าที่สำคัญมากในข้อเข่า คิดง่าย ๆ ว่ามันคือ “ตัวล็อก” ที่ช่วยให้ข้อเข่ามั่นคง ไม่หลวม ไม่โยกเกินไป และคอยควบคุมการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของเข่า ถ้าไม่มีมัน หรือถ้ามันขาด ข้อเข่าจะเสียสมดุลไปทันที อาการเดินโคลงเคลง ขาไม่มีแรง หรือแม้แต่ล้มพับเองก็เกิดขึ้นได้เลย
คนที่เอ็นไขว้หน้าขาดจะรู้สึกว่าข้อเข่ามีปัญหาต่อการลงน้ำหนัก บางคนแค่เดินก็ลำบากแล้ว ยิ่งเป็นนักกีฬาหรือคนที่ต้องใช้เข่าหนัก ๆ นี่คือฝันร้ายเลยทีเดียว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าปกติอีกด้วย
ไม่ต้องเป็นหมอก็พอจะดูออกว่าเข่ามีปัญหา ถ้าเอ็นไขว้หน้าขาด อาการจะมาเต็มแบบไม่ต้องเดา โดยอาการหลัก ๆ ที่ต้องจับตามีดังนี้:
อาการเหล่านี้บ่งบอกชัดว่าเอ็นไขว้หน้ามีปัญหา ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ก่อนที่อาการจะรุนแรงไปกว่านี้
การบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้ามักเกิดจากแรงกระแทก หรือการเคลื่อนไหวผิดจังหวะ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่:
นักฟุตบอล บาสเกตบอล และแบดมินตัน มีโอกาสสูงมากที่เอ็นไขว้หน้าจะขาด เพราะมีการเปลี่ยนทิศทางแบบกระทันหันตลอดเวลา เมื่อหมุนข้อเข่าเร็วเกินไป เอ็นอาจฉีกขาดได้แบบไม่รู้ตัว
เวลาเล่นกีฬา เช่น บาสเกตบอล หรือวอลเลย์บอล การกระโดดแล้วลงพื้นแบบขาตรงหรือขาบิดเป็นสิ่งที่อันตรายมาก แรงกระแทกที่ข้อเข่าจะมากจนเอ็นไขว้หน้ารับไม่ไหวและขาดได้
กีฬาที่ต้องหยุดกะทันหันบ่อย ๆ เช่น ฟุตบอล หรือเทนนิส ส่งผลให้แรงกดลงที่ข้อเข่ามากกว่าปกติ และถ้าทำบ่อย ๆ เอ็นก็มีโอกาสขาดง่ายขึ้น
การโดนเตะที่หัวเข่า หรือกระแทกแรง ๆ เช่น ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาจทำให้ข้อเข่าบิดหมุนผิดรูปจนเอ็นฉีกขาด
เพราะโครงสร้างข้อเข่าของผู้หญิงมีมุมที่ทำให้แรงกดตกลงไปที่เอ็นไขว้หน้ามากกว่าผู้ชาย ทำให้โอกาสเอ็นไขว้หน้าขาดสูงกว่า
หมอจะใช้การตรวจข้อเข่าด้วยมือ เช่น Lachman Test หรือ Pivot Shift Test เพื่อดูว่าข้อเข่าหลวมผิดปกติหรือไม่ และอาจต้องทำ MRI เพื่อตรวจดูรายละเอียดของเส้นเอ็นและความเสียหายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ถ้าอาการไม่หนักมาก และข้อเข่ายังมั่นคง อาจรักษาโดยทำกายภาพบำบัด สร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้แข็งแรง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ
หากเอ็นขาดทั้งหมด หรือข้อเข่าไม่มีความมั่นคงจนกระทบต่อการใช้ชีวิต จำเป็นต้องผ่าตัด โดยใช้เส้นเอ็นจากร่างกายตัวเอง (มักใช้เอ็นร้อยหวาย หรือเอ็นสะบ้า) หรือจากผู้บริจาค มาแทนที่เอ็นไขว้หน้าที่ขาดไป
หลังจากเอ็นไขว้หน้าขาดและเข้ารับการรักษา (ไม่ว่าจะผ่าตัดหรือไม่) สิ่งสำคัญที่สุดคือการกายภาพบำบัด เพราะจะช่วยให้ข้อเข่ากลับมาแข็งแรง ฟื้นตัวไว และลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บซ้ำ ซึ่งการกายภาพที่ถูกต้องควรทำเป็นขั้นตอนดังนี้
การป้องกันดีกว่าการรักษา ถ้าไม่อยากเจ็บตัวหรือพักฟื้นยาวเป็นปี การฝึกกล้ามเนื้อและระวังการเคลื่อนไหวของข้อเข่าเป็นเรื่องสำคัญมาก
สามารถเคลมได้ เนื่องจากเอ็นไขว้หน้าขาดถือเป็นอุบัติเหตุที่สร้างความเจ็บปวดและบาดแผลให้ผู้เอาประกัน จึงสามารถเคลมค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ โดยปกติแล้ว ประกันอุบัติเหตุจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่ากายภาพบำบัด และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
แม้บางคนจะยังเดินได้หลังจากเอ็นไขว้หน้าขาด แต่ข้อเข่าจะไม่มีความมั่นคง ซึ่งอาจทำให้เกิดบาดเจ็บซ้ำและเสี่ยงต่อข้อเข่าเสื่อมในอนาคต ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กและวางแผนการรักษาให้เหมาะสม
ได้ ถ้าไม่ได้เป็นนักกีฬาและข้อเข่ายังมั่นคง สามารถใช้กายภาพบำบัดเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้แข็งแรงแทน แต่หากข้อเข่าหลวมและมีอาการทรุดตัว อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว
ขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูและกายภาพบำบัด ถ้าทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ผู้ป่วยสามารถกลับไปเล่นกีฬาที่ใช้แรงบิดหมุนได้หลังจาก 9-12 เดือน แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์และทดสอบสมรรถภาพข้อเข่าก่อน
มีแน่นอน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เอ็นที่ขาดจะทำให้ข้อเข่าหลวมและกระดูกอ่อนเสียดสีกันมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร
วิธีที่ดีที่สุดคือฝึกกล้ามเนื้อต้นขาและเอ็นรอบข้อเข่าให้แข็งแรง ฝึกเทคนิคการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการกระโดดลงพื้นผิดท่า และใช้สนับเข่าเมื่อต้องเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
เคยไหม? อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเวียนหัว ตาพร่า เหงื่อแตก แล้วจู่ ๆ ทุกอย่างก็ดับวูบไป! อาการเป็นลมถือเป็นเรื่องที่หลายคนเคยเจอ ไม่ว่าจะเกิดจากอากาศร้อนจัด ยืนนานเกินไป หรือความเครียดที่เล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัว
กระดูกไหปลาร้าหักเป็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการล้มแรง ๆ การปะทะขณะเล่นกีฬา หรืออุบัติเหตุทางถนน การบาดเจ็บนี้ส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของหัวไหล่และแขน ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง
ตะขาบเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวเรียวยาว ขาเยอะ และเคลื่อนไหวเร็วมาก ส่วนใหญ่จะพบตามพื้นดิน ใต้กองใบไม้ ซอกมุมอับชื้น และในบางครั้งก็มักจะเข้ามาหลบตามบ้านเรือน