อุบัติเหตุคงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว มีเรื่องอะไรบ้างที่เราต้องรู้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเราเอง รู้กันหรือไม่ ว่าเราสามารถเรียกค่าเสียเวลาจากประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ เพื่อรับการชดเชยในระหว่างที่รถกำลังซ่อมอยู่ มาทำความเข้าใจเรื่องค่าเสียเวลารถชนให้มากขึ้นกันดีกว่า
ค่าเสียเวลา คือ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ที่ประกันของฝ่ายรถยนต์ที่ผิด จะต้องชดใช้ให้กับคู่กรณีที่เสียผลประโยชน์จากการไม่มีรถใช้งานในระหว่างรอซ่อม โดยมีการคิดค่าเสียเวลารถชนเป็นรายวัน และผู้เสียผลประโยชน์จะต้องดำเนินเรื่องกับทางบริษัทประกันรถยนต์เพื่อขอชดเชยในส่วนนี้
เมื่อเกิดเหตุรถโดนชน การเรียกค่าเสียเวลาจะขึ้นอยู่กับขนาดของรถยนต์ที่เกิดเหตุ โดยจะมีขั้นต่ำในการจ่ายชดเชยตามแต่ละประเภทไป ดังนี้
การที่รถโดนชน เรียกค่าเสียเวลาอย่างไรได้บ้าง มีขั้นตอนที่ยุ่งยากไหม ต้องบอกว่าง่ายกว่าที่คิดเยอะ เพราะทางบริษัทประกันของคู่กรณีก็จะช่วยจัดการให้ โดยทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ติดต่อไปยังบริษัทของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด เพื่อทำการเรียกร้องค่าเสียเวลารถชน ในระหว่างที่รอรถกำลังซ่อมอยู่
ทางบริษัทประกันของคู่กรณี จะติดต่อมาเพื่อแจ้งเรื่องเอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ในการดำเนินการ ให้เราเตรียมเอกสารตามที่ร้องขอ พร้อมจัดส่งไปยังที่อยู่ที่แจ้งมา
บริษัทประกันของคู่กรณีจะติดต่อกลับมา เพื่อแจ้งเรื่องประเมินในการชดเชยค่าเสียเวลารถชน พร้อมทำการต่อรองเพื่อรักษาผลประโยชน์
หลังเสร็จสิ้นการตกลงเรื่องค่าเสียเวลารถชน ทางบริษัทจะทำการชดเชยเงินให้ภายในไม่เกิน 7 วัน ขึ้นอยู่กับประกันแต่ละเจ้า
ขั้นตอนการทำเรื่องขอค่าเสียเวลารถชนนั้นไม่ได้ยุ่งยาก แต่สิ่งที่ทำเอาหลายคนแอบเหนื่อยใจอาจจะเป็นเรื่องเอกสารเสียมากกว่า เพราะต้องใช้เอกสารในการทำเรื่องหลายอย่าง ซึ่งอาจจะเตรียมกันไม่ครบ ดูตามเช็กลิสต์นี้เป็นตัวอย่างได้เลย
ซึ่งเอกสารที่ใช้ในการขอค่าเสียเวลารถเหล่านี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการร้องขอจากบริษัทประกันของคู่กรณี จึงควรสอบถามให้ครบถ้วน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาในการดำเนินเรื่อง
ค่าเสียเวลารถชน คือ การชดเชยที่เราควรจะได้เมื่อคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของตัวเราเอง และในทางกลับกัน หากเราเป็นฝ่ายผิด การทำประกันรถยนต์ หรือทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ ก็จะช่วยชดเชยในส่วนนี้ให้กับคู่กรณีเช่นกัน นั้นคือสาเหตุที่ว่า ทำไมจึงควรทำประกันรถยนต์เอาไว้
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ บางคนมีประกันหลายฉบับ บางคนทำไว้หลายบริษัท พอทำประกันไว้หลายฉบับ หลายบริษัท หลายปีติด ๆ กัน แล้วเล่มหายหรือจำไม่ได้ว่าทำไว้กับใคร ปัญหาเริ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ทุกวันนี้สามารถเช็คกรมธรรม์จากเลขบัตรประชาชนได้แล้ว ไม่ต้องไปขุดหาเอกสารเก่า ไม่ต้องโทรถามใครให้ยุ่ง
เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของอีกฝ่ายโทรมาเรียกเก็บค่าซ่อม ใครไม่เคยเจอก็อาจจะคิดว่า “ก็แค่จ่ายไปสิ” แต่พอถึงเวลาจริง บางเคสค่าซ่อมอาจพุ่งไปถึงหลักแสนแบบไม่ทันตั้งตัว แถมบางคนไม่มีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที ก็เลยกลายเป็นคำถามยอดฮิตว่า ถ้าไม่มีเงินจ่าย ประกันเรียกค่าซ่อมแบบนี้ ผ่อนได้ไหม? แล้วจะคุยกับประกันยังไงให้ไม่โดนฟ้อง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้รอดจากสถานการณ์สุดเครียดนี้ทุกมุม มาหาคำตอบแบบไม่ต้องมโนกันในบทความนี้ดีกว่า การเลือกประกันรถยนต์ที่เข้าใจคนขับจริง ๆ เลยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้เลือกความคุ้มครองเองได้ตามงบอย่าง insurverse ที่ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น แถมยังซื้อตรงไม่ผ่านตัวแทน ถูกจริงตั้งแต่แรก ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมในทันที ทำไงดี ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บค่าซ่อมจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แล้วคนคนนั้นไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องรีบจ่ายทันทีแบบหน้ามืดตามัว เพราะสามารถขอเจรจากับบริษัทประกันได้ตรง ๆ ว่าจะขอผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ไหม ซึ่งประกันหลายเจ้าก็พร้อมรับฟัง ถ้ามีเหตุผลและความจริงใจที่จะจ่ายจริง วิธีนี้เรียกว่า การประนอมหนี้ คล้าย ๆ กับการตกลงกันว่า จะผ่อนเท่าไหร่ กี่งวด แล้วต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือบันทึกไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาในอนาคต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ประกันของตัวเองช่วยอะไรได้บ้าง ในบางเคส คนที่เป็นฝ่ายผิดก็ยังมีประกันรถยนต์ของตัวเองอยู่ แบบนี้สบายใจได้ในระดับนึง เพราะประกันของเราจะเข้ามาช่วยดูแลค่าซ่อมในส่วนที่ครอบคลุมไว้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่ต้องไม่ใช่เคสที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิ เช่น เมาแล้วขับ หรือใช้รถผิดประเภท… Continue reading ประกันเรียกเก็บค่าซ่อม ผ่อนได้ไหม? รู้ทันทุกขั้นตอนก่อนโดนฟ้อง คุยจบ เคลียร์ได้ ไม่ต้องหนี
กรมธรรม์ คือ เอกสารสัญญาสำคัญระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย โดยจะระบุความคุ้มครองที่จะได้รับเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง