ปัญหายางบวม คือในสิ่งที่ผู้ใช้รถเป็นประจำอาจพบเจอ โดยเฉพาะในรถที่ฝืนใช้จนเลยอายุการใช้งานยาง แต่รู้กันหรือไม่ว่า ยางรถบวม เป็นหนึ่งในปัญหาสุดอันตราย ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จนต้องเรียกประกันภัยรถยนต์กันมานักต่อนักแล้ว และในวันนี้ insurverse เราจะพาไปดูถึงสาเหตุทั้งหมด ที่ทำให้เกิดอาการยางบวม รวมไปถึงเกร็ดความรู้ต่าง ๆ อีกมากมายกัน
ผู้ใช้รถหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ยางบวมเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง นอกจากใช้งานเกินอายุของยาง เราจะพามาดูสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ยางรถบวมกัน
การขับเบียด หรือตกหลุมอย่างรุนแรง เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ยางรถบวมอย่างไม่รู้ตัว เพราะโครงสร้างยางนั้นจะเป็นเส้นลวดที่ถักทออยู่ภายใน เหมือนเวลาที่เราเคยเห็นยางฉีกขาดเป็นเส้น ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เลยทำให้การเบียด หรือกระแทกอย่างรุนแรงกับตัวยาง จะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย และมีอาการบวมเกิดขึ้น
การใช้งานยางเกินอายุ หรือฝืนขับต่อเพราะคิดว่ายังเบรกได้เหมือนเดิม และไม่ได้ใช้วิ่งออกต่างจังหวัดไกล ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยางรถบวม ซึ่งอันตรายเป็นอย่างมาก เพราะยางทุกเส้น จะมีอายุการใช้งานตามมาตรฐานที่ 40,000 – 50,000 กม. หรือจะอยู่ที่ 3.5 – 4 ปี เท่านั้น โดยจะนับตั้งแต่วันที่ล้อเริ่มลงแตะพื้นถนน
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยางบวม ก็คือการบรรทุกน้ำหนักที่มากจนเกินไป ซึ่งผู้ใช้รถเก๋งซีดานส่วนใหญ่อาจจะไม่มีปัญหานี้ แต่เรามักจะพบเห็นจากรถกระบะส่งของเป็นส่วนใหญ่ ที่บรรทุกน้ำหนักเกินมาตรฐาน จึงทำให้รถเกิดยางบวม และแตกจนเกิดอุบัติเหตุในท้ายที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างมากในการใช้รถ
หากยางเคยมีอาการรั่วซึมมาก่อน แม้จะเคยปะซ่อมแซมมาแล้ว แต่หากเป็นการซ่อมแซมที่บริเวณท้องยาง โอกาสที่ยางจะมีความชื้นเข้าไปภายใน และทำให้เส้นลวดที่เป็นเหล็กมีโอกาสเกิดสนิม จนทำให้โครงสร้างยางเกิดความเสียหายได้ในระยะยาว และทำให้ยางรถบวมขึ้นมานั่นเอง
รถที่ยางบวม จะสังเกตเห็นได้ชัดที่บริเวณแก้มยาง ไม่ว่าจะเป็นรอยนูนเล็ก ๆ ไปจนถึงรอยขนาดใหญ่แบบลูกมะนาว ก็ล้วนมีความอันตรายในการใช้งานทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่สามารถจับอาการได้อย่างแน่ชัดในระหว่างขับ จึงจำเป็นอย่างมากในการตรวจดูที่บริเวณล้อทุกครั้ง เมื่อต้องการใช้งานรถเพื่อเดินทาง
วิธีแก้ยางบวมนั้นไม่มี และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างมาก เพราะยางรถที่บวมไปแล้ว คือสัญญาณเตือนสุดอันตราย ที่กำลังบ่งบอกว่า โครงสร้างยางเกิดความเสียหายอย่างหนัก และไม่ปลอดภัยในการใช้งานอีกต่อไป จึงควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ในการใช้งานทันที
ยางรถบวม ไม่ควรขับต่ออย่างมาก เพราะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเวลา ทางที่ดีควรหารีบหาที่เปลี่ยนยางให้เร็วที่สุด หรือหากจำเป็นจะต้องขับไปร้านยางจริง ๆ ก็ควรใช้ความเร็วต่ำ และใช้ช่องจราจรทางด้านซ้ายเพื่อความปลอดภัยจะดีที่สุด
เมื่อรู้กันถึงสาเหตุ และปัญหายางบวมกันไปหมดแล้ว ทีนี้เราจะพามาดูวิธีการใช้รถกันบ้างว่า ควรขับหรือดูแลแบบไหนให้ห่างไกลอาการยางบวมมากที่สุด เรามาดูกัน
ผู้ใช้รถน่าจะเห็นได้ว่า ยางบวม เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จึงสำคัญอย่างมาก ที่จะต้องตรวจเช็กสภาพยางทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้รถยางบวม จนเกิดเป็นอุบัติเหตุในภายหลัง ที่อาจจะรุนแรงได้ และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คนมีรถต้องไม่ละเลย ก็คือ การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันชั้น 2+ กับ insurverse ที่ผู้ใช้รถสามารถเลือกปรับแต่งกรมธรรม์ได้เอง จึงตอบโจทย์เงินในกระเป๋าอย่างแน่นอน
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง